เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา 'สัญชัย พัฒนเพ็ญ' อดีตนายก อบต.วานรนิวาส สกลนคร มีส่วนได้เสียในสัญญาซื้อขายพัสดุ ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 4 พิพากษาลงโทษจำคุก 640 ปี พวก 2 ราย โดน 384 ปี 512 เดือน , 51 ปี 68 เดือน แต่ติดจริงคนละ 50 ปี
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายสัญชัย พัฒนเพ็ญ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) วานรนิวาส อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร กับพวก มีส่วนได้เสียในสัญญาซื้อขายพัสดุของอบต.วานรนิวาส เมื่อปีงบประมาณ พ.ศ.2551 และปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 , 152 และ 157 ประกอบมาตรา 83 และ พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 ประกอบมาตรา 83 และ 86 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 พ.ค.2565
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 22 เม.ย.2567 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 มีคำพิพากษาว่า นายสัญชัย พัฒนเพ็ญ จำเลยที่ 1 , นายธวัชชัย บัวไข จำเลยที่ 2 , นางสาวสุรีย์พร โคตรธรรม จำเลยที่ 3 มีความผิดตามกฎหมายให้ลงโทษตามมาตรา 151 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด
จำคุก นายสัญชัย พัฒนเพ็ญ จำเลยที่ 1 กระทงละ 5 ปี รวม 128 กระทง เป็นจำคุกมีกำหนด 640 ปี
จำคุก นายธวัชชัย บัวไข จำเลยที่ 2 กระทงละ 3 ปี 4 เดือน รวม 128 กระทง เป็นจำคุกมีกำหนด 384 ปี 512 เดือน
จำคุก นางสาวสุรีย์พร โคตรธรรม จำเลยที่ 3 กระทงละ 3 ปี 4 เดือน รวม 17 กระทง เป็นจำคุกมีกำหนด 51 ปี 68 เดือน
แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วให้จำคุกจำเลยทั้งสามคนละ 50 ปี ตาม มาตรา 91 (3)
อย่างไรก็ดี คดีนี้ยังไม่สิ้นสุด จำเลยทั้งสาม มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 16 ต.ค.2567 ได้พิจารณาแล้ว มีมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐเทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท