'ชัยวัฒน์' โล่ง! ศาลคดีทุจริตฯยกคำร้องดีเอสไอ ไม่ถอนประกัน เหตุไม่มีพฤติกรรมเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ไม่ห้ามให้สัมภาษณ์สื่อด้วย เจ้าตัวเผยศาลมีเมตตา ทุกอย่างพูดไปหมดแล้ว ลั่นเป็น ขรก. ย้ายไปอยู่ไหนก็ได้ ปัดตอบเซ่นคดีบิลลี่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2562 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ยกคำร้องของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่ขอให้ถอนประกันนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ปัจจุบันเป็น ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดปัตตานี (ทสจ.) และหนึ่งในผู้ต้องหา ถูกกล่าวหาว่าฆาตกรรมนายพอละจี รักจงเจริญ (บิลลี่) โดยศาลเห็นว่า ยังไม่มีพฤติกรรมเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน โดยนายชัยวัฒน์ ได้เดินทางมาศาลตั้งแต่ช่วงเช้าเพื่อรอการพิจารณา
กรณีนี้ดีเอสไอ ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ ขอให้เพิกถอนประกันตัวชั่วคราวนายชัยวัฒน์ โดยให้เหตุผลว่า ผู้ต้องหามีพฤติการณ์เข้าข่ายยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ทำให้เป็นอุปสรรคในการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ต้องหาปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนดีเอสไอ แต่กลับให้ข่าวและข้อมูลกับสื่อมวลชนแทน อย่างไรก็ดีศาลได้พิจารณายกคำร้องดังกล่าว โดยพิเคราะห์ว่า จากการสอบถามและได้ข้อเท็จจริงแล้วเห็นว่านายชัยวัฒน์ ยังไม่มีพฤติการณ์เข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานแต่อย่างใด
ภายหลังศาลยกคำร้องขอเพิกถอนคำร้องปล่อยชั่วคราว นายชัยวัฒน์ เดินลงมาพบกับสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมนายพรชัย พฤกษ์พิชัยเลิศ ทนายความ โดยนายพรชัยกล่าวถึงกรณีที่แถลงในศาลว่าจะไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่กระทบกับรูปคดีและยืนยันว่าจะไม่เข้าไปในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานพื้นที่เกิดเหตุว่า ตรงนี้เป็นแนวทางของคดีที่ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน เราเคารพการสอบสวน ขั้นตอนของคดีก็ยังมีการยื่นคำร้องฝากขัง หลังสรุปสำนวนคดีก็ต้องรอดูอัยการว่าจะมีความเห็นสั่งคดีอย่างไร ส่วนที่มีการสัมภาษณ์เกี่ยวกับคดีก่อนหน้านี้ก็เป็นใช้สิทธิตามที่ได้แถลงต่อศาลไว้
เมื่อถามว่าสุดท้ายแล้วศาลไม่ได้กำหนดเงื่อนไขว่าไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อ จะยังให้สัมภาษณ์ต่อได้หรือไม่ นายพรชัยกล่าวว่า นายชัยวัฒน์คงจะไม่มีการให้สัมภาษณ์อีกแล้ว เพราะศาลท่านได้เมตตา เช่นเดียวกับผู้ต้องหาคนอื่น ๆ ที่จะไม่ให้สัมภาษณ์เช่นกัน ส่วนแนวทางสู้คดีก็คงต้องดูพยานหลักฐานของดีเอสไอว่ามีเพิ่มเติมอย่างไร ก็คงจะเห็นได้อีกที หากมีการสั่งฟ้องคดีหรือนัดตรวจพยานหลักฐาน ส่วนพยานหลักฐานเตรียมไว้เบื้องต้น ตามที่ดีเอสไอแจ้งข้อหามา
เมื่อถามถึงกรณีถูกโยกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ จ.ปัตตานี นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า คำสั่งให้ตนย้ายไปเป็น ผอ.สำนักฯใน จ.ปัตตานีนั้น ตนอยู่ที่ไหนก็ได้ เป็นข้าราชการก็ต้องทำงานให้ดีที่สุด ขอให้ชาวปัตตานีได้เห็นทำงานก่อน ตนจะทำงานให้ดีที่สุด ในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าของกระทรวงทรัพยากรฯ ไม่ได้ติดใจอะไร เพราะว่าจริง ๆ แล้วเป็นข้าราชการ ผู้บริหารสั่งไปไหนด็ต้องไป อย่างที่เคยกล่าวไว้ว่าไม่ได้สั่งให้ไปทุจริต และตนจะไปรายงานตัวช่วงต้นเดือนหน้า ทั้งนี้ศาลนัดรายงานตัวฝากครั้งอีกครั้งวันที่ 6 ธ.ค.นี้
เมื่อถามว่าการโยกย้ายครั้งนี้เกี่ยวกับคดีการหายตัวไปของนายบิลลี่หรือไม่ นายชัยวัฒน์ปฏิเสธที่จะตอบคำถามนี้ ก่อนกล่าวขอบคุณสื่อมวลชน และขอตัวเพื่อเดินทางกลับทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขั้นตอนการดำเนินคดีของกลุ่มนายชัยวัฒน์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการฝากขังครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 24 พ.ย.- 5 ธ.ค. 2562 โดยสารกำหนดนัดให้นายชัยวัฒน์กับพวกรวม 4 คนผู้ต้องหามารายงานตัวอีกครั้งภายหลังครบกำหนดฝากขังครั้งที่ 2 ในวันที่ 6 ธ.ค. 2562
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2562 ที่ผ่านมา ดีเอสไอยื่นคำร้องต่อศาลขอให้วินิจฉัยเพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราวนายชัยวัฒน์ ที่ถูกออกหมายจับพร้อมพวกรวม 4 คน เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2562 โดยนายชัยวัฒน์ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนดีเอสไอในวันที่ 12 พ.ย. 2562 ก่อนที่ศาลจะพิจารณาอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวด้วยหลักทรัพย์คนละ 800,000 บาท ต่อมาจากนั้นดีเอสไอได้ทำหนังสือขอให้ศาลพิจารณาเพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราวนายชัยวัฒน์ หรือขอให้ศาลกำหนดเงื่อนไขการปล่อยตัวผู้ต้องหา โดยห้ามให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเกี่ยวกับคดี ห้ามไม่ให้ผู้ต้องหาเข้าไปในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน หรือให้ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนใช้กำไลอิเล็กทรอนิกส์ (กำไลอีเอ็ม) เพื่อป้องกันการหลบหนี
อ่านประกอบ :
‘ชัยวัฒน์’ มอบตัวดีเอสไอ ‘คดีบิลลี่’ ยันไม่หลบหนี ตัดพ้อสื่อ สร้างเรื่องจนไร้ที่ยืน
เปิด 6 ข้อหาหนัก! ศาลฯ อนุมัติหมายจับ ชัยวัฒน์ พวก คดี บิลลี่
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/