
ศาลรัฐธรรมนูญ ไต่สวนพยานบุคคล 2 ปาก คดีคลิปเสียงสนทนาสมเด็จฮุน เซน แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มาศาลฯ สีหน้ายิ้มแย้ม - ฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ปฏิญาณก่อนให้ถ้อยคำ-ด้วยความสัตย์จริงทุกประการ นครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ออกนั่งบัลลังก์ พร้อมคณะตุลาการ สั่ง ไม่อนุญาตถ่ายทอดภาพและเสียง เหตุให้ถ้อยคำเป็นพยานคู่-คดีมีความลับเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ ห้ามผู้เข้าฟังไต่สวนนำข้อความไปเผยแพร่ ห้ามบิดเบือนข้อเท็จจริง-ข้อกฎหมายสร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน นัดผู้ร้อง-ผู้ถูกร้องยื่นแถลงการณ์ปิดคดี 25 ส.ค.68 นัดลงมติ-อ่านคำวินิจฉัย 29 ส.ค. 68
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 21 สิงหาคม 2568 เมื่อเวลา 09.28 น. ที่ศาลรัฐธรรมนูญ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รมว.วัฒนธรรม ผู้อยู่ระหว่างหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ถ้อยคำ กรณีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ยื่นคำร้องของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) จำนวน 36 คน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยความเป็นนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) ไม่มีความซื้อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ หรือไม่ กรณีปรากฎคลิปเสียงสนทนาระหว่างน.ส.แพทองธาร กับสมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนพยานบุคคล รวม 2 ปาก ในเวลา 10.30 น.
รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อน.ส.แพทองธารเดินทางมาถึงศาลรัฐธรรมนูญ มีสีหน้ายิ้มแย้ม ยกมือไหว้ทักทายสื่อมวลชน โดยเดินทางมาพร้อมกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ คณะทำงานนายกรัฐมนตรี โดยมีนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี และนางพินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ พี่สาว เดินทางมาสมทบ
ขณะที่นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พยานบุคคลฝ่ายผู้ถูกร้อง (น.ส.แพทองธาร) ในฐานะพยานผู้ทรงคุณวุฒิ ได้เดินทางมาถึงศาลรัฐธรรมนูญในเวลาประมาณ 10.00 น.
ด้านฝ่ายผู้ร้อง เดินทางมาศาลรัฐธรรมนูญในเวลาไล่เรี่ยกัน อาทิ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สว.
นอกจากผู้ร้องและผู้ถูกร้องแล้ว นายสมชาย แสวงการ และนายคมสัน โพธิ์คง ในฐานะผู้สังเกตการณ์ เดินมามาเข้าร่วมรับฟังการไต่สวนพยานด้วย ภายหลังยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญและได้รับอนุญาต ขณะที่นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม อดีต สว. และ นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือ ทนายนกเขา ได้มาศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อยื่นคำร้องขอเข้าฟังการไต่สวนพยานบุคคลด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ นายสมชาย ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าห้องไต่สวนพยาน โดยอวยพร น.ส.แพทองธาร ที่มีวันเกิดในวันนี้ (21 ส.ค.) ว่า ขอให้โชคดี และถ้าน.ส.แพทองธาร ลาออกก่อน ตนเองเชื่อว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะจำหน่ายคดี ก็จะปลอดภัย แต่ถ้าน.ส.แพทองธาร ไม่ลาออกในวันเกิด ก็ยังมีเวลาอีก 7 วัน ถึงวันที่ 29 ส.ค.68 ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญนัดลงมติและอ่านคำวินิจฉัย จึงยังมีเวลาให้นัดสินใจ
“ผมขอแนะนำอย่างคนที่มาศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งในฐานะผู้ร้อง ผู้ถูกร้อง และผู้แก้ต่าง ศาลฯให้ความยุติธรรม แต่ผมเชื่อว่าผลคำวินิจฉัยจะออกมาเหมือนกับอดีตนายกฯที่ผ่านมา คุณสมัคร สุนทรเวช คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คุณเศรษฐา ทวีสิน สามคดีรวมกันความหนักเบาน้อยกว่าคดีของคุณแพทองธารมัดรวมกันเกินครึ่ง คดีของคุณแพทองธารหนักมาก ผมแนะนำอย่างเดียว คือ วันเกิด ขอให้ลาออก”นายสมชายกล่าว
@ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ออกนั่งบัลลังก์ ไม่อนุญาตถ่ายทอดภาพ-เสียง
ต่อมาเมื่อถึงเวลา 10.30 น. ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนพยานบุคคล จำนวน 2 ปาก โดยนายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานตุลาการศาลรัฐธรรมนูญกล่าวก่อนไต่สวนพยาน ว่า ศาลรัฐธรรมนูญไม่อนุญาตให้มีการถ่ายทอดภาพและเสียงในการไต่สวน เนื่องจากพยานบุคคลที่มาให้ถ้อยคำเป็นพยานคู่และคดีมีความลับเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ และห้ามไม่ให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญนำข้อความการไต่สวนไปเผยแพร่และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริง หรือ ข้อกฎหมายในลักษณะสร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน
รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ลำดับถัดไปนายภานุมาศ เชื้อประเสริฐ นักวิชาการคดีรัฐธรรมนูญชำนนาญการ เจ้าหน้าที่ศาลได้แจ้งต่อประธานและคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญว่า การมาศาลรัฐธรรมนูญของคู่กรณีมีดังนี้ ฝ่ายผู้ร้องประธานวุฒิสภามอบฉันทะให้ผู้แทนมาศาลรัฐธรรมนูญ อาทิ 1.พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา สว. 2.พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สว. และ 3. นายชนินทร์ แก่นหิรัญ ขณะที่ฝ่ายของผู้ถูกร้อง น.ส.แพทองธาร มาศาลรัฐธรรมนูญ และพยาน รวม 2 ปาก ได้แก่ 1.น.ส.แพทองธาร และ 2.นายฉัตรชัย
นายนครินทร์กล่าวว่า ในการไต่สวนพยานบุคคล ศาลรัฐธรรมนูญได้มอบหมายให้นายวิรุฬห์ แสงเทียน และนายนภดล เทพพิทักษ์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เป็นผู้ดำเนินการพิจารณา และมีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญรายอื่นร่วมซักถามด้วย โดยมีนายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นั่งอยู่ทางด้านซ้ายมือของนายนครินทร์ โดยนายวิรุฬห์นั่งอยู่ด้านขวามือ
ทั้งนี้ นายวิรุฬห์ได้ให้นายฉัตรชัย พยานผู้ถูกร้องให้ถ้อยคำก่อน และให้น.ส.แพทองธาร ออกจากห้องไปรอภายนอกห้องไต่สวนพยานบุคคล
นายฉัตรชัยกล่าวปฏิญาณก่อนให้ถ้อยคำต่อคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ว่า ข้าพเจ้านายฉัตรชัย บางชวด จะให้ถ้อยคำด้วยความสัตย์จริงทุกประการ
@ เลื่อนยื่นแถลงการณ์ปิดคดี 25 ส.ค.- เร็วขึ้น 2 วัน
ต่อมาเวลา 11.35 น. ภายหลังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญใช้เวลาไต่สวน นายฉัตรชัย ประมาณ 1 ชั่วโมง ศาลรัฐธรรมนูญเริ่มไต่สวน น.ส.แพทองธาร
ก่อนเริ่มการไต่สวน น.ส.แพทองธาร เจ้าหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ปล่อยภาพกล้องวงจรปิดภายในห้องไต่สวนพยาน มาออกภายนอกบนจอทีวีขนาด 50 นิ้ว ที่ตั้งอยู่ภายนอกอาคารสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญให้สื่อมวลชนที่รอทำข่าวได้บันทึกภาพบรรยากาศช่วงก่อนไต่สวนพยานแต่ละราย ซึ่งในช่วงที่น.ส.แพทองธารกล่าวปฏิญาณตนต่อศาล มีสีหน้าเรียบเฉย ว่า ข้าพเจ้า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ขอปฏิญาณว่าจะให้ถ้อยคำด้วยความซื่อสัตย์สุจริตทุกประการ
จนกระทั่งถึงเวลา 13.02 น. สัญญาณภาพภายในห้องไต่สวนพยานปรากฎบนหน้าจอทีวีอีกครั้ง โดยนายนครินทร์กล่าวก่อนปิดการไต่สวนพยาน ว่า ศาลรัฐธรรมนูญนัดให้ผู้ร้องหรือผู้ถูกร้องที่ประสงค์แถลงการณ์ปิดคดีให้ยื่นหนังสือต่อศาลภายในวันที่ 25 ส.ค.68 จากเดิมกำหนดไว้วันที่ 27 ส.ค.68 และนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติเวลา ลงมติและอ่านคำวินิจฉัยในวันที่ 29 ส.ค.68 เวลา 09.30 น. และนัดฟังคำวินิจฉัยในเวลา 15.00 น.เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ระหว่างนายนครินทร์กล่าวก่อนปิดการไต่สวน เป็นที่น่าสังเกตว่า น.ส.แพทองธาร มีสีหน้าที่เคร่งครียดอย่างเห็นได้ชัด
ขณะที่ บรรยากาศภายนอกอาคารศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ร้อง ผู้ถูกร้อง และผู้สังเกตุการณ์ ทยอยออกมาจากห้องไต่สวนพยาน โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งห้ามไม่ให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญนำข้อความการไต่สวนไปเผยแพร่และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริง หรือ ข้อกฎหมายในลักษณะสร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน
ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ปรากฎตัวอีกครั้ง เวลา 13.25 น. สีหน้าผ่อนคลายมากขึ้น ก่อนเดินทางกลับทันทีโดยไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆทั้งสิ้น
ทั้งนี้ ภายหลังจบการไต่สวนพยานบุคคล 2 ปาก สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เผยแพร่เอกสารข่าว ถึงผลการพิจารณาใจความ ว่า ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดีเพื่อไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ ผู้ถูกร้องและเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ
ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยานทั้ง 2 ปาก โดยตอบข้อซักถามของศาลรัฐธรรมนูญ และอนุญาตให้คู่กรณีซักถามเพิ่มเติม คดีเป็นอันเสร็จการไต่สวน
ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน
ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้สั่งให้คู่กรณียื่นแถลงการณ์ปิดคดีในวันพุธที่ 27 สิงหาคม 2568 และนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติ ในวันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม 2568 เวลา 09.30 นาฬิกาและนัดอ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟังในวันเดียวกัน เวลา 15.00 นาฬิกา นั้น พิจารณาแล้วเห็นว่า
ตุลาการแต่ละท่านมีเวลาทำความเห็นส่วนตนเพียง 1 วัน เพื่อให้การวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญเป็นไปอย่างรอบคอบและครบถ้วน อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติประกอปรัฐธรรมญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 31 จึงให้คู่กรณีแถลงการณ์ปิดคดีเสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในวันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม 2568 หากไม่ยื่นภายในกำหนดเวลา ให้ถือว่าไม่ติดใจยืน ส่วนนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติ และนัดอ่านคำวินิจฉัย เป็นไปตามกำหนดเดิม

ที่มาภาพ : Facebook Fc เพื่อไทย https://www.facebook.com/profile.php?id=100083333463156

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา