เปิดตัวคนซื้อต่อกิจการโรงแรม Allure เมียนมา จาก ‘อุปกิต ปาจรียางกูร’ มูลค่า 8.15 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นนักธุรกิจเปิดบริษัทสปา-ขายผลิตภัณฑ์สมุนไพร อย่างน้อย 2 แห่ง แจ้งงบการเงินล่าสุดไม่มีรายได้
สำนักข่าวอิศรา www.isanews.org รายงานแล้วว่า นายอุปกิต ปาจรียางกูร นักธุรกิจชื่อดัง อดีตสามี น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ แจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ว. เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 2562 ระบุสถานะว่าหย่า โดยในส่วนของรายได้แจ้งขายธุรกิจโรงแรม Allure Resort Hotel Tachileik ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ไปแล้ว มูลค่า 8,150,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 251,672,000 บาท (อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อ 32 บาท)
นายอุปกิต ทำเอกสารแนบถึงเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้แจงเหตุผลว่า การขายโรงแรม Allure ดังกล่าว เนื่องจากต้องการให้ปราศจากข้อครหาใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโรงแรม อีกทั้งไม่ได้เข้าไปดูที่โรงแรมมาเป็นเวลา 4 ปีแล้ว จึงตัดสินใจขายก่อนได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ส.ว. โดยได้รับการชำระเงินค่าโรงแรมดังกล่าวในต่างประเทศเข้าบัญชีธนาคาร B.I.C. (CAMBODIA) BANK PLC. เป็นเงิน 8.15 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (อ่านประกอบ : หวั่นข้อครหา! ‘อุปกิต’สามีเก่า‘ปารีณา’ขายโรงแรมท่าขี้เหล็ก-เมียนมา 8 ล.ดอลลาร์สหรัฐฯ)
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า บุคคลที่เป็นผู้ซื้อกิจการโรงแรม Allure ต่อจากนายอุปกิต คือ นายชาคริส กาจกำจรเดช โดยปรากฏตามเอกสารสัญญาซื้อขายและกิจการโรงแรมที่นายอุปกิตแนบชี้แจงต่อ ป.ป.ช. คัดลอกมาให้ทราบกันดังนี้ (หมายเหตุ : ตามกฎหมายใหม่ ป.ป.ช. ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนหรือประชาชนทั่วไปถ่ายภาพเอกสารประกอบในบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินได้)
สัญญาซื้อขายอาคารและกิจการโรงแรม ทำที่เขตดุสิต กทม เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2562
สัญญาฉบับนี้ทำขึ้นระหว่างนายอุปกิต ปาจรียางกูร อายุ 57 ปี ผู้ขาย กับนายชาคริส กาจกำจรเดช อายุ 59 ปี เป็นผู้ซื้อ
คู่สัญญาทั้ง 2 ฝ่ายตกลงทำสัญญาซื้อขายฉบับนี้โดยมีเงื่อนไขและข้อตกลง ดังต่อไปนี้
1.ผู้ขายตกลงขายและผู้ซื้อตกลงซื้ออาคารตึกคอนกรีตเสริมเหล็ก (คสล) 3 ชั้น จำนวน 1 หลัง ห้องพักจำนวน 78 ห้อง และกิจการโรงแรมชื่อว่า Allure Resort Hotel Tachileik Myanmar และสิทธิการใช้ประโยชน์บนที่ดินอันเป็นที่ตั้งของอาคารดังกล่าว
2.คู่สัญญาได้ตกลงราคาที่ซื้อขายกันดังกล่าวในข้อ 1. ในราคา 8,150,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยตกลงจะชำระเงินกันภายในเดือน ส.ค. 2562 ให้แก่ผู้ขาย และตกลงชำระเงินให้แก่ผู้ขายในต่างประเทศ
3.คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงกันว่า ผู้ขายจะส่งมอบการครอบครองและผู้ซื้อจะรับมอบการครอบครองอาคารดังกล่าว ในวันที่ 9 พ.ค. 2562
4.ในวันทำสัญญานี้ ผู้ซื้อได้ตรวจดูทรัพย์ที่ซื้อขายตามข้อ 1. แล้วเห็นว่า อยู่สภาพปกติที่ผู้ซื้อจะได้ใช้ตามวัตถุประสงค์ทุกประการแล้ว
อนึ่ง ผู้ขายไม่ต้องรับผิดในความชำรุดบกพร่อง และการรอนสิทธิในทรัพย์ที่ซื้อขายตามสัญญานี้
5.คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงกันว่า หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งผิดนัดสัญญาในข้อใดข้อหนึ่ง อีกฝ่ายหนึ่งมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายได้โดยพลัน
สัญญาฉบับนี้ทำขึ้นเป็นสองฉบับ มีข้อความถูกต้องตรงกัน คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้อ่านและเข้าใจโดยตลอดแล้ว เห็นว่า ถูกต้องตรงตามเจตนารมณ์แห่งตนทุกประการ จึงได้ลงลายมือชื่อไว้ต่อหน้าพยาน
นอกจากนี้ นายอุปกิต ยังแนบเอกสารธนาคาร B.I.C. (CAMBODIA) BANK PLC. ลงวันที่ 6 ส.ค. 2562 ว่าเงินจำนวน 8,150,000 ดอลลาร์สหรัฐฯเข้าบัญชีตัวเองแล้ว
ลงชื่อ นายอุปกิต ปาจรียางกูร ผู้ขาย นายชาคริส กาจกำจรเดช ผู้ซื้อ นายอุดม จาปะเกษตร์ พยาน น.ส.ศรัณย์พร พัฒชนะพานิช พยาน
(โรงแรม Allure Resort Hotel Tachileik Myanmar, ภาพจาก http://www.thelonerider.com)
ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 16 ส.ค. 2562 พบว่า นายชาคริส กาจกำจรเดช ปรากฎชื่อเป็นกรรมการบริษัทอย่างน้อย 2 แห่ง ได้แก่
1.บริษัท มังกรนอนกิน จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 19 ส.ค. 2558 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 84/6 ชั้น 2 ม.1 ถ.ราชพฤกษ์ ตำบลบางขนุน อำเภอบางกรวย จ.นนทบุรี แจ้งประกอบธุรกิจให้บริการกิจกรรมสปา ปรากฏชื่อนายธัชชัย โรจนประจักษ์ และนายชาคริส กาจกำจรเดช เป็นกรรมการ
แจ้งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2561 ไม่มีรายได้ มีรายจ่ายรวม 39,801 บาท ขาดทุนสุทธิ 39,800 บาท เมื่อปี 2560 แจ้งมีรายได้รวม 840,790 บาท รายจ่ายรวม 498,550 บาท กำไรสุทธิ 342,239 บาท
2.บริษัท เรอัล สตรองเจอร์ 789 จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 12 พ.ค. 2559 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 1 ซอยบุบผาบุรี ถ.นนทรี แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กทม. แจ้งประกอบธุรกิจนำเข้าส่งออก และตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและสมุนไพรทุกชนิด ปรากฏชื่อนายธัชชัย โรจนประทักษ์ นายชาคริส กาจกำจรเดช และนายประพนธ์ โลหะวิบูลย์ทรัพย์ เป็นกรรมการ
งบการเงินในช่วง 3 ปีหลังสุด (2559-2561) ไม่ปรากฏรายได้ มีรายจ่ายรวมในปี 2559 11,200 บาท ขาดทุนสุทธิ 11,200 บาท
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ :
พบ“ปารีณา”ไม่แจ้งหุ้นธุรกิจสามี 7 บริษัทกว่า 91 ล้านต่อ ป.ป.ช.?
“เสี่ยอุปกิต”เจ้าของโรงแรมท่าขี้เหล็กผู้ขาย“สมเด็จวัดระฆัง”รวยอื้อ 570 ล.