
ภัทรศักดิ์ วรรณแสง กรรมการ ป.ป.ช.- ประธานกรรมการไต่สวน คดีฮั้วโครงการก่อสร้างปรับปรุงขยายผิวจราจร 43.221 ล้าน ส่งหนังสือ ด่วนที่สุด มงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ขออนุญาตให้ จุฑารัตน์ นิลเปรม สว. ไปรับทราบข้อกล่าวหา 1 วัน ระหว่างเปิดสมัยประชุม
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2568 นางปัณณิตา สท้านไตรภพ เลขาธิการวุฒิสภา ทำหนังสือตามที่นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา มีคำสั่งนัดประชุมวุฒิสภา ในวันที่ 8 และ 9 ก.ย.68 โดยมีวาระที่สำคัญ ตามระเบียบวาระการประชุม วันที่ 9 ก.ย.68 เรื่องด่วน ที่ 2 ขออนุญาตให้สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ไปรับทราบข้อกล่าวหา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 125
สืบเนื่องจากนายภัทรศักดิ์ วรรณแสง กรรมการป้องกันและปราบรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประธานกรรมการไต่สวน ได้ส่งหนังสือ ที่ ปช.0040 (อบ)/1388 ด่วนที่สุด ถึงนายมงคล เมื่อวันที่ 27 ส.ค.68 เรื่อง ขอให้สว.ไปรับทราบข้อกล่าวหา กรณีคณะกรรมการไต่สวนกล่าวหานางรจนา กัลป์ตินันท์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครอุบลราชธานี อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี นางจุฑารัตน์ นิลเปรม สว. และเจ้าหน้าที่ของรัฐกับพวก รวม 61 ราย ว่ากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ และกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542
กรณีแบ่งจ้างงานโครงการก่อสร้างปรับปรุงขยายผิวจราจร งบประมาณ 43,221,000 บาท ออกเป็นรายโครงการ โครงการละไม่เกิน 2 ล้านบาท เพื่อหลีกเลี่ยงการจ้างด้วยวิธีประกวดราคา โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับเทศบาลนครอุบลราชธานี
ฉะนั้น เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 คณะกรรมการไต่สวนมีกรณีจำเป็นต้องเชิญนางจุฑารัตน์ ไปรับทราบข้อกล่าวหาต่อคณะกรรมการไต่สวน ที่สำนักงาน ป.ป.ช. ถนนนนทบุรี ตำบลท่าทราย อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนทบุรี ซึ่งกระบวนการรับทราบข้อกล่าวหามีความจำเป็นต้องใช้เวลา 1 วัน แต่เนื่องจากอยู่ในระหว่างสมัยประชุม ตามพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) เรียกประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง พ.ศ. 2568 ซึ่งต้องห้ามมิให้หมายเรียกตัว สวง ไปทำการสอบสวนในฐานะที่สมาชิกผู้นั้นเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากสภาที่ผู้นั้นเป็นสมาชิก ตามรัฐธธธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 125 วรรคหนึ่งในการนี้ จึงขอให้ท่านได้โปรดนำเสนอวุฒิสภาพิจารณาอนุญาตให้นางจุฑารัตน์ ไปรับทราบข้อกล่าวหาวันใดวันหนึ่ง ระหว่างวันที่ 1 – 30 ก.ย.68

ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญ มาตรา 125 บัญญัติว่า ในระหว่างสมัยประชุม ห้ามมิให้จับ คุมขัง หรือหมายเรียกตัวสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาไปทำการสอบสวนในฐานะที่สมาชิกผู้นั้นเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากสภาที่ผู้นั้นเป็นสมาชิก หรือเป็นการจับในขณะกระทำความผิด
ในกรณีที่มีการจับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาในขณะกระทำความผิดให้รายงานไปยังประธานแห่งสภาที่ผู้นั้นเป็นสมาชิกโดยพลัน และเพื่อประโยชน์ในการประชุมสภาประธานแห่งสภาที่ผู้นั้นเป็นสมาชิกอาจสั่งให้ปล่อยผู้ถูกจับเพื่อให้มาประชุมสภาได้
ถ้าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาถูกคุมขังในระหว่างสอบสวนหรือพิจารณาอยู่ก่อนสมัยประชุม เมื่อถึงสมัยประชุม พนักงานสอบสวนหรือศาล แล้วแต่กรณี ต้องสั่งปล่อยทันทีถ้าประธานแห่งสภาที่ผู้นั้นเป็นสมาชิกได้ร้องขอ โดยศาลจะสั่งให้มีประกันหรือมีประกันและหลักประกันด้วยหรือไม่ก็ได้
ในกรณีที่มีการฟ้องสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาในคดีอาญา ไม่ว่าจะได้ฟ้องนอกหรือในสมัยประชุม ศาลจะพิจารณาคดีนั้นในระหว่างสมัยประชุมก็ได้ แต่ต้องไม่เป็นการขัดขวางต่อการที่สมาชิกผู้นั้นจะมาประชุมสภา
รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า เอกสารประกอบการประชุมวุฒิสภา กลุ่มงามญัตติ สำนักการประชุม ได้แนบข้อมูลสถิติผลการพิจารณาของวุฒิสภา กรณีศาลขออนุญาตพิจารณาคดีอาญาและการขอหมายเรียกตัว สว.ไปทำการสอบสวนในระหว่างสมัยประชุม ตั้งแต่รัฐธรรมนูญฉบับปี 2534 ถึง รัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 มีจำนวนทั้งหมด 30 เรื่อง อนุญาต 5 เรื่อง ไม่อนุญาต 25 เรื่อง

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา