
กรมสอบสวนคดีพิเศษ เร่งรัดขอเอกสารการแต่งตั้งบุคคลใกล้ชิด สว. 200 คน ทั้งผู้เชี่ยวชาญ-ที่ปรึกษา-ผู้ช่วย หลังจากขอไปแล้วกว่า 2 สัปดาห์ ก่อนออกหมายเรียกพยานลอตสุดท้ายมาสอบปากคำ วุฒิสภา อ้าง ต้องขอมติที่ประชุม ป้องการการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล เผย เตรียมขยายผลเส้นทางการเงิน โยง ขบวนการฮั้วเลือก สว. ภายหลังพบพฤติการณ์โอนเงินเดือนให้บุคคลภายนอก
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 8 สิงหาคม 2568 สืบเนื่องจากกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 24/2568 กรณีความผิดฐานฟอกเงินของบุคคลหรือคณะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) รวมถึงผู้ที่เป็นสมาชิกอั้งยี่และผู้สนับสนุน หรือคดีอั้งยี่และฟอกเงิน สว. ได้สืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อพิจารณาพฤติกรรมกลุ่มบุคคลที่ปกปิดวิธีการดำเนินการและความมุ่งหมาย เพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมายในการเลือก สว.
จากการสืบสวนเส้นทางการเงินบุคคลเกี่ยวข้องในขบวนการจัดฮั้ว ยังพบความผิดปกติของนิติกรรมทางการเงินในช่วงเวลาสำคัญ ทั้งก่อนการเลือก สว. ระหว่างการเลือก และหลังเสร็จสิ้นการเลือก สว. คณะพนักงานสอบสวนจึงทยอยออกหมายเรียกพยานสอบปากคำรวมกว่า 100 ราย และได้มีการประสานหนังสือไปยังวุฒิสภาเพื่อขอเอกสารเกี่ยวกับแต่งตั้งบุคคลใกล้ชิด สว. อาทิ ผู้ช่วย ผู้เชี่ยวชาญ และที่ปรึกษาประจำตัว สว. เนื่องด้วยปรากฏเรื่องเส้นทางการเงินถูกโอนกลับไปที่คณะบุคคลบางกลุ่มในขบวนการจัดฮั้ว จึงต้องตรวจสอบสาเหตุที่มาของการแต่งตั้ง เพื่อเตรียมออกหมายเรียกพยาน ลอตสุดท้าย มาสอบสวนปากคำ
โดยมีรายงานความเคลื่อนไหวของคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 24/2568 กรณีความผิดฐานฟอกเงินของบุคคลหรือคณะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการได้มาซึ่ง สว. รวมถึงผู้ที่เป็นสมาชิกอั้งยี่และผู้สนับสนุน หรือ คดีอั้งยี่และฟอกเงิน สว. เปิดเผยว่า ปัจจุบันครบระยะเวลา 2 สัปดาห์ ภายหลังจากที่ดีเอสไอได้ประสานหนังสือไปยังวุฒิสภา ตั้งแต่ห้วงวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อขอเอกสารเกี่ยวกับการแต่งตั้งกลุ่มผู้ช่วย ผู้เชี่ยวชาญ และที่ปรึกษาประจำตัว สว. ของ สว. ทั้ง 200 ราย
เนื่องด้วยจากรายงานการสืบสวนสอบสวนและพยานหลักฐานเกี่ยวกับเส้นทางการเงิน พบว่ามีเส้นทางการเงินของคนใกล้ชิด สว. เหล่านี้ไปเชื่อมโยงกับกลุ่มคณะบุคคลที่อยู่ในขบวนการจัดฮั้วระดับประเทศ จึงต้องประสานเอกสารจากวุฒิสภา โดยเฉพาะรายชื่อและการกรอกประวัติส่วนตัว เพื่อนำมาตรวจสอบถึงที่มาที่ไป ก่อนพิจารณาเชิญมาสอบสวนปากคำในฐานะพยานเพื่อชี้แจงเรื่องเส้นทางการเงิน แต่ในปัจจุบันนี้ดีเอสไอยังไม่ได้รับเอกสารจากวุฒิสภาครบถ้วน โดยพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้มีการประสานเร่งติดตามผลการขอเอกสารอย่างต่อเนื่อง และสอบถามถึงข้อติดขัดดังกล่าว
คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยอีกว่า สำหรับพฤติการณ์ที่พบความผิดปกติเรื่องเส้นทางการเงินของคณะทำงานคนใกล้ชิด สว. ยกตัวอย่าง คณะทำงานจะได้รับเงินเดือน 15,000 บาท บางรายกลับโอนยอดเงินดังกล่าวให้กลุ่มบุคคลภายนอกหมดทุกบาททุกสตางค์
ขณะที่บางรายอาจมีติดบัญชีไว้บ้าง จำนวน 1,000-2,000 บาท แต่โดยส่วนใหญ่จากการสืบสวนพบว่า มีทั้งโอนตรงเข้าบัญชีและเอาเงินสดไปให้ ซึ่งมีความต่อเนื่องมาตลอด ตั้งแต่ก่อนเลือก สว. และหลังเสร็จสิ้นการเลือก สว.ไปแล้ว
ส่วนในการประสานขอเอกสารของดีเอสไอ เกี่ยวกับการกรอกประวัติส่วนตัวของบรรดาผู้ช่วย ผู้เชี่ยวชาญ และที่ปรึกษาของ สว. ทั้ง 200 ราย เพื่อไปใช้ประกอบการสอบสวนในคดีอั้งยี่และฟอกเงิน สว.นั้น สว.เล็งเห็นว่าจะต้องมีการนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมวุฒิสภาก่อนเพื่อขอมติการยินยอมในการให้หน่วยงานอื่นเข้าถึงข้อมูล เพื่อเป็นการป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลตาม พ.ร.บ.พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือ PDPA

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา