ศาลฎีกาฯจำคุก 1 เดือน อดีต ส.ส.-รองนายก อบจ.สกลนคร ไม่ยื่นบัญชีฯ รอลงโทษ 1 ปี

ศาลฎีกาฯพิพากษา ‘สิทธิรัตน์’ อดีต ส.ส.-รองนายก อบจ.สกลนคร จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน ป.ป.ช. จำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท รอลงโทษ 1 ปี ไม่ยื่นตอนพ้น 1 ปี 2 ครั้ง

18มย62 ACOV rka

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษา คดีหมายเลขแดงที่ อม.20 วันที่ 14 ก.พ.2562 ระหว่างคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ผู้ร้อง นายสิทธิรัตน์ หรือ ราชิต รัตนวิจารณ์ ผู้ถูกกล่าวหา เรื่องการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน

คณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวหาว่า นายสิทธิรัตน์จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีในการดำรงตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร ครั้งที่ 2 ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ

ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายก อบจ.สกลนคร ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2551 และพ้นจากตำแหน่งวันที่ 27 พ.ค.2554 ต่อมาผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้ง ให้ดำรงตำแหน่งรองนายก อบจ. สกลนคร ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 14 ก.ค.2554 และพ้นจากตำแหน่งวันที่ 14 ก.ย.2555 ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีเข้ารับตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งในการดำรงตำแหน่ง ครั้งที่ 1 และกรณีเข้ารับตำแหน่ง ครั้งที่ 2 แต่ไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบ ต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีในการดำรงตำแหน่ง ครั้งที่ 1 กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีในการดำรงตำแหน่ง ครั้งที่ 2 ผู้ร้องมีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงข้อเท็จจริงและเหตุผลของการไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ในกรณีดังกล่าวแล้ว แต่ผู้ถูกกล่าวหาเพิกเฉย

ศาลฎีกาฯพิพากษาว่า นายสิทธิรัตน์จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร ครั้งที่ 2 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 32 และมาตรา 33 ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใด ในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 14 ก.ย. 2555 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่งครั้งที่ 2 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสอง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี

(คดีหมายเลขแดงที่ อม.20/2562-14 ก.พ.2562) เผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษาวันที่ 18 มิ.ย.2562

ทั้งนี้ นายสิทธิรัตน์ เคยเป็น ส.ส.สกลนคร พรรคเสรีธรรม

# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/