ศาลอาญาคดีทุจริตฯ พิพากษาลงโทษ จำคุก 5 ปี วิโรจน์ อิริยะโพธิ์งาม อดีตนายช่างอาวุโสลาดกระบัง ริบเงิน 5 หมื่น คดีเรียกสินบนแลกออกใบสร้างตึก หลังโดน เจ้าหน้าที่ ปปป.,ป.ป.ช.,ป.ป.ท. สนธิกำลังจับสดคาห้องทำงานพร้อมหลักฐาน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 20 ส.ค.2567 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อท 40/2567 เป็นคดีที่ อท 135/2567 ระหว่าง พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1 โจทก์ นายวิโรจน์ อิริยะโพธิ์งาม อายุ 59 ปี ตำแหน่งนายช่างโยธาอาวุโส สำนักงานเขตลาดกระบัง ตามความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่,เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต พร้อมของกลางเงินสด 5 หมื่นบาท จับได้ห้องทำงานฝ่ายโยธา สำนักงานเขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ
โดยศาลฯ มีคำพิพากษาลงโทษจำคุก นายวิโรจน์ อิริยะโพธิ์งาม เป็นเวลา 5 ปี พร้อมริบของกลางเงินสด 5 หมื่นบาท
คดีนี้ ศาลฯ ได้พิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า จำเลยเป็นข้าราชการกรุงเทพมหานคร ตำแหน่งนายช่างโยธา ระดับอาวุโส สำนักงานเขตลาดกระบัง เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มีอำนาจและหน้าที่ในการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการขอใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร ดัดแปลงอาคาร หรือรื้อถอนอาคาร (แบบ อ.1) ตรวจสอบความถูกต้องและครบถ้วนของเอกสาร พิจารณาตรวจแบบก่อสร้างที่มีผู้ยื่นขออนุญาตก่อสร้าง ดัดแปลง เคลื่อนย้ายอาคาร แผนผังบริเวณ แบบแปลน รายการประกอบแบบแปลน หรือรายการคำนวณ และอื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชา หาจำเป็นต้องมีอำนาจหน้าที่โดยตรงในการพิจารณาอนุญาตใบอนุญาตก่อสร้าง เมื่อผู้เสียหายแก้ไขแบบการก่อสร้างอาคารตามที่เจ้าหน้าที่ได้ให้แก้ไขถูกต้องครบถ้วนตามที่กำหนดแล้ว การประวิงการออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารให้ล่าช้าทำให้ไม่อาจก่อสร้างตามกำหนดระยะเวลา ย่อมส่งผลกระทบต่อผู้ยื่นขออนุญาตหรือทำให้เสียหายในแง่มุมต่าง ๆ หลายประการ หน้าที่ของจำเลยนำมาซึ่งดุลยพินิจต่อการเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน
ตามคลิปบันทึกการสนทนา จำเลยเรียก“ค่าใช้จ่ายเพิ่ม” เจือสมสอดคล้องกับที่พยานซึ่งเป็นผู้ติดต่อดำเนินการเรื่องราวดังกล่าวมาตั้งแต่ตอนต้น ที่จำเลยอ้างเป็นค่าใช้จ่ายในการแก้ไขแบบแปลนเพิ่มเติมแก่ผู้เสียหายนั้นไม่น่าเชื่อถือ หากจำเลยไม่พูดหรือกล่าวอ้างเพื่อให้ผู้เสียหายหาค่าใช้จ่ายเป็นเงิน 50,000 บาท ดังกล่าวแล้ว ก็ไม่มีเหตุที่ผู้เสียหายจะต้องนำเงินไปมอบให้จุดประสงค์เพื่อปั้นแต่งเรื่องขึ้นมาใส่ร้ายจำเลยเป็นการเฉพาะแต่อย่างใด
การต่อรองค่าใช้จ่ายจุดประสงค์ฟังได้ว่าเพื่อแลกกับการออกอนุญาตก่อสร้าง เจ้าพนักงานตำรวจชุดสืบสวน บก.ปปป. ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.และผู้เสียหายกระทำการเพื่อแสวงหาและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ว่าจำเลยมีความผิดหรือบริสุทธิ์ บันทึกภาพและเสียงดังกล่าวรับฟังเป็นพยานหลักฐานและเป็นประโยชน์ต่อการอำนวยความยุติธรรม มากกว่าผลเสียอันเกิดจากผลกระทบต่อมาตรฐานของระบบงานยุติธรรมทางอาญาหรือสิทธิเสรีภาพพื้นฐานของประชาชน ศาลจึงเห็นสมควรนำพยานหลักฐานข้างต้นมารับฟังได้ ผู้เสียหายถือซองสีน้ำตาลภายในบรรจุเงิน 50,000 บาท วางไว้ใต้โทรศัพท์มือถือ ส่งมอบให้แก่จำเลย จำเลยยื่นมือมารับซองสีน้ำตาล ผู้เสียหายถามว่า “จะนับเงินของกลางหรือไม่” จำเลยไม่ได้ตอบ จำเลยนำซองสีน้ำตาลวางไว้บนโต๊ะทำงานโดยสอดซ้อนไว้ใต้เอกสารที่วางบนโต๊ะทำงาน ผู้เสียหายยกมือไหว้ลาแล้วเดินออกมายังประตูทางเข้าตัวอาคาร จากนั้นเจ้าพนักงานจึงได้เข้าทำการจับกุมจำเลย เจ้าพนักงานตำรวจผู้จับกุมได้ตรวจพบซองสีน้ำตาลดังกล่าวพร้อมกับเงินสดโดยนำมาวางเรียงไว้บนโต๊ะทำงานของจำเลยต่อหน้าจำเลยและเจ้าพนักงานทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้ที่ปฏิบัติงานในสำนักงานของจำเลยอีกเป็นจำนวนมาก
โดยมีการบันทึกภาพและเสียงเคลื่อนที่เป็นคลิปวิดีโอไว้นับ 100 ไฟล์ รวมทั้งมีภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดของสำนักงานเขตลาดกระบัง ซึ่งเป็นภาพมุมสูงอยู่เหนือศีรษะโต๊ะทำงานของจำเลยบันทึกเหตุการณ์ไว้และโจทก์อ้างอิงเป็นพยานหลักฐานด้วย โดยมีภาพเหตุการณ์และรายละเอียดความเคลื่อนไหวเป็นขั้นตอนในเหตุการณ์อย่างชัดเจน พยานหลักฐานจากกล้องบันทึกภาพดังกล่าวมีที่มาเป็นอิสระต่างหากจากกันต่างก็สอดคล้องให้เห็นเป็นรายละเอียดพฤติการณ์แห่งคดีเดียวกันทั้งหมด ไม่ปรากฏว่าจะมีการตัดต่อแก้ไขภาพและเสียงให้ผิดเพี้ยนบิดเบือนไปจากความจริง
ผู้เสียหายกับจำเลยต่างไม่มีสาเหตุโกรธเคืองขัดแย้งกันในเรื่องอื่นใดมาก่อน นอกจากเรื่องการขอรับใบอนุญาตก่อสร้างซึ่งมีการแก้ไขให้ถูกต้อง ตั้งแต่เริ่มต้นยื่นครั้งใหม่จนถึงวันเกิดเหตุที่ได้รับอนุญาตเป็นเวลาประมาณ 10 เดือน ไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานจากสำนักงาน ป.ป.ท. เจ้าพนักงานสำนักงาน ป.ป.ช. หรือเจ้าพนักงานตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าพนักงานตำรวจสอบสวน มีสาเหตุโกรธเคืองอันจะกลั่นแกล้งหรือแสวงหาพยานหลักฐานโดยมิชอบเพื่อใส่ร้ายให้จำเลยต้องรับผิดแต่อย่างใด ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนและชุดจับกุมทำการบันทึกคลิบวีดีโอภาพและเสียง ช่วงระยะเวลาที่มีการกุมไว้โดยละเอียดไว้ในอุปกรณ์เก็บข้อมูลขนาดเล็กพกพา (Flash Drive) นับ 100 ไฟล์ เป็นพยานหลักฐานด้วย การปฏิบัติงานของเจ้าพนักงานตำรวจดังกล่าวเป็นไปตามลำดับขั้นตอนตรวจค้น และจัดเก็บพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องในโต๊ะที่ทำงาน ตู้เอกสารหรืออื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง จนถึงการนำตัวจำเลยเดินทางออกจากที่เกิดเหตุนำตัวจำเลยไปส่งมอบตัวต่อพนักงานสอบสวนที่กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ กองบัญชาการสอบสวนกลาง เจ้าพนักงานตำรวจและเจ้าหน้าที่อื่นได้ปฏิบัติไปตามระเบียบขั้นตอนของกฎหมายโดยสุจริต ไม่มีเหตุที่จะใส่ร้ายบิดเบือนพยานหลักฐานให้เป็นอย่างอื่น พยานหลักฐานของจำเลยไม่อาจหักล้างพยานหลักฐานของโจทก์ได้ รับฟังได้อย่างมั่นคงว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามฟ้องโจทก์
พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 173 การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานเป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ ยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยไม่ชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 ซึ่งเป็นบทหนัก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุกกระทง 5 ปี ริบของกลาง
อย่างไรก็ดี คดียังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
- จับสด! นายช่างอาวุโสลาดกระบัง เรียกสินบนครึ่งแสนแลกออกใบสร้างตึก-เจ้าตัวรับทำครั้งแรก
- คลิปวิดีโอ: ปปป. ป.ป.ช. ป.ป.ท. บุกรวบ นายช่างโยธาฯ เขตลาดกระบัง คาห้องทำงาน เรียกสินบนครึ่งแสน
- ตร.เชื่อก่อเหตุหลายครั้ง! กทม.สั่งพักราชการนายช่างอาวุโสลาดกระบัง เรียกเงินแลกใบอนุญาต