
ทัพภาค 2 สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันอีกฝ่ายยังมีการยั่วยุ เผยคณะทูตทหารเจอหลายเรื่องคาดไม่ถึง หลังไทยพาลงพื้นที่ ย้ำอีกเจอมือถือฝ่ายกัมพูชามีคลิปสอนวางทุ่นระเบิด PMN-2 ขณะ ผอ.ศูนย์ทุ่นระเบิดกัมพูชาโต้ข่าววางทุ่นระเบิด ชี้ปัจจุบันมีเทคโนโลยี AI ใช้งาน ต้องแยกแยะข้อเท็จจริง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทยและกัมพูชา อ้างอิงข้อมูลจากเฟซบุ๊กของกองทัพภาค 2 ระบุว่า
ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 20 สิงหาคม 2568 (ณ เวลา 14.00 น.)
@สถานการณ์โดยรวม
ตรวจพบความเคลื่อนไหวของฝ่ายกัมพูชา ในบางพื้นที่พบการยั่วยุ และเจตนาก่อกวน ด้วยการพูดคุยเสียงดัง หรือร้องตะโกนกล่าวหาว่าฝ่ายไทยพยายามจะรุกล้ำเข้าพื้นที่ “หากเข้ามาระวังเหยียบกับระเบิด” ตรวจพบโดรน 5 ลำ พบรถบรรทุก และรถยนต์หลายคันวิ่งเข้ามาในบางพื้นที่ ปัจจุบันกองกำลังทั้ง 2 ฝ่าย ยังคงวางกำลังตามแนวที่มั่นของตนเอง ฝ่ายไทยจัดกำลังพลประจำจุดเฝ้าตรวจตามเหตุการณ์ เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม และเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติตอบโต้ตามสถานการณ์
.วันนี้ (20 ส.ค.) คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (IOT) จาก 8 ประเทศ ลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของกัมพูชา โดยเฉพาะการโจมตีพลเรือนและสถานที่ที่ไม่ใช่เป้าหมายทางทหาร และได้เข้าเยี่ยมชมโรงพยาบาลพนมดงรัก เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ซึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการโจมตีด้วยจรวด BM-21 ถึง 3 ลูก ตั้งแต่เหตุปะทะ โดยแรงระเบิดทำให้อาคารหลายส่วนเสียหายเกือบทั้งหมด รวมถึงแฟลตที่พักแพทย์ ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ผิดหลักการสู้รบ ตามกฎหมายมนุษยธรรมสากลที่ห้ามโจมตีเป้าหมายพลเรือน
โดยก่อนหน้านี้ คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (IOT) จาก 8 ประเทศ ได้เข้าตรวจสอบสถานที่ควบคุมเชลยศึก เพื่อยืนยันว่าฝ่ายไทยปฏิบัติต่อเชลยศึกเป็นไปตามหลักสากล และอนุสัญญาเจนีวา ทั้งในด้านอาหาร การรักษาพยาบาล และการคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐาน นอกจากนี้ คณะผู้สังเกตการณ์ยังมีกำหนดเดินทางไปตรวจสอบพื้นที่จุ๊บตะโมก ซึ่งเป็นจุดที่ทหารพรานไทยเหยียบกับระเบิด หลังการเจรจาหยุดยิง ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญที่ชี้ให้เห็นว่าฝ่ายกัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงอย่างต่อเนื่อง ทูตทหารที่ร่วมคณะกล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อรับฟังข้อเท็จจริง ไม่ใช่เพื่อตัดสินว่าใครถูกหรือผิด แต่ยอมรับว่าเมื่อได้เห็นสถานการณ์จริงในพื้นที่แล้ว ก็พบว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างที่ “ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น”
นอกจากนี้ ยังตรวจพบโทรศัพท์มือถือของฝ่ายกัมพูชา ตกอยู่ในพื้นที่เก็บกู้ทุ่นระเบิดบริเวณภูมะเขือ เจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทยจึงได้ชาร์จแบตเตอรี่ และเปิดโทรศัพท์เครื่องดังกล่าว พบคลิปการสอนวางทุ่นระเบิด ชนิด PMN-2 ของทหารกัมพูชา และภาพการวางทุ่นระเบิดอีกจำนวนมาก ซึ่งเป็นหลักฐานยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชามีการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในพื้นที่ของฝั่งไทยจริง แสดงให้เห็นว่าฝ่ายกัมพูชาจงใจที่จะละเมิดข้อตกลงในการประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ณ ประเทศมาเลเซีย และละเมิดสนธิสัญญา Ottawa อย่างชัดเจน
สำนักข่าวอิศรารายงานข่าวเพิ่มเติมว่าสำหรับกรณีที่พบโทรศัพท์ของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งมีรูปภาพเกี่ยวกับการวางทุ่นระเบิด PMN-2 นั้น ก่อนหน้านี้นายเฮง รัตนาผู้อำนวยการศูนย์ปฏิการทุนระเบิดกัมพูชา (CMAC) ได้ ได้ออกมาปฏิเสธเรื่องนี้ โดยตั้งข้อสังเกตว่า "ทุ่นระเบิดจะไปวางอยู่ตรงนั้นได้อย่างไร? หากที่ดินอยู่ตรงข้ามกันพอดี ก็เห็นได้ชัดว่าเป็นพื้นที่พิพาท"
นายเฮง ทิ้งท้ายด้วยความเชื่อมั่นว่า ในยุคเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ (AI) ประชาคมโลกสามารถแยกแยะความจริงออกจากการบิดเบือนได้ และที่มาของยุทโธปกรณ์ร้ายแรงอย่างระเบิด MK-82, MK-84 และระเบิดพวงนั้น มีข้อมูลชัดเจนตรวจสอบได้ตั้งแต่ผู้ผลิต ผู้ค้า ผู้ขนส่ง ไปจนถึง ผู้ใช้งาน

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา