กลุ่มสิทธิแรงงานเมียนมา เผย รบ.ทหาร-สถานทูตเมียนมา ไม่เหลียวแลแรงงานเมียนมาในไทย พบมีหลายเคส แรงงานถูกส่งมาทำงานตามระบบ MOU เจอปัญหาไม่มีงานทำ ถูกละเมิดสิทธิ์ ปัญหายึดเอกสาร
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวสถานการณ์แรงงานเมียนมา อ้างอิงข่าวสำนกข่าวเรดิโอฟรีเอเชียหรือ RFA สหรัฐอเมริกาว่า ทางด้านของนายโค โสพุม (Ko Sopoum) จากกลุ่มช่วยเหลือแรงงานเมียนมา (WAG) ในประเทศไทย ให้สัมภาษณ์กับ RFA ระบุถึงปัญหาว่าสภาทหารและสถานเอกอัครราชทูตเมียนมานั้นไม่ได้ดูแลแรงงานเมียนมาที่มายังประเทศไทยภายใต้ข้อตกลงบันทึกความเข้าใจ (MOU)แต่อย่างใด
นายโคกล่าวว่าตอนนี้กำลังมีปัญหาว่าแรงงานภายใต้ระบบ MOU ทวิภาคีระหว่างไทยเมียนมากำลังเผชิญกับปัญหาเพราะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่สามารถหางานได้ตามสัญญา และปัญหาด้านการจ่ายเงินค่าจ้างที่ไม่เป็นธรรม
“เมื่อมีการเชิญแรงงานมายังประเทศไทยภายใต้ระบบ MOU ผู้ที่เชื้อเชิญชาวเมียนมามายังประเทศไทย อ้างว่าจะมีงานในประเทศไทยทำ มีการอ้างว่าพวกเขาได้ติดต่อกับนายจ้างฝั่งประเทศไทยแล้ว ทว่าข้อเท็จจริงแล้วกลับไม่มีงานให้ทำที่นี่ ทางสถานทูตเมียนมาเองก็ไม่มีการยืนยันข้อเท็จจริงเรื่องนี้ว่ามีตำแหน่งงานให้ทำจริงหรือไม่ แรงงานชาวเมียนมาเมื่อเดินทางมายังประเทศไทยก็ต้องเผชิญกับความแตกต่างที่ไม่ตรงกับสัญญาที่ได้รับมา อาทิ ความแตกต่างด้านสถานที่และการทำงาน การไม่ได้รับค่าจ้าง ผมเองก็กำลังเผชิญกับปัญหากรณีการยึดเอกสาร ขณะที่สถานทูตของสภาทหารเมียนมาก็ไม่ได้มาลงพื้นที่ดูเลยว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้แรงงากำลังเจอปัญหาอย่างมาก” นายโคกล่าว
นายโคกล่าวอีกว่านับตั้งแต่เดือน พ.ค.2566 แรงงานเมียนมาที่มายังประเทศไทยผ่านช่องทางทางการต้องเจอกับการสูญเสียสิทธิ์ในหลายประการ ซึ่งตอนนี้ WAG กำลังช่วยแรงงานอย่างน้อย 20 รายต่อเดือนในการแก้ปัญหาลิดรอนสิทธิเหล่านี้
นายโคกล่าวว่าเมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา มีกรณีแรงงานเมียนมาจำนวน 19 คนที่เข้ามาทำงานภายใต้ระบบ MOU ณ ฟาร์มไก่แห่งหนึ่ง ปรากฏว่าพวกเขาถูกนายจ้างขู่ว่าจะส่งตัวกลับประเทศเมียนมา
จากกรณีนี้ ทาง RFA ได้พยายามติดต่อไปทั้งสถานทูตเมียนมาประจำกรุงเทพ กระทรวงแรงงานเมียนมา แต่ว่าไม่ได้รับการตอบสนองแต่อย่างใด
นักเคลื่อนไหวแรงงานเมียนมาได้ประกาศเตือนแรงงานเมียนมาที่ไปทำงานตามระบบ MOU ว่าให้ใช้ความระมัดระวังเพราะสถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นบ่อยครั้ง
เรียบเรียงจาก:https://www.rfa.org/burmese/news/uwsa-thailand-border-case-12062024122906.html