
ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง เริ่มไต่สวนคดี 'พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย' ใช้คำนำหน้าลงสมัคร สว.มิชอบ สอบพยานฝ่ายผู้ร้องกกต. เจอ อดีตผู้สมัคร สว. ไล่ไทม์ไลน์มีคนเดียวในโลกใช้เวลาเเค่ 2 ปี จาก ป.โท.สู่ศาสตราจารย์ ส่วนอีกรายชี้ไม่มีสิทธิ์ใช้เหตุแคลิฟอร์เนีย ยูนิเวอร์ซิตี้ ไม่ใช่สถาบันระดับอุดมศึกษาสหรัฐฯ เป็นเพียงหน่วยงานรับเปรียบเทียบวุฒิการศึกษาชาวต่างชาติ เปิดสอนระดับอนุบาล-ประถมศึกษาเท่านั้น มีส่วนกลับกฎหมายไทยฉบับใดห้าม- นัดสอบพยานผู้คัดค้าน 8 ธ.ค.68 นี้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 ที่ศาลฎีกา สนามหลวง ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งนัดไต่สวนพยานคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นขอให้ศาลวินิจฉัยตามมาตรา 62 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 กรณี พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย สมาชิกวุฒิสภา (สว.) โดยขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิการสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งและดำเนินคดีอาญา เนื่องจากเห็นว่าเข้าข่ายเป็นการหลอกลวงให้ผู้อื่นเข้าใจผิดในคุณสมบัติ ความรู้ความสามารถหรือชื่อเสียงหรือชื่อเสียงเกียรติคุณ ตามมาตรา 77 (4) พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา
สำหรับการไต่สวนคดีครั้ง นี้เป็นการไต่สวนพยานฝ่ายผู้ร้อง จำนวน 4 ปาก ประกอบด้วย อดีตผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา 2 คน เจ้าหน้าที่สืบสวนไต่สวนสำนักงาน กกต. และปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์และนวัตกรรม (อว.) ขณะที่ พญ.เกศกมล เดินทางมาศาลฯ เพื่อเข้าฟังการไต่สวนคดีด้วยตัวเอง
พยานฝ่ายผู้ร้องปากเเรก เป็นอดีตผู้สมัคร สว. กลุ่ม 19 อาชีพทนายความ ให้ปากคำว่า จากการตรวจสอบเอกสาร พญ.เกศกมล ในใบสมัครสว. 3 พบว่าใช้คำว่าศาสตราจารย์ จึงมีการไปตรวจค้นข้อมูลหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่า ไม่มีชื่อได้รับการโปรดเกล้าให้เป็นศาสตราจารย์และไม่พบว่าเคยเป็นอาจารย์ หรือมีผลงานทางวิชาการ แต่การใช้ตำแหน่งนี้อาจจะทำให้ผู้มีสิทธิเลือกเข้าใจผิด
ขณะที่ทนายความพญ.เกศกมล ได้ถามซักค้านกรณีการได้รับตำแหน่งศาสตราจารย์จากต่างประเทศนำมาใช้นำหน้าได้หรือไม่และมีกฎหมายฉบับใดที่ห้ามนำมาใช้
พยานฝ่ายผู้ร้องยอมรับว่า การสมัครการสมัคร สว. ไม่ได้มีกรอบกำหนดในเรื่องของการใช้วุฒิการศึกษา แม้จะเป็นวุฒิการศึกษาจากต่างประเทศ หากจะนำมาใช้จะต้องมีการเทียบ ส่วนการแนะนำตัวยอมรับว่าระเบียบ กกต. ไม่ได้ห้ามไว้ แต่จะต้องเป็นข้อมูลที่ถูกต้องพร้อมยอมรับว่าได้มีการตรวจสอบเกี่ยวกับวุฒิการศึกษาเฉพาะในประเทศไทยไม่ได้ตรวจสอบในต่างประเทศ
ต่อมาพยานปากที่ 2 อาชีพทนายความ ขึ้นเบิกความต่อศาลฯ ว่า พญ.เกศกมล ไม่มีสิทธิ์ใช้ตำแหน่งศาสตราจารย์ เพราะแคลิฟอร์เนีย ยูนิเวอร์ซิตี้ FCE ไม่ใช่สถาบันระดับอุดมศึกษาของสหรัฐอเมริกา เป็นเพียงหน่วยงานรับเปรียบเทียบวุฒิการศึกษาสำหรับชาวต่างชาติ และเปิดสอนระดับอนุบาลและประถมศึกษาเท่านั้น
"ผู้คัดค้าน (พญ.เกศกมล) ไม่เคยสอนหนังสือหรือมีผลงานทางวิชาการเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ และในการเทียบวุฒิการศึกษาระดับปริญญาเอกจะต้องมีวิทยานิพนธ์ซึ่งเป็นที่ยอมรับและถูกบันทึกไว้ในระบบการค้นหาของการศึกษาทั่วโลก และเอกสารเทียบวุฒิการศึกษาของพญ.เกศกมล ที่นำส่ง กกต. และให้สัมภาษณ์ผ่านทางสื่อมวลชน มีรายละเอียดที่แตกต่างและเปลี่ยนไป" พยานปากที่ 2 ระบุ
พยานรายนี้ ยังให้ปากคำด้วยว่า จากการตรวจสอบเอกสารการรับรองแต่ละหน้า ลายมือชื่อรับรองเอกสารไม่ใช่ลายเซ็นจริงแต่เป็นลายเซ็นจากคอมพิวเตอร์ ซึ่งเหมือนกันทุกฉบับ จะมีแตกต่างกันบ้างเรื่องความหนาและบางของลายเส้น อีกทั้งวันลงนามใบรับรอง ระบุวันที่ล่วงหน้าก่อนที่จะได้รับตัวเลขเอกสาร ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายระหว่างประเทศ เพราะการลงนามจะต้องกระทำเมื่อได้รับเอกสารแล้ว ไม่ใช่เป็นการลงนามไว้ล่วงหน้า ต่อมาพบว่ามีการปรับแก้เอกสารเพื่อให้วันที่สอดคล้องกัน อีกทั้งแคลิฟอร์เนีย ยูนิเวอร์ซิตี้ FCE ให้ข้อมูลเท็จโดยระบุในหน้าเว็บไซต์ว่ารัฐสภาไทยยอมรับการเทียบวุฒิจากมหาวิทยาลัยแล้ว และรัฐบาลไทยยังให้การยอมรับรัฐมนตรีที่เคยได้รับการเทียบวุฒิจากมหาวิทยาลัยเช่นเดียวกัน
พยานรายนี้ ให้ปากคำต่อว่า นอกจากนี้เห็นว่าการเข้าสู่ตำแหน่งศาสตราจารย์ของพญ.เกศกมล ภายหลังได้รับการเทียบวุฒิปริญญาโทใช้เวลาไม่ถึง 2 ปี ซึ่งทั้งโลกนี้ไม่มีใครทำได้ โดยมีไทม์ไลน์ดังต่อไปนี้ ใช้ระยะเวลา 8 เดือน ใช้คำนำหน้าว่าดอกเตอร์ (ดร.) ต่อมาอีก 5 เดือน ใช้คำนำหน้าว่ารองศาสตราจารย์ จากนั้นอีกไม่นานก็ใช้คำว่าศาสตราจารย์ ทั้งนี้ยังพบว่าผลงานทางวิชาการ 7 บทความที่อ้างอิงสำหรับการได้รับวุฒิการศึกษานั้นจากการตรวจสอบพบว่ามีเพียง 2 บทความเท่านั้นที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการที่ได้รับการยอมรับ พร้อมยอมรับว่าการตรวจสอบวุฒิการศึกษาของพญ.เกศกมล เป็นเพียงการตรวจสอบจากเว็บไซต์ของต่างประเทศไม่ได้ตรวจสอบจากสถาบันการศึกษาในต่างประทศโดยตรง
หลังการไต่สวนพยานฝ่ายผู้ร้องเสร็จสิ้น ศาลฯ ได้นัดไต่สวนพยานผู้คัดค้านหรือพยานฝ่ายของพญ.เกศกมล นัดต่อไป ในวันที่ 8 ธันวาคม 2568 เวลา 09.30 น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- กกต. ลงมติ ‘หมอเกศ’ จบ ‘ด็อกเตอร์เก๊’ ชง ศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง
- ส่องบทความวิชาการ 'ดร.สุขุมพงศ์-สว.เกศกมล' อาจารย์-ลูกศิษย์ เหมือน/แตกต่างกันหรือไม่?
- โพรไฟล์สั้นๆ 'ดร.สุขุมพงศ์' ปธ.สอบวิทยานิพนธ์ 'พญ.เกศกมล - ธรรมนัส'
- ก่อนปมร้อนเรียนจบสหรัฐ ! พลิกธุรกิจ ‘เกศกมล’ สว.อันดับหนึ่ง กก./ถือหุ้น 4 บริษัท
- ‘เกศกมล’ สว. อันดับหนึ่ง เคยอยู่ทีมวิจัยสมุนไพรต้านโควิด มอบผลิตภัณฑ์ให้ 'ธรรมนัส'
- ย้อนข้อมูล ม.แคลิฟอร์เนีย! โลกกลม 'ธรรมนัส' เรียนจบที่เดียวกัน 'เกศกมล' สว.อันดับหนึ่ง
- อว.ยันไม่เคยรับรองวุฒิจาก California University ทบทวนเทียบ ศ.จากต่างประเทศ
- ก.พ.ออกประกาศ ยืนยันไม่เคยรับรองวุฒิ ม.California University จ่อฟ้องบุคคลพาดพิงหน่วยงาน
- 'เลขาสภาฯ' ยันไม่มีอำนาจรับรองวุฒิการศึกษา California University
- กกต.ฟัน 'หมอเกศ' ใช้ตำแหน่ง 'ศาสตราจารย์' ปลอมสมัครสว. อัตราโทษคุก 10 ปี-ตัดสิทธิ์ 20 ปี
- ฉบับเต็ม! คำวินิจฉัย กกต. ชี้โทษ 'หมอเกศ' ไม่ได้เป็น 'ศ.' ตามกม.ไทย อวสานสว.อันดับหนึ่ง

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา