เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา 'พูลศักดิ์ จิตสว่าง' อดีต ผอ.ร.ร.วัดนวลนรดิศ ทุจริตจัดกิจกรรมฝึกอบรมศึกษาดูงานเท็จแฝงท่องเที่ยว ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบกลาง พิพากษาลงโทษจำคุก 3 ปี หลังรับสารภาพ พวก 2 ราย โดน 2 ปี, 8 เดือน ได้รอลงอาญาหมด - ป.ป.ช.ขอ อสส.อุทธรณ์สู้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายพูลศักดิ์ จิตสว่าง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนวัดนวลนรดิศ กรุงเทพมหานคร กับพวก คือ นางสาวสุภิญทิพย์ ตระกูลสม และนางดวงสมร วิริยะกิตติ หรือศักดิ์วรกุลชัย ทุจริตการดำเนินกิจกรรมการฝึกอบรมและศึกษาดูงาน ระหว่างวันที่ 6 - 10 พ.ค.2562 ที่จังหวัดพังงาอันเป็นเท็จ และมีลักษณะเป็นการท่องเที่ยว ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 , 157 พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ.2561 มาตรา 172 และตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 มาตรา 120 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2566
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 31 ก.ค.2567 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง คำพิพากษาดังนี้
1.นายพูลศักดิ์ จิตสว่าง จำเลยที่ 1 นางสาวสุภิญทิพย์ ตระกูลสม จำเลยที่ 2 และนางดวงสมร วิริยะกิตติ หรือศักดิ์วรกุลชัย จำเลยที่ 3 มีความผิดตามกฏหมาย
ลงโทษ นายพูลศักดิ์ จิตสว่าง จำเลยที่ 1 ตามมาตรา 151 จำคุก 6 ปี และปรับ 200,000 บาท
ลงโทษ นางสาวสุภิญทิพย์ ตระกูลสม จำเลยที่ 2 ตามมาตรา 151 จำคุก 4 ปี และปรับ 133,333 บาท
ลงโทษ นางดวงสมร วิริยะกิตติ หรือศักดิ์วรกุลชัย จำเลยที่ 3 ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐกระทำความผิด จำคุก 1 ปี 4 เดือน และปรับ 80,000 บาท
2. จำเลยทั้งสาม ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้คนละกึ่งหนึ่ง
คงลงโทษนายพูลศักดิ์ จิตสว่าง จำเลยที่ 1 จำคุก 3 ปี และปรับ 100,000 บาท
คงลงโทษ นางสาวสุภิญทิพย์ ตระกูลสม จำเลยที่ 2 จำคุก 2 ปี และปรับ 66,666 บาท
คงลงโทษ นางดวงสมร วิริยะกิตติ หรือศักดิ์วรกุลชัย จำเลยที่ 3 จำคุก 8 เดือน และปรับ 40,000 บาท
3. พิเคราะห์รายงานการสืบเสาะและพินิจจำเลยทั้งสามแล้วเห็นว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นจำนวน 492,900 บาท จำเลยที่ 1 และที่ 2 นำไปใช้เพื่อประโยชน์ในการจัดกิจรรมศึกษาดูงาน ซึ่งเหตุคดีนี้เกิดขึ้นจากการนำเงินไปบริหารโครงการที่ไม่ตรงวัตถุประสงค์โครงการ แต่มีการศึกษาดูงาน ณ โรงเรียนตะกั่วป่า "เสนานุกูล" และโรงเรียนเทศบาลบ้านย่านยาว จังหวัดพังงา รวมอยู่ด่วย
หลังเกิดเหตุจำเลยที่ 1 และ 2 ได้ร่วมกับพวกอีก 5 คน ชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นจำนวน 492,900 บาท ให้แก่โรงเรียนวัดนวลนรดิศจนครบถ้วน ซึ่งผู้เสียหายไม่ประสงค์จะเรียกร้องค่าเสียหายอีก จำเลยทั้งสามมีที่อยู่เป็นหลักแหล่งนิสัยและความประพฤติไม่ปรากฏข้อเสียหายร้ายแร้ง ทั้งจำเลยที่ 2 และ 3 ยังมีบุตรที่ต้องอุปการะเลี้ยงดู
จำเลยทั้งสามยังอยู่ในวิสัยที่จะปรับปรุงแก้ไขตนเองให้กลับตนเป็นพลเมืองที่ดีได้
เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสาม เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนดคนละ 3 ปี ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 29,30
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 22 ต.ค.2567 ได้พิจารณาแล้ว มีมติให้ขอความอนุเคราะห์อัยการสูงสุด (อสส.) อุทธรณ์คำพิพากษารอการลงโทษจำเลยที่ 1 และ 2
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐเทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท
อ่านข่าวหมวดเดียวกัน