'กอ.รมน.มาเลเซีย' เผยตั้งแต่ ม.ค.-ก.ย. 67 จับขบวนการลักลอบขนเนื้อหมูเถื่อนจากไทยได้รวม 47 ตัน คิดเป็นมูลค่า 14 ล. เผยเดือน ก.ย.หนักสุด จับได้ 24.5 ตัน มูลค่าเนื้อหมู 7.6 ล. แจงสาเหตุมาจากความต้องการสูง ต้นทุนลักลอบถูกลง ทำขบวนการยอมเสี่ยงทำผิดกฎหมาย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวเกี่ยวกับขบวนการลักลอบขนซากสุกรเถื่อนว่าสำนักข่าวในประเทศมาเลเซียได้รายงานข่าวว่าสืบเนื่องจากความต้องการที่สูงและต้นทุนการลักลอบขนซากสุกรที่ลดลง โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเส้นทางการลักลอบจากประเทศไทยซึ่งไม่สามารถควบคุมได้ ส่งผลทำให้ขบวนการลักลอบต่างๆยอมรับความเสี่ยงมากขึ้นในการทำผิดกฎหมาย
นาย Datuk Mohd Yusoff Mamat รักษาการผู้อํานวยการกรมความมั่นคงภายในและความสงบเรียบร้อยของรัฐบาลกลาง (เทียบเท่า กอ.รมน.ไทย) กล่าวว่าปฏิบัติการลักลอบนําเข้าเหล่านี้มีความเคลื่อนไหวเป็นพิเศษในเวลากลางคืนเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับโดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประจําการอยู่ที่ชายแดน
ตามรายงานข่าวก่อนหน้านี้ของสำนักข่าวของมาเลเซียชื่อว่า Skuad Khas Harian Metro นาย Yusoff กล่าวว่าผู้ลักลอบเหล่านี้มักถูกตรวจพบโดยตํารวจตระเวนชายแดน โดยส่วนใหญ่การจับกุมเกิดขึ้นระหว่างการปฏิบัติการในเวลากลางคืน
"สถานการณ์นี้เกิดขึ้นเนื่องจากความต้องการเนื้อหมูสูงในหมู่ผู้บริโภคในประเทศ รวมกับต้นทุนที่ลดลงในการนําเข้าจากประเทศไทยผ่านเส้นทางที่ไม่มีการควบคุม” นาย Yusoff กล่าวและกล่าวต่อไปว่า สิ่งนี้นําไปสู่ผลกําไรจํานวนมากสําหรับกลุ่มทำการลักลอบ ทําให้พวกเขาเต็มใจที่จะเสี่ยงแม้จะถูกจับกุมโดยเจ้าหน้าที่บ่อยครั้ง
นายดาตุ๊กกล่าวเสริ่มว่าพรมแดนนั้นเปิดกว้างมีรั้วที่มีความสูงเพียงเล็กน้อยเท่านั้นและถูกคั่นด้วยแม่น้ำโกโลกความกว้าง 20-30 เมตร นี่จึงเป็นความท้าทายสำหรับเจ้าหน้าที่
“สถานการณ์นี้ให้ข้อได้เปรียบแก่ขบวนการลักลอบ ทําให้พวกเขาสามารถดําเนินกิจกรรมลักลอบนําเข้าต่อไปได้ ขณะนี้หน่วยงานต่างๆ รวมถึงกองกําลังปฏิบัติการทั่วไป (PGA) ตํารวจทางทะเล และกองกําลังปฏิบัติการทางอากาศ (PGU) กําลังบังคับใช้การควบคุมชายแดนอย่างแข็งขันผ่านการลาดตระเวน การกีดขวางถนน และการตรวจสอบสถานที่จัดเก็บริมแม่น้ําและจุดลงจอดที่ผิดกฎหมาย ตลอดจนดําเนินการลาดตระเวนทางเรืออย่างสม่ำเสมอตามแม่น้ําโกโลก และตรวจสอบด้วยโดรน” นาย Yusoff กล่าว
ข้อมูลเชิงสถิติระบุว่านับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-26 ก.ย. กองกำลัง PGA ได้บันทึกการจับกุมทั้งสิ้น 12 คดี มีการยึดซากสุกร 47 ตัน มูลค่ารวม 1.842 ล้านริงกิต (14,469,702 บาท) ควบคู่กับการจับกุมผู้ต้องหา 13 คน
อย่างไรก็ตามแค่ในเดือน ก.ย.เพียงเดือนเดียวกองกำลัง PGA สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ถึง 4 คน ยึดซากสุกรได้ 24.5 ตัน มีมูลค่ารวม 969,600 ริงกิต (7,616,624 บาท)
“แม้จะมีการยึดและจับกุมที่สําคัญเหล่านี้ แต่กิจกรรมการลักลอบนําเข้ายังคงดําเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง” นาย Yusoff กล่าว
อนึ่งก่อนหน้านี้สำนักข่าว Harian Metro ได้รายงานเกี่ยวกับการถ่ายโอนซากสุกรผ่านเรือข้ามแม่น้ำโกลอก ซึ่งการแลกเปลี่ยนเกิดขึ้นระหว่างการเปลี่ยนกะของเจ้าหน้าที่ ซึ่งนี่เป็นวิธีปฏิบัติการของขบวนการลักลอบขนซากสุกร ที่ขนซากสุกรผ่านจาก อ.ตากใบ ข้ามแม่น้ำโกลอกและเข้า อ. บูกิตบูงาในบูกิตบูงา โดยกิจกรรมการลักลอบนําเข้ามักเริ่มระหว่างเวลา 19.30 น. ถึง 22.00 น.
เรียบเรียงจาก:https://www.nst.com.my/news/nation/2024/10/1113721/high-demand-lower-costs-drive-smuggling-pork-thailand