เผยมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูล 'ศราวุธ พุฒตรง' อดีตนายก อบต.ตาลชุม อ.เวียงสา น่าน ร่ำรวยผิดปกติ 14.8 ล้าน เงินฝากปริศนาเพียบ ส่งสำนวน อสส. ฟ้องร้องดำเนินคดีตาม กม.ให้ยึดทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดินแล้ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า จากการตรวจสอบฐานข้อมูลคดีร่ำรวยผิดปกติ ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พบว่า ในช่วงปี 2566 คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มีมติชี้มูลความผิดคดีกล่าวหา นายศราวุธ พุฒตรง เมื่อครั้งดำรตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลตาลชุม อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน ร่ำรวยผิดปกติ รวมมูลค่า 14,895,046.93 บาท
โดยคดีนี้ สำนักงาน ป.ป.ช. ระบุพฤติการณ์ในการกระทำความผิดว่า นายศราวุธ พุฒตรง อดีตนายก อบต.ตาลชุม ร่ำรวยผิดปกติ โดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ หรือได้ทรัพย์สินมาโดยไม่มีมูลอันจะอ้างได้ตามกฎหมายสืบเนื่องมาจากการปฏิบัติตามหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ รวมมูลค่า 14,895,046.93 บาท ตามรายการดังต่อไปนี้
1. ที่ดิน ตำบลตาลชุม อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน จำนวน 1 แปลง มูลค่า 370,000 บาท
2. เงินดาวน์รถยนต์ยี่ห้อ HONDA จำนวน 1 คัน เป็นเงิน 650,000 บาท
3. เงินฝากเข้าบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาน้ำปั้ว (ตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม 2554 ถึงวันที่ 4 กันยายน 2557) นอกเหนือจากเงินเดือน ที่ได้รับจากการดำรงตำแหน่ง โดยมีรายการเงินฝากเข้าบัญชีตั้งแต่ 100,000 บาท ขึ้นไป รวมจำนวน 4,640,346 บาท
4. เงินฝากเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาห้างนราไฮเปอร์มาร์ท (ตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม 2554 จนถึงวันที่ 4 กันยายน 2557) นอกเหนือจากเงินเดือนที่ได้รับจากการดำรงตำแหน่งโดยมีรายการเงินฝากเข้าบัญชีตั้งแต่ 100,000 บาท ขึ้นไป รวมจำนวน 3,375,000 บาท
5. เงินฝากเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาเวียงสา (ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน 2556 ถึงวันที่ 4 กันยายน 2557) นอกเหนือจากเงินเดือนที่ได้รับจากการดำรงตำแหน่ง โดยมีรายการเงินฝากเข้าบัญชีตั้งแต่ 100,000 บาท ขึ้นไป รวมจำนวน 3,390,000 บาท
6. เงินจำนวน 2,469,700.93 บาท ที่นายศราวุธ เป็นผู้นำฝากเข้าบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ของ หจก.เคพี.เอ็นจิเนียริ่ง (999)
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นชอบให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสาร พยานหลักฐาน และความเห็นไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีเพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติ ตกเป็นของแผ่นดิน และให้ส่งคำวินิจฉัยพร้อมด้วยข้อเท็จจริงโดยสรุปไปยังผู้มีอำนาจสั่งให้พ้นจากตำแหน่งเพื่อสั่งให้พ้นจากตำแหน่งภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งโดยให้ถือว่ากระททำการทุจริตต่อหน้าที่
หากไม่สามารถบังคับเอาแก่ทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหาที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่าร่ำรวยผิดปกติตกเป็นของแผ่นดินได้ทั้งหมดหรือแต่บางส่วนแล้ว ให้ขอให้ศาลบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินอื่นของผู้ถูกกล่าวหาได้ภายในระยะเวลาสิบปีด้วย
อย่างไรก็ดี ยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่า ปัจจุบันศาล มีคำพิพากษาคดีร่ำรวยผิดปกติของ นายศราวุธ พุฒตรง ไปแล้วหรือไม่
ขณะที่ การชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สิ้นสุด ผู้ถูกกล่าวหาที่ถูกชี้มูลความผิดยังมีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลได้อีก