
'สมศักดิ์'เผยเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา พบโรงพยาบาลเสียหาย 146 ล. จ่อร่วมฟ้องกัมพูชา ทั้งอาญาและแพ่ง รอผลเจรจา GBC หากได้ข้อยุติ เตรียมอพยพประชาชนกลับบ้าน พร้อมเดินหน้าเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 6 ส.ค 2568 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงครั้งที่ 8/2568 ว่า การประชุมวันนี้มีการสรุปการดำเนินงานรายเดือน ประกอบด้วย เรื่องที่ 1 การสรุปข้อมูลอุทกภัยที่ภาคเหนือ ด้านความเสียหายจากเหตุอุทกภัยพายุโซนร้อนวิภา ได้รับความเสียหายมากที่สุดใน จ.น่าน คือ โรงพยาบาล (รพ.) น่าน ได้รับความเสียหายประมาณ 275 ล้านบาท แต่ถ้ารวมทั้งหมดในภาคเหนือก็เกือบ 300 ล้านบาท ซึ่งจะมีการสำรวจในรายละเอียดอีกครั้ง เรื่องที่ 2 การสู้รบบริเวณชายแดนไทยกัมพูชา
ถ้าให้เปรียบกระทรวงสาธารณสุขไม่ใช่ช้างเท้าหน้า แต่เป็นเท้าตามคอยดูประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในศูนย์พักพิง ซึ่งจะต้องติดตามว่า ในวันพรุ่งนี้ (7 ส.ค.) จะมีการเจรจาหารือทวิภาคีระหว่างไทยและกัมพูชาภายใต้กรอบการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (GBC) ระหว่างสองฝ่าย หากได้ข้อสรุป และประชาชนต้องอพยพกลับบ้านเรือน
จากนั้นก็จะเป็นการอพยพประชาชนกลับสู่พื้นที่บ้านเรือน โดยกระทรวงฯ จัดเตรียมทีมปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์ (Medical Emergency Response Team) หรือ MERT, ทีมปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉินระดับอำเภอ (MiniMERT), รถโมบายทางการแพทย์, ทีมกรมควบคุมโรค, ทีมช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤต (Mental Health Crisis Assessment and Treatment Team) หรือ MCATT รวมถึงทีมกรมอนามัย รวม 1,182 ทีม นอกจากนั้นยังมีบุคลากรอาสาของกระทรวงสาธารณสุข 1,987 ราย เพื่อลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือประชาชน
Ads by Bidsxchange
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ทางด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการว่า ให้ทุกหน่วยงานประเมินความเสียหายจากการสู้รบ ในเบื้องต้นของ สธ. เป็นความเสียหายในค่าวัสดุ สิ่งก่อสร้าง มากที่สุดคือ รพ.พนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.สุรินทร์ ราว 46 ล้านบาท เป็นค่าวัสดุทั่วไปประมาณ 100 ล้านบาท ส่วนค่าความเสียหายของครุภัณฑ์ เช่น เครื่องมือทางการแพทย์ เครื่องเอกซเรย์ ยังไม่ได้มีการประเมินโดยละเอียด
“เบื้องต้นตอนนี้ที่ประเมินชัดๆ คือ 146 ล้านบาท ซึ่งก็ต้องดำเนินการฟ้องเขมร ที่ทำกับประเทศไทย นอกจากนี้ ยังประเมินความเสียหายจากพายุวิภา จนเกิดน้ำท่วมภาคเหนืออย่างหนัก ความเสียหายที่เกิดขึ้นมากที่สุด คือ จ.น่าน โดยเสียหาย 275 ล้านบาท ซึ่งจะสำรวจความเสียหายทั้งหมดอีกครั้ง และในวันพรุ่งนี้(7 ส.ค.) ผมจะลงพื้นที่จ.สระแก้ว เพื่อดูสถานการณ์ว่าจะเตรียมตัวอย่างไร สธ.จะต้องดำเนินการร่วมฟ้องคดีกับผู้ที่กระทำ คือ เขมร ที่ได้กระทำกับไทยเรา” นายสมศักดิ์ กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องที่ 3 โครงการมอบโควตาและสิทธิพิเศษทางการศึกษา กรณีสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชานั้น เป็นหนึ่งในแผนการผลิตบุคลากรทางการแพทย์ 9 วิชาชีพกรอบเวลา 10 ปีของสถาบันพระบรมราชชนก ที่ผ่านคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว ซึ่งในที่ประชุมก็มีหลายความเห็น เช่น คณะแพทยศาสตร์ อาจจะไม่สามารถให้สิทธิพิเศษได้ เนื่องจากมีการประเมินความรู้ของผู้เรียนก่อน แต่ในส่วนวิชาชีพอื่น เช่น พยาบาล ก็จะมีการพูดคุยกันต่อไป เช่นเดียวกับ กรณีทายาทของทหารที่เสียชีวิตในการสู้รบ สามารถเข้ารับราชการได้ ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงต้องติดตามต่อไป
“มีการหารือในที่ประชุมว่า อย่างทหารที่ปฏิบัติงานจากชายแดนและเสียชีวิต จะมีการให้โควตาทายาท ลูก ภรรยา เข้ารับราชการได้ แต่ต้องดูระเบียบด้วย เพราะปัจจุบันยังไม่มีระเบียบที่ชัดเจน แต่กระทรวงสาธารณสุข มองถึงความจำเป็นที่จะต้องช่วยเหลือและสนับสนุนเรื่องนี้ ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องไปศึกษารายละเอียดก่อน และจะแจ้งให้ทราบต่อไป” นายสมศักดิ์ กล่าว
ส่วนกรณีมีรายงานการดำเนินการตามข้อสั่งการ รมว.สธ.ที่มอบให้ กรมควบคุมโรค และกรมอนามัย จัดการปัญหาซาก และกลิ่นศพชายแดนไทยกัมพูชา นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีรายงานเข้ามา แต่เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าจะไม่มีโรคติดต่อเข้ามา เพราะว่าทหารกัมพูชาที่เสียชีวิตมีสุขภาพแข็งแรง ไม่ได้เป็นคนป่วยมารบ ฉะนั้น ถึงไม่มีความน่าเป็นห่วงเรื่องของโรคระบาด แต่เรื่องของกลิ่น ก็ได้รับคำแนะนำจากทางกรมอนามัยและกรมควบคุมโรค ว่าสามารถฉีดสเปรย์พ่นกำจัดกลิ่น และการสวมหน้ากากอนามัย N95 เพื่อป้องกันกลิ่น เลยกรมอนามัยได้แจกไปแล้วมากกว่า 3 พันชิ้น

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา