เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'ภราดา คำดี' อดีตนายกเทศมนตรีตำบลแม่แรง อำเภอป่าซาง ลำพูน เรียกรับเงินผู้รับจ้างก่อสร้างเมรุเผาศพ 4 โครงการ ล่าสุด ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ให้ลงโทษจำคุกเหลือ 2 ปี 6 เดือน จากโดนหนัก 10 ปี 30 เดือน - ป.ป.ช.ขอ อสส.ฎีกาสู้ให้ลงโทษหลายกรรม
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายภราดา คำดี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลแม่แรง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน กับพวก คือ นายกฤติน เชื้อทอง เรียกรับเงินจากผู้รับจ้างโครงการก่อสร้างเมรุเผาศพ จำนวน 4 โครงการ ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และ 157 และ พ.ร.ป. ป.ป.ช. พ.ศ.2542 มาตรา 103 ประกอบมาตรา 122 และ พ.ร.ป. ป.ป.ช. พ.ศ.2561 มาตรา 192 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.2567 ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5
จากเดิมที่พิพากษาว่า นายภราดา คำดี จำเลยที่ 1 มีความผิดตามมาตรา 149 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามมาตรา 91
นายภราดา คำดี จำเลยที่ 1 กระทำความผิด 5 กระทง จำคุกกระทงละ 5 ปี
ให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง คงจำคุกกระทงละ 2 ปี 6 เดือน รวมจำคุก นายภราดา คำดี จำเลยที่ 1 มีกำหนด 10 ปี 30 เดือน
ยกฟ้องโจทก์ข้อหาตามคำฟ้อง ข้อ 2.1 และให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับ นายกฤติน เชื้อทอง จำเลยที่ 2
แก้เป็นว่า
นายภราดา คำดี จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 149 (เดิม) การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นความผิดกรรมเดียว ให้ลงโทษจำคุก 5 ปี
จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 ปี 6 เดือน
นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 6 ส.ค.2567 มีมติขอความอนเุคราะห์ให้อัยการสูงสุด(อสส.) ฎีกาคำพิพากษาให้ลงโทษจำเลยที่ 1 หลายกรรม
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือประหารชีวิต
อ่านประกอบ :