
'ทักษิณ' ไปอุบลฯ ร่ายยาวสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยืนยันไม่ได้มาจากความขัดแย้ง 2 ตระกูล ซัด 'ฮุนเซน'บ้าไปเอง ระบุตอนนี้ให้ทหารจัดการไปตามยุทธการที่มีก่อน แต่ยังหวังให้สองประเทศเจรจาถึงจบ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 26 กรกฎาคม 2568 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางไปเยี่ยมศูนย์พักพิงชั่วคราวอำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งรองรับผู้หลบหนีภัยสงคราม และในโอกาสวันเกิดครบรอบ 76 ปี โดยนายทักษิณได้ผัดข้าวแจกผู้หลบหนีภัยสงคราม พร้อมให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเกี่ยวกับสถานการณ์การปะทะระหว่างไทยและกัมพูชาด้วย
@กัมพูชาใช้อาวุธหนักใส่ชาวบ้าน ใช้ไม่ได้
นายทักษิณกล่าวก่อนการลงพื้นที่เมื่อเช้านี้ว่า ต้องการลงไปดูว่า ประชาชนเขาเป็นอยู่อย่างไรบ้าง เพราะเป็นเหตุฉุกเฉินส่วนเหตุการณ์สู้รบครั้งนี้ ที่ทำให้สูญเสียกำลังพลหลายรายนั้น เมื่อมีการใช้อาวุธหนัก ก็ต้องมีการสูญเสีย แต่ทหารต้องการปกป้องอธิปไตย ถือเป็นผู้ที่เสียสละ ก็ต้องดูแลครอบครัว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรที่กัมพูชาใช้อาวุธโจมตีมายังบ้านเรือนประชาชนและโรงพยาบาล โดยไม่คำนึงถึงหลักมนุษยธรรม นายทักษิณ บอกว่า ใช้ไม่ได้ ไม่มีที่ไหนในโลกเขาทำกัน ถูกประณามจากทั่วโลก ของเราขนาดใช้ F-16 เรายังระวัง ใช้เฉพาะพื้นที่เป้าหมายทางทหารเท่านั้น
@หลายประเทศอยากเข้ามาไกล่เกลี่ย เชื่อ 2 ประเทศต้องคุยกันถึงจบ
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ได้ใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวในการสื่อสารไปยังต่างประเทศอย่างไร นายทักษิณ กล่าวว่า มีหลายประเทศ อยากเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ย แต่เราถือว่าเป็นเรื่องของสองประเทศต้องคุยกัน หากว่าคุยกันไม่รู้เรื่อง ใครมาไกล่เกลี่ยก็เหมือนเดิม ไม่ใช่ว่าอยู่ๆจะทำอะไรก็ทำ ส่วนสาเหตุเริ่มต้นเกิดจากการปลุกกระแสนิยมภายในประเทศกัมพูชามากเกินไป แต่ภายหลังก็กระทบกับผลประโยชน์ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นส่วนสถานการณ์จะยืดเยื้อหรือไม่นั้น ไม่น่าจะยืดเยื้อ ซึ่งที่ผ่านมาที่กัมพูชาบุกรุกอธิปไตยส่วนบริเวณจุดที่ปะทะ เคยเป็นพื้นที่ที่ของไทยเราเคยครอบครอง และเมื่อรุกคืบมา กัมพูชาก็เลยถือโอกาสที่จะเอาพื้นที่ที่เราเคยยึดครองอยู่นั้นคืนมา และทหารของเราจึงมีการขยายแนว พร้อมระบุว่าถึงขนาดนี้แล้ว พื้นที่ที่เคยเป็นข้อพิพาท ถูกครอบครองไปก็ต้องเอาคืนมา
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ถึงวันนี้ทางกัมพูชาเปิดแนวรบมายังภาคตะวันออกฝั่งจังหวัดตราด นายทักษิณกล่าวว่าฝั่งกัมพูชามีกำลังอยู่บริเวณดังกล่าวด้วย ขณะเดียวกันฝ่ายไทยก็เตรียมความพร้อมอยู่

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำอาหารเมนูข้าวผัดภายในโรงครัว และร่วมจัดทำข้าวกล่องกระจายไปศูนย์พักพิงประชาชนในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี
ที่มาภาพ: Facebook วันนี้เพื่อไทยทำอะไร
@ฮุนเซนบ้าอยู่คนเดียว
ส่วนที่นายทักษิณโพสต์ข้อความผ่านแอปพลิเคชัน X ว่าหลายประเทศห่วงสถานการณ์สู้รบเสนอตัวช่วยไกล่เกลี่ย แล้วมีการระบุข้อความว่า ขอเวลาหน่อย ปล่อยให้ทหารไทยทำหน้าที่สั่งสอนเล่ห์เหลี่ยม ฮุน เซน ก่อนจนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักนั้น นายทักษิณ ชี้แจงว่า คือวันนี้คนไม่เข้าใจ เพราะถ้าเข้าใจภาพรวมจะรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้น เกิดจากเขา (สมเด็จฮุนเซน) บ้าอยู่คนเดียว นั่งอยู่กับโซเชียลทั้งวันเป็นซอมบี้ แล้วก็หงุดหงิดมาหาเรื่อง ทั้งที่เราไม่มีอะไรเลย
“ผมก็ยังคิดไม่ถึงว่าอยู่ๆเกิดเหตุการณ์นี้ได้ มันไม่ใช่เป็นเรื่องของความขัดแย้งส่วนตัว ไม่มีเลย ไม่ได้เกี่ยวเลย ผมไม่เคยมีความขัดแย้ง เขาเป็นคนที่เริ่มต้นด้วยความระแวง และสร้างกระแสชาตินิยมภายในประเทศให้มากขึ้น” นายทักษิณ กล่าว
@ย้ำครั้งที่ 1 ไม่ใช่ความขัดแย้ง 2 ตระกูล
เมื่อถามว่า อยากฝากอะไรถึงคนไทยที่มองว่าการสู้รบที่เกิดขึ้นเกิดจากปัญหาของคนสองตระกูล นายทักษิณ ยืนยันว่าไม่จริง ไม่ได้เป็นความขัดแย้งของสองตระกูลเลย ไม่มีความขัดแย้งใดๆทั้งสิ้น แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะว่า เขา (สมเด็จฮุนเซน) ไม่พอใจประเทศเรา
“เอาอย่างนี้ดีกว่าเริ่มต้นตั้งแต่ ผมจำวันที่ไม่ได้ มีอยู่วันหนึ่งวันศุกร์ เขาเคลื่อนกำลังมาที่ชายแดนเรา 12,000คน ผมก็เลยโมโหโทรไปต่อว่า ทำไมทำอย่างนี้ ในเมื่อลูกเราเป็นผู้นำสองประเทศเราจะทำสงครามกันหรือ เขาก็ถามว่าจะทำอย่างไร ผมจึงบอกว่าต้องเปิดการเจรจา เราคุยกันแบบเพื่อนบ้าน ในที่สุดเขาก็เปิดให้มีการพูดคุยกันตั้งแต่ระดับชายแดน จนถึงเจบีซี วันนั้นเป็นวันอาทิตย์ที่เขาถอนกำลัง โดยที่ไม่บอกกล่าว อยู่ๆก็ถอนเลย ทีนี้ทหารไทยเราประชุมกันเรียบร้อยแล้วว่าจะปิดด่าน เป็นมาตรการไม่ได้รุนแรง แต่บังเอิญว่าสั่งการเมื่อวันศุกร์ พอวันอาทิตย์เขาถอนกำลัง เพราะฉะนั้นคำสั่งออกไปแล้ววันจันทร์ก็เลยมีการปิดด่าน เขาก็เลยมีความรู้สึกว่าทำไมเขาถอนกำลังแล้วจึงยังปิดด่าน จึงโกรธและพูดจาไม่ดี นายกฯเราก็เลยใช้คำว่า ไม่โปรเฟสชั่นแนล เขาก็เลยวางแผนอัดเทปตรงนั้นแหละคือปัญหา ไม่ใช่เป็นเพราะว่าเราไปสร้างปัญหา แต่เป็นเพราะว่าเขาระแวง เขาต้องการทำในสิ่งที่วางแผนไว้ เพราะเวลาปิดด่านไปขัดผลประโยชน์ เรื่องคอลเซ็นเตอร์ถือเป็นผลประโยชน์ที่คนไทยต้องปกป้อง จำได้หรือไม่ผมพูดเรื่องตึก 25 ชั้น ตอนหลังมาจึงรู้ว่าคนเหล่านั้นคือคนใกล้ชิดกับเขา ซึ่งก็โดนออกหมายจับที่ประเทศไทย”นายทักษิณกล่าว
นายทักษิณ กล่าวต่อว่า ยังยืนยันว่าเดิมไม่เคยมีความขัดแย้งใดๆ ยังคิดว่าเป็นเรื่องอารมณ์ส่วนตัว วันนี้เชื่อว่าทั้งประเทศกัมพูชาก็หงุดหงิดกัน ไม่มีใครพูดกับสมเด็จฮุนเซนได้ แต่ของเราใช้ทหาร ทำงานแบบมืออาชีพ ที่พูดอย่างนั้นเพราะยุทธการทหารต้องเดิน อย่าไปห้าม และยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้มีการแทรกแซงทหาร ปล่อยให้ทำงานในแนวที่คิดว่าเป็นยุทธการที่ถูกต้อง ก็ทำไป เราก็มีหน้าที่สนับสนุนเรื่องส่งกำลังบำรุงรัฐบาลก็มีหน้าที่สนับสนุน และไม่ได้หยุดยั้งอะไรเขา ขนาดมีคนมาขอให้หยุดยิง เราก็ยังถือว่ายุทธการทหารของเรายังไม่เสร็จสิ้น จะไปเบรกทหารเขาอย่างไร ก็ให้เขาทำไปให้เสร็จสิ้น
ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่า ใครเป็นคนขอให้หยุดยิง นายทักษิณ กล่าวว่า มีหลายประเทศ ชาติมหาอำนาจอย่างจีน ได้รับการร้องขอจากทางฝ่ายตรงข้ามเรามากกว่า มาคุยกับเรา แต่เราคิดว่าอะไรควรหรือไม่ควร ก็ไปตกลงกันที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ไม่ใช่ตน พร้อมปฏิเสธว่า ไม่ใช่ผู้ที่ไปล็อบบี้ การเจรจาหยุดยิงเพื่อสันติภาพ และย้ำว่าไม่เป็นความจริง วันนี้จะทำอะไรต้องถามยุทธการทหารก่อน เพราะต้องไปประชุมกันที่สมช. ว่ายุทธการทหารจะเป็นอย่างไร และนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศควรเข้ามาตอนไหน เราไม่ได้เข้าซี้ซั้วเราต้องเข้ามาในจังหวะที่เหมาะสม
ส่วนศักยภาพยุทโธปกรณ์ของกองทัพไทย นายทักษิณ กล่าวว่า ศักยภาพเราคิดว่าไม่น้อยหน้า เราก็ดีอยู่ เพียงแต่ว่าเรา เป็นขั้นเป็นตอน อย่างวันพรุ่งนี้จะมีโดรน ก็สั่งโดรนมา ออกเงินส่วนตัวไป และโดรนสามารถลาดตระเวนเข้าไปมองที่พื้นเห็นหมดว่ามีกับระเบิดอยู่ตรงจุดใดบ้างโดยจะพล็อตแผนที่กับระเบิดซึ่งคาดว่าน่าจะส่งมาในช่วงสัปดาห์หน้า ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่สุด และผู้เชี่ยวชาญจะมาช่วยกันดูว่า เราจะเห็น เพราะต้องป้องกันชีวิตคนทหารของเรา เพราะทหารของเราขาหักไปแล้วสองนาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจพบปะประชาชน ที่อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี นายทักษิณได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวอีกครั้ง โดยกล่าวว่า ได้คุยกับทหารแล้ว ให้กองทัพเดินตามยุทธการ เมื่อจบยุทธการแล้วอยากจะคุยก็ให้คุย ถ้ายังไม่จบยุทธการก็ขอให้จบยุทธการก่อน
@เมินไปร้อง UNSC ชี้ไทยไม่รับอำนาจศาลโลก ทำอะไรไม่ได้
ส่วนกรณีที่กัมพูชาได้ออกแถลงการณ์ยื่นต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ไปแล้วนั้น นายทักษิณกล่าวว่า ไม่เป็นไรเพราะกัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ตามกฎหมายระหว่างประเทศ ในเมื่อไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลกเราก็จะไม่ขึ้นศาลโลก แต่ UNSC จะได้รับการร้องขอถ้าหากว่าใครเป็นฝ่ายรุกรานก่อน แต่ครั้งนี้เราใช้ความอดทน อดกลั้น แม้ว่าประชาชนจะรู้สึกหงุดหงิดว่าทำไมไทยถึงใจเย็น ไม่เช่นนั้นก็จะเข้าแผนกัมพูชาเขา และในที่สุดกัมพูชาก็ยิงเข้ามาที่เราก่อน เรามีสิทธิ์ที่จะตอบโต้ เราไม่เข้าเงื่อนไขว่าเป็นการรุกราน เมื่อไม่เข้ากฎหมายข้อนี้แล้ว UNSC ก็ไม่สามารถนำเราขึ้นศาลโลกได้ รวมถึงจะไม่มีการแทรกแซง เพียงแต่อยากให้มีการยุติปัญหาโดยเร็ว ซึ่งประเทศไทยก็ไม่ได้แสดงท่าทีว่าอยากจะมีเรื่อง เพียงแต่กัมพูชาหาเรื่องเราก็ว่าไปตามกติกา หากจะคุยกันเพื่อจะจบก็ต้องทำให้เห็นว่าเราจะเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน อยู่ด้วยความไว้ใจต่อกัน ถ้าได้ก็หยุด ถ้าไม่ได้จะต้องทำยังไงก็ให้ทำไป
ส่วนการที่ไทยเรียกร้องให้กัมพูชากลับมาอยู่บนโต๊ะเจรจา นายทักษิณ กล่าวว่า กัมพูชาพยายามหลีกเลี่ยงและพยายามที่จะสร้างให้ตัวเองได้เปรียบด้วยความพยายามขึ้นศาลโลก ซึ่งก็ทราบว่าประเทศไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก และในโลกนี้มีเพียงแค่ 70 ประเทศจาก 190 ประเทศที่ยอมรับ ไม่ใช่ว่าประเทศไทยเป็นส่วนน้อย เราเป็นส่วนใหญ่ที่ไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก ดังนั้นเมื่อไม่ยอมรับอำนาจศาลโลกแล้ว กัมพูชาเขาจะเอาเราเข้าศาลโลกก็ไม่ได้ และการรุกรานนั้นก็ไม่ใช่ไทยเพราะไทยอดทนอดกลั้น แต่เมื่อมาถึงจุดนี้แล้วเราก็ทำของเราดีที่สุด ส่วนเงื่อนไขให้กัมพูชาหยุดยิงก่อนและจะเริ่มเจรจา นายทักษิณบอกว่าเป็นเงื่อนไขปลีกย่อยทางการทหารที่อยุ่ในพื้นที่ย่อมรู้ดี ซึ่งตนมองว่าหากมียุทธการอะไรก็ให้ทำไปก่อน หลังจากนั้นค่อยว่ากัน
เมื่อถามอีกว่า กรณีนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน ที่ขอเสนอเป็นตัวกลางในการเจรจาระหว่างไทยและกัมพูชา นายทักษิณอธิบายว่า ที่จริงแล้วปัญหาเกิดจากความขัดแย้งจากสองประเทศที่เราสามารถคุยกันเองก็ได้ถ้าหากกัมพูชาอยากคุย ซึ่งจะคุยผ่านใครค่อยว่ากันอีกที แต่วันนี้เป็นเรื่องความขัดแย้งทั้งสองประเทศที่จะคุยกันก็ได้
ส่วนในฐานะประธานที่ปรึกษาอาเซียนจะมีวิธีแก้ภาพลักษณ์ประเทศไทยอย่างไรกรณีต่างชาตินำเสนอข่าวว่าไทยเป็นฝ่ายรังแก นายทักษิณตอบว่าตอนนี้ไม่มีความคิดนั้น กัมพูชายิงเข้ามาก่อนและยิงเข้ามาในที่ของประชาชนและเป็นสิ่งที่แย่ที่สุด ทั่วโลกได้ประณามแล้ว ย้ำว่าไทยโจมตีเฉพาะพื้นที่ทหารเท่านั้น ส่วนการสื่อสารที่ของรัฐบาลที่ผ่านมาถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าล่าช้ากว่ากัมพูชา นายทักษิณระบุว่าตอนนี้เราสื่อสารไปเยอะพอสมควร แต่กัมพูชาใช้หลักวิธีโกหกไปเรื่อย ๆ และให้คนในประเทศตัวเองเข้าใจว่าตนเองเก่งแต่ที่จริงแล้วเป็นการโกหก
เมื่อถามถึงกรณีผู้เสียชีวิตทั้งพลเรือนและทหาร นายทักษิณ กล่าวว่ารัฐบาลได้ประชุมและมีมติให้ค่าชดเชยสำหรับผู้เสียชีวิตคนละ 1 ล้านบาท บาดเจ็บสาหัส 7 แสนบาท ซึ่งรัฐบาลลพยายามจะดูแลและมั่นใจว่าครอบครัวของพวกเราสามารถอยู่ต่อกันไปได้
ส่วนการที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างสองประเทศเกิดจากความขัดแย้งระหว่างสองตระกูล นายทักษิณระบุว่า ไม่ใช่เรื่องจริง ไม่มีทางเป็นเรื่องส่วนตัว แต่เป็นสถานการณ์ของทั้งสองประเทศ ไม่มีความขัดแย้งระหว่างครอบครัว เป็นเรื่องของนายฮุนเซนที่ไม่สามารถควบคุมและบริหารงานได้ พร้อมยกตัวอย่างในช่วงที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรีเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น มีการเผาสถานทูตไทยในกัมพูชา จนทำให้ตนมีคำสั่งให้ตำรวจคอมมานโดไปรับตัวคนไทยออกมา
ส่วนที่มีหญิงชาวอุบลฯ เข้ามาต่อว่า นายทักษิณ ในวันนี้ว่าเป็นเพื่อนกับนายฮุนเซน แต่ทำไมปล่อยให้เขามาทำร้ายคนไทย นายทักษิณ ตอบว่า ขอเล่าว่าที่ผ่านมาตนเองได้โทรศัพท์ไปโวยวายว่าเมื่อลูกของเราเป็นนายกฯ ทั้งสองประเทศทำไมถึงยกกำลังมาประชิดชายแดนกัน ซึ่งได้หารือว่จะต้องทำอย่างไร โดยได้คำตอบว่าจะต้องเจรจากันจนเป็นที่มาของคลิปเสียงของนายกฯ จนเป็นที่มาของการพูดคุยในระดับทหาร ต่อมาทหารได้สั่งยุทธการได้ก่อนแล้วว่าวันจันทร์จะมีมาตรการปิดด่าน กัมพูชาก็ถอนกำลังกลับไป การปิดด่านก็เลยตามเลยไป จึงทำให้นายฮุนเซนไม่พอใจและพูดจาไม่ดีออกมา นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จึงโพสต์เฟซบุ๊กว่า Non Professional จึงเป็นที่มาของการแอบอัดเสียงสนทนาและปล่อยลงโซเชียล
นายทักษิณ ย้ำว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่างสองครอบครัว ถ้าหากไม่พอใจกันจะต้องทำวิธีอื่น แต่ครั้งนี้เราถือว่าสถาบันชาติสำคัญที่สุด เรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวมาทีหลัง ซึ่งคุยกันได้และได้คุยกันไปแล้วแต่มันบ้าไปแล้วเลยไม่รู้จะคุยยังไง สุดท้ายนายทักษิณได้ยืนยันว่าอีกไม่นานสถานการณ์จะสงบ ซึ่งตนมั่นใจ

ที่มาภาพ: Facebook วันนี้เพื่อไทยทำอะไร

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา