
ครม.ถกวาระลับ ยืนยัน 4 ข้อเสนอ ต่อกรณีพิพาทบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ประชุม จีบีซี 23 ต.ค.6ุ8 กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย-พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม ลั่น อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ถก จีบีซี ครั้งนี้ไม่สำเร็จ ไม่คุยให้เปลืองภาษีอีกแล้ว แหล่งข่าว ระบุ กัมพูชา โยนข้อเสนอ ปล่อย 18 เชลยศึก - ไทยยันไม่ทำตามข้อเสนอ ไม่ส่งคืนกลับให้ - สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี-รมว.มหาดไทย แสดงท่าทียืนยันชัดเจนต่อ โรเบิร์ต เอฟ. โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย ถึงข้อเสนอ 4 ข้อ หากกัมพูชาไม่จริงใจ อาจส่งผลกระทบต่อการลงนามสันติภาพบนเวทีสุดยอดผู้นำอาเซียน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranew.org) รายงานว่า วันที่ 21 ตุลาคม 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ก่อนการประชุมครม. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ได้หารือกับนายโรเบิร์ต เอฟ. โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย กรณีสหรัฐฯ จะเป็นผู้สังเกตการณ์ต่อการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ที่จังหวัดจันทบุรี และ คณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา ในวันที่ 23 ตุลาคม 2568 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีท่าทีต่อกรณีดังกล่าวชัดเจนและสื่อสารไปยังเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ว่า ประเทศไทยยึดถือเงื่อนไข 4 ข้อ ที่เป็นข้อเสนอของไทยต่อกัมพูชาไปแล้ว หากไม่ดำเนินการอย่างจริงใจจากฝั่งกัมพูชา ข้อตกลงที่คาดหวังว่าผลลัพธ์จะเกิดขึ้นในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ( ASEAN Summit) ระหว่างวันที่ 26-28 ต.ค.68 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียก็อาจจะไม่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ 4 ข้อเสนอ ประกอบด้วย 1. ถอนอาวุธหนักออกไปนอกพื้นที่ 2.เก็บกู้วัตถุระเบิด 3.ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ (สแกมเมอร์) และ 4.บริหารจัดการชายแดนที่มีข้อพิพาท
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลระบุว่า ครม.ได้พิจารณาวาระลับเกี่ยวกับกรอบการเจรจาการประชุมจีบีซี โดยยืนยันตามข้อเสนอ 4 ข้อ นอกจากนี้ยังมีการหารือกรณีข้อเสนอของกัมพูชาในเรื่องการส่งคืนเชลยศึก 18 คน ซึ่งไทยมีเงื่อนไขกลับไปว่า หากกัมพูชายังไม่ทำตามข้อเสนอ 4 ข้อของไทยก่อน ไทยจึงจะส่งคืนเชลยคืบกลับให้
@ พล.อ.ณัฐพล ลั่น “อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด”
ด้านพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหมให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมจีบีซี ในวันที่ 23 ต.ค.68 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ว่า คาดหวัง 50/50 เพราะที่ผ่านมานายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ ได้ไปพูดคุยและได้กรอบการเจรจามาแล้ว ซึ่งการไปประชุมจีบีซีครั้งนี้จะไปลงในรายละเอียด ถ้าสำเร็จก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะหากสถานการณ์คลี่คลายไปได้ด้วยสันติวิธี แนวโน้มการเจรจาก็น่าจะมีทิศทางไปในแนวทางนั้น
“อย่างไรก็ตามยืนยันได้เลยว่า เราจะไม่เป็นฝ่ายเสียเปรียบแน่นอน แต่ถ้าประชุมครั้งนี้ไม่สำเร็จ ผมคิดว่าคงไม่ต้องคุยให้เปลืองภาษีแล้ว”พล.อ.ณัฐพลกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การประชุมจีบีซีรอบนี้จะสามารถกำหนดกรอบหรือไทม์ไลน์ของการปฏิบัติตาม 4 ข้อเสนอของไทยได้หรือไม่ เพื่อนำไปสู่ความเป็นรูปธรรม พล.อ.ณัฐพลกล่าวว่า คราวนี้ต้องกำหนด เพราะบทเรียนจากคราวที่แล้วที่ไทยให้โอกาส
“นโยบายของรัฐบาลไม่ใช่สันติอย่างเดียว แต่เราทำตามขั้นตอน ตามกติกาสากลที่สังคมโลกใช้กัน แต่ถ้าเราทำจนถึงที่สุดแล้ว ถ้ากัมพูชาไม่ให้ความร่วมมือ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด”พล.อ.ณัฐพลกล่าว
เมื่อถามว่า หากกัมพูชาไม่ตอบรับ 4 ข้อเสนอ หรือ ไม่นำไปสู่การปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมจะส่งผลต่อการลงนามสันติภาพในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนหรือไม่ พล.อ.ณัฐพลกล่าวว่า ก็คงมีผล แต่เราคงไม่สนใจแล้ว เพราะเป็นเรื่องอธิปไตยของไทย ไทยมีศักดิ์ศรี ในเมื่อเราพยายามทำตามแนวทางสันติวิธีแล้ว ทำตามกติกาสากลแล้ว แต่กัมพูชาไม่ให้ความร่วมมือ ก็ต้องย้ำคำเดิมว่า “อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด”
พล.อ.ณัฐพลกล่าวว่า ส่วนผลการประชุมเจบีซีครั้งนี้ ดีที่สุดก็อาจจะตกลงพื้นที่เส้นสิทธิ์ได้เลย แต่ดีน้อยลงมาอาจจะกำหนดเส้น Control Actual Line แต่นอกจากพื้นที่อ้างสิทธิ์ต้องเป็นของไทย
“ถ้าจีบีซีประชุมไม่สำเร็จ อาเซียนซัมมิท การลงนาม ผมคิดว่าไม่น่าจะเกิดขึ้น”พล.อ.ณัฐพลกล่าว
เมื่อถามว่า ถ้าการประชุมจีบีซีไม่สำเร็จการประชุมรอบนี้ก็น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายใช่หรือไม่ พล.อ.ณัฐพลกล่าวว่า “ใช่ ไม่คุยให้เปลืองภาษีอีกแล้ว”

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา