
สภาพัฒน์ฯเปิดข้อมูลไทยอุ้มค่ารักษาพยาบาลให้คนต่างด้าวสูง 9.2 หมื่นล้าน 'สมศักดิ์' แจงตัวเลขผิดพลาด เปิดค่าใช้จ่ายเฉลี่ยปีละ 2,500 ล้านบาท เผยไม่ต้องรับผิดชอบทั้งหมด บางส่วนมีงบหนุนจากองค์กรนานาชาติ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า จากรายงานภาวะสังคมไทยไตรมาสสี่และภาพรวมปี 2567 สำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) หรือสภาพัฒน์ เปิดเผยว่า ระบบสาธารณสุขของไทยถือเป็นระบบที่มีศักยภาพการรักษาและการให้บริการที่ดีกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านชายแดน ทำให้มีคนต่างด้าวเข้ามาใช้บริการการรักษาในไทยเป็นจำนวนมากถึง 3.8 ล้านครั้ง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพที่เรียกเก็บไม่ได้จากคนต่างด้าวในพื้นที่ชายแดน กลับพบว่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 มีมูลค่าถึง 9.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ถึง 8.2 เท่าตัว ซึ่งกว่าร้อยละ 81.1 ของมูลค่าดังกล่าวมาจากพื้นที่ชายแดนไทย - เมียนมา โดยเฉพาะจังหวัดตาก สถานการณ์ข้างต้น จึงสร้างความกังวลกับคนไทยในหลายด้าน
ทั้งนี้ จากการสัมภาษณ์เชิงลึกกับหน่วยบริการสาธารณสุขของจังหวัดตากที่มีอาณาเขตติดกับประเทศเมียนมา พบข้อเท็จจริง ดังนี้
-
ชายแดนประเทศเมียนมาที่ติดกับจังหวัดตากขาดแคลนสถานพยาบาล ทำให้คนต่างด้าวจำเป็นต้องข้ามแดนเข้ามารักษาพยาบาลในประเทศไทย โดยส่วนใหญ่มารักษาเมื่อมีอาการป่วยหนักและมีฐานะยากจน ทำให้ไม่สามารถชำระค่ารักษาพยาบาลได้
-
คนต่างด้าวที่ไม่มีสิทธิในการรักษาและมารับบริการสาธารณสุขในประเทศไทย บางส่วนเป็นคนที่เกิดในประเทศไทยและควรจะได้รับสิทธิกองทุน ท.99 และ
-
โรงพยาบาลชายแดนไทยต้องเป็นด่านหน้าในการรับมือและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค โดยเฉพาะโรคติดต่อร้ายแรงไม่ให้ระบาดในประเทศ ซึ่งหลายกรณี แพทย์ตามโรงพยาบาลชายแดนจำเป็นต้องไปตรวจรักษาและให้บริการในประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดของโรค
สาเหตุข้างต้นทำให้เกิดผลกระทบที่โรงพยาบาลชายแดนต้องแบกรับ ทั้งภาระในการดูแลผู้ป่วยเพิ่มขึ้น บุคลากรทางการแพทย์ที่ไม่เพียงพอ รวมถึงภาระทางการเงินของโรงพยาบาลชายแดนเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินงานของโรงพยาบาลชายแดนดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จำเป็นต้องพิจารณาประเด็น ดังนี้
-
การจัดสรรทรัพยากรสาธารณสุขให้สอดคล้องกับสถานการณ์จริง ทั้งทรัพยากรบุคคลและงบประมาณ โดยต้องคำนึงถึงบริบทของความแตกต่างของแต่ละพื้นที่
-
การสร้างกลไกในการยกระดับสาธารณสุขชายแดน โดยต้องเร่งรัดการดำเนินการตามเป้าประสงค์ของแผนอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งอาศัยกลไกภาคีเครือข่ายทั้งภายในและต่างประเทศให้เข้ามามีส่วนร่วมในการยกระดับสาธารณสุขทั้งฝั่งในไทยและประเทศเพื่อนบ้าน
-
การเร่งรัดการพิสูจน์สิทธิในกลุ่มบุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิให้ครบถ้วน โดยอาจใช้กลไกภาคประชาสังคมเข้ามามีส่วนช่วยในการประสานการดำเนินการ
สธ.แจงข้อมูลดิบผิดพลาด
ล่าสุด เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2568 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงถึงตัวเลขค่ารักษาพยาบาลแรงงานต่างด้าว 9.2 หมื่นล้านบาท ว่าเป็นข้อมูลที่ "Non-sense" และเกิดจากความผิดพลาดของข้อมูลดิบที่ไม่ได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียด ปัญหาหลักมาจากข้อมูลที่ "ไม่ได้ cleaning" หรือการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลอย่างละเอียด เช่น ความผิดพลาดในการใช้เครื่องหมายคอมม่าและจุดทศนิยม รวมถึงข้อมูลที่ซ้ำซ้อน
อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขจะปรับปรุงกระบวนการขอและให้ข้อมูล โดยให้หน่วยงานต่างๆ ทำการขอข้อมูลอย่างเป็นทางการ เพื่อให้มีการตอบกลับอย่างเป็นทางการและถูกต้อง
โดยค่าใช้จ่ายที่กระทรวงสาธารณสุขเรียกเก็บจากประชากรต่างด้าวไม่ได้ย้อนหลัง 5 ปี เฉลี่ยปีละประมาณ 2,500 ล้านบาทต่อปี ใน 31 จังหวัด ตัวเลขนี้ไม่ใช่ค่าใช้จ่ายที่กระทรวงสาธารณสุขต้องรับผิดชอบทั้งหมด เนื่องจากมีองค์กรนานาชาติและเอ็นจีโอให้การสนับสนุนบางส่วน

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา