บอร์ดรฟท. อนุมัติจัดหาตู้รถไฟใหม่ 182 คัน วงเงิน 10,502 ล้าน รวม 14 ขบวน วางกรอบเสนอ ‘คมนาคม’ ภายในเดือน ธ.ค.นี้ คาดครม.เคาะ มี.ค. 68 ชี้เหตุผลจะเอามาทดแทนขบวนรถเดิมทั้งหมด ยันรวมรถไฟชั้น 3 ด้วยก่อนระบุจะไม่มีรถพัดลมแล้ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 19 ธันวาคม 2567 นายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มีมติอนุมัติให้ฝ่ายการช่างกลดำเนินการจัดหารถโดยสารทดแทนรถด่วนพิเศษและรถด่วน 182 คัน พร้อมอะไหล่ วงเงินงบประมาณรวม 10,502,100,000 บาท (หนึ่งหมื่นห้าร้อยสองล้านหนึ่งแสนบาท) โดยใช้เงินกู้ จะมีจำนวนรถให้บริการ 12 ขบวน ขบวนสำรองอีก 2 ขบวน ขบวนละ 12 คัน (11 ตู้โดยสารและ 1 ตู้จ่ายไฟฟ้า)
ขั้นตอนหลังจากนี้ จะเสนอประเด็นนี้ไปที่กระทรวงคมนาคมภายในเดือน ธ.ค.นี้ จากนั้นกระทรวงจะพิจารณาเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบตามลำดับในช่วงเดือน มี.ค. 2568
นายอนันต์กล่าวต่อว่า สำหรับขบวนรถที่อนุมัตินั้น จะนำมาใช้ทดแทนรถรุ่นเก่าอายุ 50 ปี ซึ่งปัจจุบันให้บริการอยู่ขบวนรถไฟทางไกล ซึ่งมีชั้นให้บริการชั้น 1 ปรับอากาศ ชั้น 2 ปรับอากาศ และชั้น 3 พัดลม โดยรถขบวนใหม่จะเป็นรถปรับอากาศทั้งหมดให้บริการชั้น 1-3 รูปแบบคล้ายขบวนรถ 115 คันที่ใช้งานมา 6 ปี ซึ่งมีการตอบรับที่ดีมาก ถือเป็นการจัดหาเพื่อรองรับความต้องการที่มีจำนวนมาก แต่ รฟท. มีขบวนรถให้บริการไม่เพียงพอ
ทั้งนี้ เบื้องต้น รถโดยสารใหม่ 1 ขบวน จำนวน 12 คัน มีทั้งหมด 444 ที่นั่ง ประกอบด้วย ชั้น 1 ปรับอากาศ จำนวน 3 คัน รวม 72 ที่นั่ง, ชั้น 2 ปรับอากาศ จำนวน 6 คัน รวม 236 ที่นั่ง และชั้น 3 ปรับอากาศ จำนวน 2 คัน รวม 36 ที่นั่ง สำหรับทั้ง 12 ขบวนวางเป้าหมายจะให้บริการใน 6 เส้นทาง ดังนี้
1.เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่-กรุงเทพฯ ขบวนที่ 13-14 จำนวน 2 ชุด รวม 26 คัน
2.เส้นทางกรุงเทพฯ - เชียงใหม่ - กรุงเทพฯ ขบวนที่ 51-52 จำนวน 2 ชุด รวม 26 คัน
3.เส้นทางกรุงเทพฯ - อุบลราชธานี - กรุงเทพฯ ขบวนที่ 67-68 จำนวน 2 ชุด 26 คัน
4.เส้นทางกรุงเทพฯ - สุไหงโกลก - กรุงเทพฯ ขบวนที่ 37-38 จำนวน 2 ชุด 26 คัน
5.เส้นทางกรุงเทพฯ - กันตัง - กรุงเทพฯ ขบวนที่ 83-84 จำนวน 2 ชุด 26 คัน
6.เส้นทางกรุงเทพฯ - นครศรีธรรมราช - กรุงเทพฯ ขบวนที่ 85-86 จำนวน 2 ชุด 26 คัน
นายอนันต์ กล่าวต่อว่า สำหรับไทม์ไลน์การรับมอบขบวนรถทั้งหมด คาดว่าจะเปิดประมูล ก.พ. 2569 จะสามารถรับมอบขบวนรถ 2 ชุดแรกในเดือน พ.ค. 2571 อีก 4 ชุดในเดือน ก.ย. 2571 อีก 4 ชุดในเดือน ม.ค. 2572 และล็อตสุดท้ายในเดือน พ.ค. 2572 อีก 4 ชุด
สำหรับขบวนรถที่จัดหาใหม่ทั้งหมด จะมีเทคโนโลยี Infotainment เพื่อความบันเทิงในรถโดยสาร ง่ายต่อการใช้งาน สามารถเลือกชมรายการโทรทัศน์ และภาพยนตร์ได้ ส่วนการผ่านเข้าออกระหว่างตู้โดยสารจะทำให้รองรับการใช้งานรถเข็นของผู้พิการ เนื่องจากเป็นรถประเภทชุดใช้ระบบการเชื่อมต่อที่มีหน้าชานเสมอระดับเดียวกัน มีพื้นที่รองรับผู้พิการที่ต้องใช้รถเข็นและพื้นที่สำหรับผู้ดูแล มีระบบประชาสัมพันธ์บนขบวนรถและจอภาพแสดงสถานะของขบวนรถโดยสาร มีระบบรักษาความปลอดภัย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพภายในห้องโดยสาร และมีพื้นที่บริการจำหน่ายอาหารบนขบวนรถโดยสาร
โดยขบวนรถสามารถเพิ่มพิกัดความเร็วสูงสุดจากเดิม 90 กม./ชม. เป็น 120 กม./ชม. ทำให้สามารถกำหนดตารางการเดินรถให้เดินทางสู่จุดหมายปลายทางได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการความรวดเร็วในการเดินทาง ห้องสุขาระบบปิดที่มีความทันสมัย ถูกสุขลักษณะ รวมถึงพื้นที่ใช้งานรองรับสำหรับผู้พิการ เด็กเล็ก และผู้สูงอายุ ให้ใช้งานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
และมีระบบบันได ประตูปิด - เปิด อัตโนมัติ สร้างความปลอดภัยในการขึ้นลงขบวนรถ และสามารถรองรับการให้บริการทั้งสถานีชานชาลาต่ำและชานชาลาสูง มีลิฟต์ให้บริการสำหรับผู้พิการในกรณีที่ชานชาลาสถานีต่ำได้อีกด้วย