
ครม.อนุมัติวิธีกู้เงิน โดยการออก ‘G-Token’ หวังระดมทุนชดเชยการขาดดุลงบประมาณ คาดออก ‘ล็อตแรก’ 5,000 ล้าน ขณะที่ ‘พิชัย’ เผยยื่นข้อเสนอเจรจาลดภาษีนำเข้าไปยัง ‘สหรัฐ’ แล้ว คาดได้ข้อสรุปวันเจรจาเร็วๆนี้
..................................
เมื่อวันที่ 13 พ.ค. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม. มีมติอนุมัติวิธีการกู้เงินโดยการออกโทเคนดิจิทัลของรัฐบาล (Governance Tokens หรือ G-Token) ตามมาตรา 10 วรรคหนึ่ง แห่ง พ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ.2548 ตามที่กระทรวงการคลัง เสนอ
ทั้งนี้ เพื่อสร้างโอกาสและส่งเสริมการเข้าถึงการลงทุนที่มีคุณภาพให้กับประชาชน โดยการผลักดันโทเคนดิจิทัลของรัฐบาล ให้เป็นเครื่องมือการระดมทุนรูปแบบใหม่ของกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยีทางการเงินมาประยุกต์ใช้ เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มทางเลือกในการลงทุนให้ประชาชนมากขึ้น
นอกจากนี้ การออก G-Tokens ดังกล่าว ยังช่วยส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจรูปแบบดิจิทัล และช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมดิจิทัลในอนาคต โดยรัฐบาลเน้นย้ำในเรื่องของระบบ และกระบวนการที่มีความปลอดภัย โปร่งใส ตรวจสอบได้ เป็นไปตามกฎหมาย และเกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน
ด้าน นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวว่า ครม.มีมติอนุมัติวิธีการกู้เงินโดยการออกโทเคนดิจิทัลของรัฐบาล หรือ Thailand Digital Token เพื่อเพิ่มช่องทางการออมและการลงทุนให้ประชาขนรูปแบบใหม่ โดยการเพิ่มเครื่องมือการระดมทุนของรัฐบาล
“โดยปกติแล้ว สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) มีหน้าที่ต้องออกตราสารหนี้หรือเครื่องมือบางอย่าง ให้กับสถาบันและประชาชนในการระดมเงิน ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการระดมเงินในส่วนที่รัฐบาลขาดดุลงบประมาณ และโดยทั่วไปจะทำโดยการออกพันธบัตรฯให้กับสถาบัน หรือออกพันธบัตรออมเงินให้กับประชาชน
แต่เราคิดว่า เราสามารถทำช่องทางใหม่ๆ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้นักลงทุน จึงออกเครื่องมือการระดมทุนให้รัฐบาล หรือ Thailand Digital Token โดยผู้ที่ถือเครื่องมือการลงทุนตรงนี้ จะได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการลงทุนโดยการฝากเงินทั่วๆไป และถือเป็นส่วนหนึ่งของหนี้สาธารณะ ไม่ได้เป็นการพิมพ์เงินใหม่แต่อย่างใดทั้งสิ้น และไม่ได้เป็นคริปโตฯ อย่างที่เข้ากันใจ” นายพิชัย กล่าว
นายพิชัย กล่าวต่อว่า ข้อดีของ Thailand Digital Token คือ ประชาชนสามารถลงทุนเป็นจำนวนเงินที่น้อยก็ได้ เช่น ลงทุน 100 บาท หรือ 1,000 บาท ก็ได้ ซึ่งจะช่วยให้กลุ่มที่มีความสามารถในการลงทุนน้อย มีทางเลือกในการลงทุน และยังเป็นการวางรากฐานทางนวัตกรรม อันเป็นพื้นฐานของเศรษฐกิจดิจิทัล
“อันนี้เข้าข่ายเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลชนิดหนึ่ง ซึ่งในวันข้างหน้า เราสามารถเอาเข้าไปเทรดในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้ เพราะมีระบบรองรับอยู่แล้ว และผู้ลงทุนยังได้ผลตอบแทนที่มั่นคง สม่ำเสมอ” นายพิชัย กล่าว
ส่วนกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีข้อสังเกตในเรื่องนี้ นั้น นายพิชัย กล่าวว่า กระทรวงการคลังได้รับข้อสังเกตมาพิจารณาทั้งหมด โดยยืนยันว่า Thailand Digital Token ดังดล่าว ไม่ได้เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่นำมาใช้เป็นสื่อกลางในการชำระค่าสินค้าและบริการ (Means of Payment) ซึ่งในการออกโทเคนในครั้งแรก จะออกในสัดส่วนที่เหมาะสม และจะทดลองว่ามีความปลอดภัย
“ขนาดของการระดมทุนครั้งนี้ จะอยู่ในระดับต่ำ โดยเที่ยวนี้เราอาจจะออกแค่ 5,000 ล้านบาท บวกลบ จากปกติที่เราออก 3-4 หมื่นล้านบาท” นายพิชัย กล่าวและว่า คาดว่า Thailand Digital Token น่าจะออกได้ในอีก 2 เดือนข้างหน้า
นายพิชัย กล่าวถึงความคืบหน้าในการเจรจาเรื่องภาษีนำเข้ากับสหรัฐฯ ว่า ขณะนี้ไทยได้ยื่นข้อเสนอเกี่ยวกับการเจรจาเรื่องภาษีนำเข้าฯไปยังกระทรวงการคลัง สหรัฐฯ และสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) โดยยื่นข้อเสนอไปเมื่อ 4-5 วันที่แล้ว ทั้งนี้ คาดว่าสหรัฐฯและไทยจะมีการเจรจาเรื่องภาษีนำเข้าฯกันในเร็วๆนี้ เพราะเมื่อสหรัฐฯได้รับข้อเสนอของประเทศไทยแล้ว ก็จะมีคำตอบกลับมา
“จริงๆเรา ติดตามสถานการณ์ของจีน ก็เป็นไปตามที่เราคาด เรายังติดตามเรื่องเกาหลี ญี่ปุ่น ซึ่งก็ค่อนข้างสลับซับซ้อนกว่า ส่วนเราเองได้ยื่น proposal (ข้อเสนอ) ไปแล้ว เมื่อประมาณ 4-5 วันที่แล้ว โดยยื่น proposal ไปที่กระทรวงการคลัง สหรัฐฯ และอีกขาหนึ่งก็ได้ยื่นเหมือนกัน โดยยื่นไปที่ USTR ซึ่งอธิบายได้เป็น 5-6 ข้อ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้มีการคุยกันและมีการตกลงกันในระดับคณะทำงาน เพื่อให้มั่นใจว่าเมื่อคุยหลักการแล้วจะจบโดยเร็ว” นายพิชัย กล่าว
นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า โทเคนดิจิทัลของรัฐบาล หรือ G-Token เป็นไปตามแนวนโยบายของภาครัฐที่ต้องการนำเทคโนโลยีทางการเงินเพื่อส่งเสริมช่องทางการออม และเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงการลงทุนของประชาชน (Financial Inclusion) ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางการขับเคลื่อนนโยบายของ ก.ล.ต.
ทั้งนี้ G-Token ตามมติ ครม. มีลักษณะเป็นหน่วยที่แสดงสิทธิตามที่กำหนดในข้อตกลงระหว่างกระทรวงการคลังและผู้ถือ จึงอาจมีลักษณะเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลโดยพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 ดังนั้น เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ Financial Inclusion และมีการกำกับดูแลที่เหมาะสม ก.ล.ต. จะประสานกับกระทรวงการคลังเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ลงทุนและประชาชน
ขณะที่แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวกับสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) กล่าวว่า ในเร็วๆนี้ นายกฯ จะเรียกประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากการประชุมครั้งที่แล้ว ที่ประชุมได้มอบการบ้านให้หน่วยงานต่างๆ ไปศึกษาเกี่ยวกับการทบทวนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการแจกเงินในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตในเฟสที่ 3 และเฟสที่ 4 รวมถึงการศึกษาและจัดทำรายละเอียดการใช้จ่ายเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และรองรับผลกระทบของสงครามการค้า เช่น การลงทุนระบบน้ำ และการจัดทำโครงการเพื่อรองรับคนตกงาน เป็นต้น ก่อนนำเสนอที่ประชุมฯในครั้งหน้า

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา