‘คณะกรรมาธิการฟอกเงินฯ’ สภาฯ มีมติ ขอ ‘ปปง.’ ตรวจสอบเส้นทางการเงินผู้ถือหุ้น ‘บ.เหลียนเซิง’ - เข้ม เข้า-ออกไซต์งานก่อสร้าง ‘คฤหาสน์หรู ริมแม่น้ำเจ้าพระยา’ หลัง ‘คกก.ธุรกรรมฯ’ ปิดป้ายยึดทรัพย์ ‘ขีดเส้น’ รายงานความคืบหน้า 30 วัน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า สืบเนื่องจากกรณีสำนักข่าวอิศรารายงานข่าว กรณีสำนักงานบ้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรมที่ ย.193/2567 ลงวันที่ 19 กันยายน 2567 เรื่องยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราวราย นายสฤษฏ์ อดุลย์พิจิตร กับพวก ซึ่งเป็นกรณีมีพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา
อันเนื่องมาจากคดีฉ้อโกงชักชวนร่วมลงทุนเทรดเงินเหรียญดิจิทัลอ้างว่าจะได้รับผลตอบแทนกำไรคืนเป็นเงินสกุสดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของนายสฤษฏ์กับพวก 15 ครั้ง ได้รับความเสียหายเป็นเงิน 3,627,966 บาท ผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน นำไปสู่คำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สิน 52 รายการ รวมราคาประเมิน 2,561,188,503.70 บาท
ในจำนวนนี้เป็นที่ดินตามโฉนดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่กรุงเทพฯ นนทบุรี สมุทรปราการ จำนวน 30 แปลง ผู้ถือกรรมสิทธิ์/ผู้ครอบครอง 20 บริษัท โดยมีที่ดินตามโฉนดที่ดินจำนวน 11 แปลง พร้อมสิ่งปลูกสร้าง ในพื้นที่ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี มูลค่า 1,450,000,000 บาท (ใกล้กระทรวงพาณิชย์) มีชื่อบริษัทเหลียนเซิงเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์/ผู้ครอบครองด้วย ตามที่สำนักข่าวอิศรารายงานไปแล้วและล่าสุดได้ลงพื้นที่จริงตามไปดูด้วย
อ่านประกอบ :
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2567 การประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 39 ที่มีนายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล สส.เลย เขต 1 พรรคเพื่อไทย (พท.) เป็นประธานกมธ.ฯ ได้มีการพิจารณาศึกษา สอบหาข้อเท็จจริง กรณีกลุ่มทุนจีนจากประเทศจีนร่วมกับคนไทยก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณถนนสนามบินน้ำ ภายหลัง ปปง. ดำเนินการปิดประกาศยึดทรัพย์สินตามคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรม โดยได้เชิญ ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้แทนสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ผู้แทนกรมที่ดิน และผู้แทนกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เข้าร่วมประชุม เพื่อให้ข้อมูลต่อกมธ.ป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร
รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า โดยที่ประชุมได้พิจารณาปัญหาดังกล่าวภายหลัง ปปง.ดำเนินการปิดประกาศยึดทรัพย์สินตามคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรม ที่ ย.193/2567 แต่ยังมีบริษัทของกลุ่มทุนจีนที่ร่วมกับคนไทย เข้าไปพัฒนาโครงการคฤหาสน์ริมแม่น้ำเจ้าพระยานที่ดินประมาณ 30 ไร่ ติดแม่น้ำเจ้าพระยา อีกทั้งได้มีการนำป้ายที่ปิดประกาศยึดทรัพย์ออก และมีการนำนักท่องเที่ยวจีนเข้าพื้นที่ ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ข้อมูล ข้อเท็จจริง และหารือร่วมกัน เพื่อให้การดำเนินการสอบหาข้อเท็จจริงเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
รายงานข่าวระบุว่า ในการนี้ที่ประชุมได้มีมติให้ ปปง.ดำเนินการเข้มงวดไม่ให้บุคคลหรือบริษัทเข้าไปดำเนินการก่อสร้างเพิ่มเติม หากมีการพัฒนาหรือดำเนินการใด ๆ ขอให้สำนักงาน ปปง. ดำเนินการทำข้อตกลงกับผู้รับเหมาหรือบริษัทก่อสร้างก่อน และ ขอให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ถือหุ้นบริษัทที่นำเงินมาลงทุนก่อสร้างโครงการดังกล่าว พร้อมทั้งขอให้แจ้งการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวเป็นหนังสือแจ้งมายังคณะกรรมาธิการ ภายใน 30 วัน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องประกอบ :