
'วินธัย' เผยหารือทหารไทย-กัมพูชา ตกลงหยุดยิง 3 จุดตลอดแนว รอผลประชุม GBC หลังช่วงเช้าทัพภาค 2 แฉกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โจมตีเข้ามาในพื้นที่หลายจุด ทำให้ฝ่ายทัพบกต้องตอบโต้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวเกี่ยวกับสถานการ์สู้รบระหว่างไทยและกัมพูชาประจำวันที่ 29 ก.ค.หรือก็คือหลังจากที่มีการตกลงหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา โดยมีมาเลเซียเป็นคนกลางว่า
เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. เฟซบุ๊กกองทัพภาค 2 ได้รายงานข่าวสรุปอ้างว่าในส่วนของการพบปะหารือระหว่างผู้บัญชาการหน่วยทหารระดับพื้นที่ของทั้งสองประเทศ ระบุว่าผู้บังคับบัญชาหน่วยทหารในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา ทั้ง 3 พื้นที่ เห็นชอบร่วมกันให้หยุดยิง ห้ามเคลื่อนย้ายกำลัง ระหว่างรอการประชุม GBC ในวันที่ 4 ส.ค. 68 นี้
พลตรี วินธัย สุวารี โฆษก ทบ. เปิดเผยผลการประชุมหารือของผู้บังคับบัญชาหน่วยทหารในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา ที่จัดขึ้นในวันนี้ (29 ก.ค.68) เมื่อเวลา 10.00 น. ทั้ง 3 พื้นที่ ดังนี้
- การประชุมหารือระหว่าง กองทัพภาคที่ 1 กับ ภูมิภาคทหารที่ 5 (ฝ่ายกัมพูชา) จัดขึ้นที่จุดผ่านแดนถาวรคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว นำโดย แม่ทัพภาคที่ 1 ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบในการให้งดเคลื่อนไหวกำลังเพื่อหลีกเลี่ยงความหวาดระแวง ระหว่างรอผลการประชุม GBC วันที่ 4 ส.ค. 68 และให้ผู้นำแต่ละระดับสามารถติดต่อกันโดยตรงได้เมื่อมีเหตุจำเป็น
- การประชุมหารือระหว่าง กองทัพภาคที่ 2 กับ ภูมิภาคทหารที่ 4 (ฝ่ายกัมพูชา) จัดขึ้นที่จุดผ่านแดนช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ นำโดย แม่ทัพภาคที่ 2 ซึ่งมีประเด็นในการหารือ ได้แก่ การยุติการยิงโดยทันที การห้ามใช้กำลังหรืออาวุธต่อประชาชน การงดเสริมกำลังและห้ามเคลื่อนย้ายกำลังในลักษณะที่อาจสร้างความเข้าใจผิด ตลอดจนการอำนวยความสะดวกในการส่งกลับผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตจากเหตุปะทะ ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบร่วมกัน พร้อมจัดตั้งชุดประสานงานระดับพื้นที่เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ
- การประชุมหารือระหว่าง กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) กับ ภูมิภาคทหารที่ 3 (ฝ่ายกัมพูชา) ที่จัดการประชุมผ่านระบบออนไลน์ นำโดย ผู้บัญชาการกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด มีผลสรุปการประชุมที่เป็นไปในแนวทางเดียวกันกับในพื้นที่ของกองทัพภาคที่ 1
นอกจากนี้ โฆษก ทบ. ยังได้กล่าวอีกว่าสถานการณ์ตามแนวชายแดนล่าสุดตั้งแต่ก่อนช่วงการประชุมทั้ง 3 พื้นที่ ได้มีการหยุดยิงตลอดแนวเป็นที่เรียบร้อย
@แฉกองทัพกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง เข้าโจมตีหลายจุด
ทั้งนี้ในช่วงเวลา 9.15 น. เฟซบุ๊กกองทัพภาค 2 รายงานข่าวสรุป สถานการณ์การสู้รบ เนื้อหาว่า กองทัพภาคที่ 2 รายงานฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง พบการก่อกวนและการใช้อาวุธโจมตีเข้ามาในหลายพื้นที่ ฝ่ายไทยตอบโต้กลับตามสถานการณ์ ด้านการพบปะผู้นำหน่วยทหารในพื้นที่ โฆษก ทบ. เผยยังคงมีความพยายามดำเนินการ
กองทัพบก ได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ถึงสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา โดยหลังจากฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงหลังเวลา 24.00 น. และเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ในแนวหน้าอย่างใกล้ชิด
หน่วยทหารในพื้นที่ได้รายงานพบการปฏิบัติทางทหารของฝ่ายกัมพูชาในหลายเหตุการณ์ตลอดคืนจนถึงช่วงเช้า โดยพบการก่อกวนและใช้อาวุธยิงสนับสนุนเข้ามาในพื้นที่ฝ่ายไทย ในหลายพื้นที่ ได้แก่ พื้นที่ช่องบก, พื้นที่ช่องอานม้า, พื้นที่ซำแต, พื้นที่ปราสาทตาควาย และพื้นที่ภูมะเขือ ซึ่งฝ่ายไทยได้ตอบโต้ตามสถานการณ์ โดยใช้กำลังในแนวหน้าและอาวุธยิงสนับสนุน เพื่อยับยั้งการปฏิบัติดังกล่าวของฝ่ายกัมพูชา จากกรณีดังกล่าว พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ออกแถลงการณ์ว่า “ตามที่รัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชาได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันในการยุติการสู้รบทางทหารบริเวณแนวชายแดน โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 24.00 น. ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 เพื่อเปิดโอกาสให้เกิดบรรยากาศแห่งความสงบ ลดความตึงเครียด และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน
กองทัพบกขอเรียนว่า ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างเคร่งครัด โดยได้ทำการหยุดยิง บริเวณพื้นที่แนวชายแดน ไทย-กัมพูชา ทันทีที่ถึงกำหนดเวลา ด้วยความตั้งใจจริง และยึดมั่นต่อพันธกรณีที่ได้ตกลงร่วมกันของรัฐบาลทั้งสองประเทศ
แต่เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งเมื่อถึง กำหนดเวลาดังกล่าว ฝ่ายไทยยังคงตรวจพบว่าฝ่ายกัมพูชาได้มีการใช้อาวุธโจมตีเข้ามาในเขตแดนของประเทศไทยอยู่หลายจุด ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างจงใจ เจตนาทำลายระบบความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน กองทัพบกจึงขอประณามต่อการกระทำดังกล่าว
ฝ่ายไทยจำเป็นจะต้องใช้มาตรการโต้กลับอย่างเหมาะสม ภายใต้สิทธิอันชอบธรรมในการป้องกันตนเอง ยืนยันฝ่ายไทยไม่ได้ใช้กำลังทหารเพื่อรุกราน แต่เพื่อป้องกันการรุกล้ำและรักษาอธิปไตยของชาติ ภายใต้กฎกติกาสากล”
นอกจากนี้โฆษกกองทัพบกยังได้เปิดเผยถึงกำหนดการพบปะผู้นำหน่วยทหารในพื้นที่ของ
ทั้งสองฝ่ายที่มีแผนพบกันในช่วงเช้าของวันนี้ว่า “ยังคงมีความพยายามในการเดินหน้าพบปะพูดคุยกันของผู้นำทางทหารทั้งสองประเทศ โดยในขณะนี้ทราบว่ามีการปรับเวลาเป็น 10.00 น. ส่วนรายละเอียดอื่นๆจะได้มีการเปิดเผยให้ทราบอีกครั้ง”

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา