2 เอกชน แห่ร้อง 'อนุพงษ์-ผู้ว่าฯ กฟภ.' ขอความเป็นธรรมตรวจสอบโครงการติดตั้งอุปกรณ์ระบบศูนย์สั่งการจ่ายไฟ 1.2 พันล้าน หวั่นจนท.มีธงกีดกันไม่เอาสินค้าจากจีน ลามกระทบความสัมพันธ์การค้าระหว่างประเทศ เหตุเปิดช่องใช้ดุลยพินิจตัดสิน70 เต็ม 100 ทำราชการเสียผลประโยชน์ซื้อสินค้า แพงกว่า 400 ล้าน
โครงการประกวดราคาจ้างงานจัดหาพร้อมติดตั้งอุปกรณ์ Hardware และ Software ระบบศูนย์สั่งการจ่ายไฟ (SCADA/TDMS) ด้วยวิธีการอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ของ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค วงเงินกว่า 1.2 พันล้านบาท กำลังถูกจับตามอง เมื่อมีเอกชนจำนวน 2 ราย ที่เข้าร่วมประกวดราคาทำหนังสือแจ้งถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อร้องเรียนว่าการจัดประกวดราคาโครงการนี้ มีลักษณะเอนเอียงเพื่อกีดกันสินค้าจากประเทศจีน เนื่องจากมีการเปิดช่องให้เจ้าหน้าที่ใช้ดุลยพินิจตัดสินให้คะแนนถึง 70 เต็ม 100 หวั่นมีธงกีดกันไม่เอาสินค้าจีน เพราะต้องการสินค้าจากยุโรปมากกว่า ซึ่งอาจจะทำให้ราชการต้องเสียประโยชน์ในการซื้อสินค้าที่มีราคาแพงกว่า 300-400 ล้านบาท
แหล่งข่าวจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา ว่า ในช่วงเดือน ต.ค.2562 ที่ผ่านมา การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้ประกาศรายชื่อบริษัทเอกชนรายหนึ่ง ให้ได้รับงานว่าจ้างโครงการประกวดราคาจ้างงานจัดหาพร้อมติดตั้งอุปกรณ์ Hardware และ Software ระบบศูนย์สั่งการจ่ายไฟ (SCADA/TDMS) ดังกล่าว หลังผ่านขั้นตอนการคัดเลือกเรียบร้อยแล้ว
แต่ปรากฎว่า มีเอกชนจำนวน 2 ราย ที่เข้าร่วมการเสนอราคาด้วย ได้ทำหนังสือแจ้งถึงพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ นายสมพงษ์ ปรีเปรม ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย เพื่อร้องเรียนขอความเป็นธรรมเกี่ยวการจัดประกวดราคาโครงการนี้
โดยบริษัท DONGFANG ELECTRONICS จากประเทศจีน ที่ทำหนังสือแจ้งถึงพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้ข้อมูลว่า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้ใช้วิธีการอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ในการจัดประกวดราคางานโครงการนี้ มีเอกชนจำนวน 3 รายเข้าร่วมทำการแข่งขัน
เบื้องต้น มีการกำหนดหลักเกณฑ์การให้คะแนนผู้เข้าประกวดราคาเต็ม 100 คะแนน พบว่า ในหมวดของการให้คะแนนด้านการเสนอราคาของผู้เข้าประกวดราคาซึ่งมีคะแนนเต็ม 25 คะแนนนั้น จะมีความแตกต่างกันสูงสุดของคะแนนอยู่ที่ 12.5 คะแนนเท่านั้น โดยผู้ที่เสนอราคาต่ำสุดจะได้คะแนนเต็ม 25 คะแนน และผู้ที่ยื่นเสนอราคาให้กับภาครัฐแพงสุดจะได้คะแนน 12.5คะแนน ส่วนอีก 5 คะแนนนั้นจะเป็นการพิจารณาคุณสมบัติของบุคลากรที่เสนอผลงาน
ดังนั้นน้ำหนักการพิจารณาและการประกวดราคา จึงต้องไปมุ่งกันที่ข้อเสนอทางเทคนิคของผู้เข้าประกวดราคาทั้งสิ้น 70 คะแนน ซึ่งถ้ามีการให้คะแนนในส่วนของเทคนิคที่ต่างกันเกิน 12.5 คะแนน บริษัทซึ่งแม้จะเสนอราคาแพงกว่า ก็จะมีโอกาสชนะการประกวดราคาอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ดี ทางบริษัททราบมาว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ต้องการได้สินค้าที่มาจาก ประเทศกลุ่มยุโรปมากกว่าสินค้าที่มาจากประเทศจีน จึงมีความกังวลว่าจะมีการใช้ดุลยพินิจในการให้คะแนน ทางเทคนิค เพื่อส่งเสริมสินค้าจากประเทศกลุ่มยุโรป โดยพยายามให้มีความแตกต่างของคะแนนมากกว่า 12.5 คะแนน ซึ่งการกระทําดังกล่าว นอกจากจะทําให้ทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเสียผลประโยชน์เนื่องจากซื้อสินค้า ในราคาที่แพงกว่า 300 ถึง 400 ล้านบาทแล้ว ยังเป็นการกีดกันสินค้าจากประเทศจีนที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งอาจทําให้กระทบความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างประเทศอีกด้วย (ดูหนังสือประกอบ)
ขณะที่ บริษัท ไอเจน เอนจิเนียริ่ง ผู้เข้าแข่งขันเสนอราคางาน ในนามของกลุ่ม IAM Consortium (ซึ่งมีบริษัท Dongfang รวมอยู่ในกลุ่มด้วย) ได้ทำหนังสือร้องเรียนไปถึงนายสมพงษ์ ปรีเปรม ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย เช่นกัน โดยระบุขอให้ตรวจสอบกระบวนการประกวดราคาดังกล่าวซึ่งเปิดช่องให้ใช้ดุลยพินิจในการตัดสินใจ โดยเฉพาะในประเด็นที่คณะกรรมการอาจจะมีความเอนเอียงไม่เอาสินค้าจากประเทศจีนที่บริษัทมานำเสนอได้
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังนายพงศธร กาญจนะจิตรา หัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย เพื่อสอบถามข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับการร้องเรียนขอความเป็นธรรมการประกวดราคางานโครงการฯ นี้
นายพงศธร ให้ข้อมูลสำนักข่าวอิศราว่า "ได้รับทราบประเด็นร้องเรียนของทางบริษัทฯ ดังกล่าวโดยคร่าวๆ แล้ว ซึ่งตามหลักการเมื่อมีการร้องเรียนมาจากทางเอกชน ทางกระทรวงฯ ก็คงจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบในประเด็นร้องเรียนกันต่อไป ซึ่งเชื่อว่าอีกไม่นานหนังสือร้องเรียนคงจะมาถึง พล.อ.อนุพงษ์แน่นอน"
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/