ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ลงมติ 326 เสียง ไม่เห็นชอบ ร่างพ.ร.บ.ประชามติ ฉบับคณะกรรมาธิการร่วมกันของ สส.-สว. ที่ให้ใช้เสียงผู้มาใช้สิทธิเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ และมีจำนวนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิจึงถือเป็นข้อยุติในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือ ‘ประชามติเสียงข้างมากสองชั้น’ - ยืนยันตามร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ของ สส. กำหนดให้ได้ข้อยุติโดยใช้เสียงข้างมากของผู้มาออกเสียง หรือ ‘ประชามติเสียงข้างมากชั้นเดียว’ ส่งผลให้ต้องแขวนไว้ 180 วัน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 18 ธันวาคม 2567 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร (สส.) มีไม่เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ฉบับที่คณะกรรมาธิการร่วมกันของ สส.และวุฒิสภา (สว.) พิจารณาและได้เแก้ไขเพิ่มเติมร่างของสภาผู้แทนราษฎรในมาตรา 7 (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 13) การออกเสียงที่จะถือว่ามีข้อยุติในเรื่องที่จัดทำประชามติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ต้องมีผู้มาใช้สิทธิออกเสียงเป็นจำนวนเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิออกเสียงและมีจำนวนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิออกเสียงในเรื่องที่จัดทำประชามตินั้น หรือ ‘ประชามติเสียงข้างมากสองชั้น’ ด้วยคะแนนเสียง ไม่เห็นด้วย 326 เสียง เห็นด้วย 61 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 1 เสียง โดยมีจำนวนผู้ลงมติ 389 เสียง
ทั้งนี้ เป็นยืนยัน ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร ที่ลงมติเห็นชอบในวาระที่สาม ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 13 ที่กำหนดให้การออกเสียงที่จะถือว่ามีข้อยุติในเรื่องที่จัดทำประชามติให้ใช้เสียงข้างมากของผู้มาออกเสียง โดยคะแนนเสียงข้างมากต้องสูงกว่าคะแนนเสียงไม่แสดงความคิดเห็นในเรื่องที่จัดทำประชามติ หรือ ‘ประชาชามติเสียงข้างมากชั้นเดียว’ หลังจากที่ประชุมของวุฒิสภาลงมติแก้ไข ร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... กำหนดให้การออกเสียงประชามติในการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องมีผู้มาใช้สิทธิออกเสียงเป็นจำนวนเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิออกเสียงและมีจำนวนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิออกเสียงจึงถือว่าเป็นข้อยุติ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน สส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ในฐานะประธานในที่ประชุม กล่าวว่า เนื่องจากสภาผู้แทนราษฎรมีมติไม่เห็นชอบร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่คณะกรรมาธิการร่วมกันพิจารณาแล้ว จึงมีผลให้ต้องยับยั่งร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ไว้ก่อน ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 137 (3) ทั้งนี้ สภาผู้แทนราษฎรจะยกร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ ขึ้นพิจารณาใหม่ ได้เมื่อพ้น 180 วัน นับตั้งแต่สภาผู้แทนราษฎรไม่เห็นชอบด้วย ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 138 (2)
รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับสาระสำคัญของร่างพ.ร.บ.ประชามติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ฉบับของสภาผู้แทนราษฎรที่ผ่านความเห็นชอบในวาระสาม เป็นการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2564 ดังนี้
1.กำหนดให้วันออกเสียงเป็นวันเดียวกับวันเลือกตั้งอื่น (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 10 วรรคหนึ่ง และมาตรา 11 วรรคสาม)
2.กำหนดรูปแบบการออกเสียง (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 12)
3.กำหนดการออกเสียงที่จะถือว่ามีข้อยุติ (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 13)
4.กำหนดให้คณะกรรมการต้องจัดให้มีการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่จัดทำประชามติ (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 16 วรรคหนึ่ง)
5.กำหนดเขตออกเสียง (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 18)
6.กำหนดหน่วยออกเสียงและที่ออกเสียง (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 19)
ก่อนหน้านี้ นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย กรรมาธิการที่งดออกเสียง ในคณะกรรมาธิการร่วมฯ ลุกขึ้นชี้แจงว่า เนื่องจากจุดยืนของพรรคภูมิใจไทย คือ อยากเห็นหลักการที่แท้จริงของการทำประชามติ คือ ต้องการเสียงข้างมากของประชาชนจริง ๆ เพื่อที่จะบอกว่า เป็นสิ่งที่ประชาชนต้องการ โดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเป็นกฎหมายหลักที่จะเกี่ยวข้องกับประชาชนทั้งประเทศไทย เราจึงต้องการอยากเห็นการมีส่วนร่วมของประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิมากจนเรียกว่าเป็นฉันทามติของพี่น้องประชาชนได้
นายไชยชนก ชิดชอบ สส.จังหวัดบุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย อภิปรายว่า วันนี้พรรคภูมิใจไทยไม่งดออกเสียงแน่ ไม่ว่ามติของที่ประชุมสภาวันนี้จะเป็นอย่างไร พรรคภูมิใจไทยจะเคารพในเสียงส่วนมาก ตนในฐานะตัวแทนพรรคภูมิใจไทย ซึ่งได้มีการประชุมพรรคและมีมติเอกฉันท์ จึงขอยืนยันจุดยืนเดิม คือ พรรคภูมิใจไทยเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกับกระบวนการทำประชามติ ควรเป็นเรื่องง่ายของประชาชน แต่ไม่ควรมักง่ายในวิธีการ