สรรหาผู้ทรงคุณวุฒิกีฬาอาชีพ กกท. ส่อแวววุ่น! ผู้สมัครร้อง 'อิศรา' หวั่นกระบวนการสรรหาไม่โปร่งใส เหตุจนท.มีพิรุธไม่ให้เซ็นชื่อยืนยัน อาจเกิดข้อครหาฝากเอกสารสมัครแทนกัน พอทักท้วงให้เศษกระดาษรับรอง แถมผู้ว่าฯ ลงนามตั้งคกก.ทั้งที่ไม่มีอำนาจ โร่แจ้งความลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน ด้าน 'ก้องศักดิ์' ยันทำตามระเบียบ เตรียมนำเรื่องเข้าหารือประชุมทำความชัดเจน ลั่นถ้ามีปัญหาจริง ยกเลิกได้
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้รับการร้องเรียนจากนายกิติภูมิ จาวจักรศิริ กรรมการกีฬาอาชีพ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ว่า เมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนได้ไปสมัครเป็นผู้ทรงคุณวุฒิในบอร์ดการกีฬาอาชีพ กกท. แต่พบข้อพิรุธในกระบวนการรับสมัคร คือ เมื่อยื่นเอกสารสมัครไปแล้ว ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ กกท. กลับไม่ให้เซ็นชื่อในเอกสารยืนยันตัวบุคคลว่าได้มาสมัครแล้วจริง พร้อมระบุว่า ไม่จำเป็นต้องเซ็นชื่อ
นายกิติภูมิ กล่าวต่อว่า ตนมีความกังวลว่า การที่เจ้าหน้าที่ กกท.ระบุว่าไม่จำเป็นต้องเซ็นชื่อในเอกสารนั้น จะทำให้เกิดปัญหา 2 ประการ คือ 1.การสมัครผู้ทรงคุณวุฒิในครั้งนี้ถ้าหากไม่มีการเซ็นเอกสารของผู้สมัครอาจจะทำให้เกิดปัญหาว่ามีการฝากเอกสารมาสมัครให้กันได้ และ 2.ถ้าหากไม่มีการให้ผู้สมัครเซ็นเอกสาร แล้วจะทำให้มั่นใจได้อย่างไรว่าในอนาคตถ้าหากเกิดปัญหาเกี่ยวกับเอกสารการยื่นสมัครผู้ทรงคุณวุฒิ จะมีหลักฐานยืนยันว่าผู้สมัครได้เดินทางมายื่นเอกสารสมัครกับทาง กกท.จริง
“ผมได้ยืนยันกับเจ้าหน้าที่ กกท.ว่า มันไม่ได้ อย่างไรก็จะต้องเซ็นเอกสารให้ถูกต้อง ในที่สุดเจ้าหน้าที่จึงยื่นเศษกระดาษมาให้ผมแผ่นหนึ่ง แล้วให้ผมเซ็นรับรอง ซึ่งตามหลักแล้วมันไม่ใช่ เพราะจริงๆ แล้วต้องมีแบบฟอร์มให้เซ็นเพื่อยืนยันว่าผมได้มายื่นเอกสารสมัครเป็นผู้ทรงคุณวุฒิแล้ว” นายกิติภูมิระบุ
นายกิติภูมิ กล่าวต่อว่า ดังนั้น เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนและผู้สมัครอีกหนึ่งรายหนึ่ง จึงได้ไปแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้ว (ดูรูปภาพประกอบ)
นายกิติภูมิ ยังกล่าวด้วยว่า การสมัครผู้ทรงคุณวุฒิในครั้งนี้ ยังมีข้อพิรุธอีกประการก็คือ การตั้งคณะกรรมการสรรหานั้น ผู้ที่มีอำนาจลงนามประกาศรับสมัครผู้ทรงคุณวุฒิจะต้องเป็นปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมการสรรหาโดยตำแหน่ง แต่อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่าในกรณีนี้ผู้ที่ลงนามในเอกสารการสรรหากลับเป็นนายก้องศักดิ์ ยอดมณี ผู้ว่า กกท. ซึ่งอาจจะไม่มีอำนาจในการลงนามครั้งนี้ ตนจึงมีความสงสัยว่าทางผู้ว่า กกท.จะมีอำนาจเซ็นลงนามในเอกสารนี้หรือไม่ (ดูเอกสารประกอบ)
จากกรณีดังกล่าวนั้น สำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยังนายก้องศักดิ์ ยอดมณี ผู้ว่า กกท.เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น นายก้องศักดิ์ กล่าวว่า ในสัปดาห์นี้ จะมีการประชุมเพื่อหารือประเด็นต่างๆที่เป็นปัญหา โดยมีนายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะเป็นประธานในที่ประชุม ซึ่งก็คงจะมีการหารือในประเด็นเหล่านี้รวมไปถึงข้อร้องเรียนการรับสมัครบอร์ดกีฬาอาชีพโดยไม่ชอบธรรมด้วย แต่ถ้าหากปรากฏประเด็นที่เป็นปัญหาขึ้นมาจริง ก็คงจะต้องยกเลิกการสรรหาในครั้งนี้
เมื่อถามต่อถึงประเด็นอำนาจของนายก้องศักดิ์ว่ามีอำนาจในการลงนามในเอกสารรับสมัครผู้ทรงคุณวุฒิบอร์ดการกีฬาอาชีพหรือไม่
นายก้องศักดิ์กล่าวว่า “ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการสรรหาฯได้เคยนัดประชุมไปครั้งหนึ่งแล้ว โดยมีปลัดฯเป็นผู้มอบหมายงานต่างๆรวมถึงอำนาจลงนามในคณะกรรมการสรรหาฯ ผมคงต้องไปดูด้วยว่ารายละเอียดตรงนี้เป็นอย่างไร ส่วนกรณีที่ผมไปเซ็นเอกสารดังกล่าวนั้น ผมคงต้องให้ฝ่ายกฎหมายดูรายละเอียดด้วยว่ามันถูกต้องหรือไม่ ซึ่งต้องยอมรับเหมือนกันว่ากรณีที่เซ็นเอกสารค่อนข้างมาก แต่ถ้าหากมีข้อทักท้วงมา แล้วปรากฎว่ามันไม่ถูกต้องจริง ผมก็พร้อมแก้ไข ”
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ภายหลังการสัมภาษณ์ดังกล่าว นายก้องศักดิ์ ได้โทรศัพท์ติดต่อมายังสำนักข่าวอิศราเพื่อชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติม
โดยนายก้องศักดิ์ ระบุว่า "ในประเด็นเรื่องการเซ็นชื่อนั้นได้ให้ทางนิติกรไปดูข้อกฎหมายมาแล้วปรากฎว่ามีการกำหนดว่าให้ กกท.นั้นเป็นผู้ที่จัดทำประกาศรับสมัครและจัดทำข้อบังคับ คุณลักษณะการรับสมัครผู้ทรงคุณวุฒิ ดังนั้นในส่วนผมไปเซ็นเอกสาร ก็เซ็นในฐานะที่เป็นอำนาจหน้าที่ของ กกท.ที่เป็นผู้กำหนดหลักเกณฑ์ดังกล่าวซึ่งทุกอย่างนั้นเป็นไปตามระเบียบของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา"
ส่วนเรื่องการที่ไม่ให้ผู้สมัครเซ็นชื่อสมัครเข้ารับการสรรหาเป็นผู้ทรงคุณวุฒินั้น นายก้องศักดิ์ ระบุว่า ต้องขอเรียนว่าการดำเนินการของ กกท.นั้นต้องให้ความสำคัญต่อการรักษาข้อมูลส่วนตัวของผู้เข้าสมัครด้วยเช่นกัน ก็เลยมีประเด็นเรื่องไม่เซ็นชื่อดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าประเด็นนี้ก็อาจจะทำให้เกิดความไม่สบายใจของผู้เข้าสมัครบางคนที่อาจมองว่ามีการฝากคนอื่นมาสมัครแทนกันหรือไม่ ซึ่งประเด็นนี้และปัญหาข้อร้องเรียนอื่นๆเกี่ยวกับการสรรหานั้น ตนก็คงต้องนำเข้าไปสู่ที่หารือของ ที่ประชุม กกท.ในวันที่ 15 ส.ค.นี้ต่อไป
"แต่อย่างไรก็ตาม อยากจะให้ผู้สมัครสบายใจได้ว่ากระบวนการรับสรรหานั้นมันไม่ได้จบแค่ว่าเข้ามาสมัครแล้ว ก็ประกาศรายชื่อเลยว่าใครได้เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ยังมีกระบวนการอีกหลายขั้นตอนรวมไปถึงการสัมภาษณ์ด้วย ซึ่งขั้นตอนหลังจากนี้จะเป็นการประกาศรายชื่อผู้ที่เข้ารับสมัครทั้งหมดกันต่อไป"นายก้องศักดิ์กล่าว
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/