กทม. แถลงหลัง 3 หน่วยงานบุกรวบ นายช่างอาวุโสเขตลาดกระบังเรียกรับผลประโยชน์ เผย ปลัด กทม. สั่งพักราชการในวันนี้ (6 ก.ย.66) เผยรู้มา 1 สัปดาห์แล้ว ด้าน ตร.เชื่อ ตร.เชื่อก่อเหตุมาหลายครั้ง หลังพบหลักฐานต้องสงสัย ซองมีตัวเลขหลักหมื่น-แสน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 6 กันยายน 2566 จากกรณีเจ้าหน้าที่จากกองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.), คณะกรรมการป้องและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.)
จับกุมนายวิโรจน์ อิริยะโพธิ์งาม อายุ 59 ปี ตำแหน่งนายช่างโยธาอาวุโส สำนักงานเขตลาดกระบัง ตามความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่,เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต พร้อมของกลางเงินสด 5 หมื่นบาท จับได้ห้องทำงานฝ่ายโยธา สำนักงานเขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ
- จับสด! นายช่างอาวุโสลาดกระบัง เรียกสินบนครึ่งแสนแลกออกใบสร้างตึก-เจ้าตัวรับทำครั้งแรก
- คลิปวิดีโอ: ปปป. ป.ป.ช. ป.ป.ท. บุกรวบ นายช่างโยธาฯ เขตลาดกระบัง คาห้องทำงาน เรียกสินบนครึ่งแสน |สำนักข่าวอิศรา
@สั่งพักราชการวันนี้ (6 ก.ย.66)
ล่าสุด ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง นายเฉลิมพล โชตินุชิต รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) และ พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาของผู้ว่าฯกทม.แถลงขั้นตอนการดำเนินการในส่วนของ กทม.ว่า เบื้องต้น นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกทม. ได้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง คำสั่งกรุงเทพมหานคร ที่ 2748/2566 ลงวันที่ 5 ก.ย. 66 และมีคำสั่งให้ช่วยราชการ คือ คำสั่งกรุงเทพมหานคร ที่ 2749/2566 ให้ข้าราชการรายดังกล่าวไปช่วยราชการที่กองแผนงานและประสานสาธารณูปโภค สำนักการโยธา (สนย.) ซึ่งเป็นกองที่ไม่ต้องติดต่อใกล้ชิดกับประชาชน โดยให้ไปช่วยราชการในทันที
ส่วนในวันนี้ (6 ก.ย.66) ปลัด กทม.จะลงนามในคำสั่งพักราชการข้าราชการรายดังกล่าว ตามกฎ ก.ก. ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัย พ.ศ. 2565 ข้อ 85 ซึ่งการพักราชการนี้จะมีกำหนดไม่เกิน 120 วัน หากจะต่ออีก จะได้ไม่เกินอีก 60 วันต่อครั้ง
@อยู่นาน สร้างอิทธิพล
นายเฉลิมพล กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่ทำงานอยู่ที่ใดที่หนึ่งเป็นเวลานาน หรือการทำงานย้ายงานแล้วกลับมาที่เดิม อาจเป็นการสร้างอิทธิพลทำให้เกิดปัญหาได้ สังเกตได้จากรายดังกล่าว ตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปัจจุบันมีการหมุนเวียนหรือโยกย้ายการทำงานแล้วกลับมาที่เดิม โดยปี 2549 อยู่ที่สำนักงานเขตลาดกระบัง ปี 2560 สำนักงานเขตห้วยขวาง ปี 2561 สำนักงานเขตลาดกระบัง ปี 2564 สำนักเขตวังทองหลาง และกลับมาสำนักเขตลาดกระบังอีกครั้งหนึ่ง
กรณีนี้ทางผู้บริหารอาจจะต้องพิจารณาเรื่องของการโยกย้ายสถานที่ทำงาน รวมถึงระบบการยื่นขออนุญาตต่าง ๆ ด้วย โดยมีคณะการพิจารณาการโยกย้ายตำแหน่งจากฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหลังจากนี้ในด้านการสอบวินัยร้ายแรง คณะกรรมการสอบสวนจะดำเนินการเพื่อหาผู้กระทำผิดที่อาจเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว ในส่วนของเรื่องการทุจริตเป็นเรื่องทางคดีอาญา จะให้พนักงานสอบสวนดำเนินการขยายผลต่อไป
เฉลิมพล โชตินุชิต รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.)
@ที่ปรึกษาชัชชาติบอก รู้มา 1 สัปดาห์แล้ว
ด้านพล.ต.อ.อดิศร์ กล่าวว่า สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นครั้งนี้ได้มีการติดตามมาแต่สัปดาห์ที่แล้วเพียงแต่พยานหลักฐานยังไม่ชัดเจน โดยได้มีการประสานกับทางผู้การ ปปป. อยู่ตลอด เนื่องจากส่วนใหญ่แล้วประชาชนจะแจ้งเรื่องราวร้องทุกข์ไปตามช่องทางของ ป.ป.ท. สายด่วน 1206 ส่วนช่องทางของกรุงเทพมหานคร ก็มีหมายเลขในเรื่องของการรับเรื่องราวร้องทุกข์ คือ 1555 และ Traffy Fondue
“กรุงเทพมหานครจริงจังกับสิ่งการดำเนินการต่อเจ้าหน้าที่ที่เรียกรับผลประโยชน์ ไม่ปฏิบัติหน้าที่ หรือทำให้ประชาชนเดือดร้อน และขอย้ำกับเจ้าหน้าที่กทม.ว่าอย่าเรียกรับทรัพย์สินเงินทองจากประชาชน กทม.ยุคนี้เอาจริงจังจังในเรื่องของการป้องกันการทุจริต จะไม่มีการช่วยเหลือผู้กระทำผิด ส่วนในเรื่องของการเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ ได้มีการพูดคุยกันในระดับบริหารว่าจะต้องมีการรับผิดชอบเป็นลำดับชั้น เพื่อให้ผู้บังคับบัญชามีส่วนรับผิดชอบกรณีผู้ใต้บังคับบัญชากระทำความผิดด้วย” พล.ต.อ.อดิศร์กล่าว
@กังขากระบวนการอนุมัติใช้เวลานาน เอื้อใช้ดุลยพินิจ
ที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม. กล่าวต่อไปว่า ในกรณีนายช่างโยธาอาวุโสนี้ หัวหน้าฝ่ายโยธาจะต้องทราบขั้นตอนในการให้บริการประชาชน ระยะเวลาตั้งแต่เดือนพ.ย. 65 จนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลาเท่าไร ทำไมถึงใช้เวลานาน ขั้นตอนต่าง ๆ ที่ประชาชนทำแล้วไม่ครบถ้วนได้มีการแนะนำอย่างไร กระบวนการเหล่านี้ควรจะต้องมีการบันทึกเป็นเอกสารหลักฐาน เพื่อให้สามารถตรวจสอบเส้นทางการเดินเรื่องและขั้นตอนต่าง ๆ ได้ และจะได้ทราบว่ากระบวนการไปช้าที่ส่วนใดและด้วยเหตุใด หากช้าเพราะเกิดจากความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ก็ดำเนินการทางวินัย หรือหากช้าเพราะมีการเรียกรับผลประโยชน์ก็ดำเนินคดีอาญา ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ทางผู้บังคับบัญชาระดับผู้อำนวยการเขตต้องเข้ามาสอดส่องดูแล
ต่อไปอยากให้มีระบบในการตรวจสอบทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยฝ่ายปกครอง หรือ ผอ.เขต จะต้องดูได้ว่าวันนี้ออกเลขให้กับประชาชนไปเท่าไร เป็นเรื่องใบอนุญาต/ขออนุญาตอะไรบ้าง เมื่อครบกำหนดให้ระบบแจ้งเตือนเองว่าวันนี้จะต้องออกใบอนุญาตให้ใครบ้าง ผอ.เขตเซ็นหรือยัง เพื่อให้ผอ.เขตรู้หน้าที่ของตัวเองว่าจะต้องทำอะไร อย่างไร เมื่อไร หากกระบวนการล่าช้าจะต้องติดตามตรวจสอบจากฝ่ายที่รับผิดชอบโดยตรง ซึ่งหากมีระบบนี้ ช่องทางในการที่จะเรียกรับก็จะลดน้อยลง
ทั้งนี้ ขอฝากเรื่องของประมวลจริยธรรม ทั้งการครองตน การครองงาน เพื่อให้การทำงานอยู่บนระบบคุณธรรม มีหลักเกณฑ์ในการทำงานที่ชัดเจน มีความซื่อสัตย์สุจริต สะดวกรวดเร็ว รักษาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก รักษาภาพลักษณ์ของหน่วยงาน รวมถึงคิดไตร่ตรองก่อนทำด้วย
ส่วนประชาชนหากถูกเจ้าหน้าที่เรียกรับ ให้หาช่องทางในการแจ้งข้อมูล โดยสามารถแจ้งกับกทม.ได้ที่ระบบ Traffy Fondue ซึ่งเป็นระบบปิดและจะมีหน่วยงานรับเรื่องทุจริตไปดำเนินการโดยเฉพาะ อย่ากลัวที่จะให้ข้อมูลในเรื่องของชื่อและเบอร์โทรศัพท์ เนื่องจากจะต้องมีการติดต่อกลับ
และอีกช่องทางหนึ่งคือ สายด่วน 1555 โดยกรณีสายด่วนซึ่งปัจจุบันจ้าง outsource รับเรื่อง จะมีการหารือกับผู้บริหารอีกครั้งในการหาแนวทางที่จะสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่จะแจ้งเรื่องเข้ามา ปรับปรุงช่องว่างที่ทำให้เกิดความไม่สะดวกใจในการแจ้งข่าวสาร
“อย่างไรก็ตาม การปราบปรามที่ดีที่สุดคือการป้องกัน ดังนั้น เมื่อกทม.พยายามกระจายอำนาจให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกในการเข้าถึงบริการ แต่เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องมือในการกระจายอำนาจไปในทางแสวงหาประโยชน์เพื่อตนเองแล้ว เราอาจจะต้องมีเงื่อนไขหรือวิธีการอื่น ๆ เพิ่มเติมขึ้นมา เพื่อควบคุมดูแล และเพื่อลดช่องทางในการเรียกรับผลประโยชน์หรือการทุจริตของเจ้าหน้าที่ต่อไป”พล.ต.อ.อดิศร์ ย้ำ
พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาของผู้ว่าฯกทม.
@ตร.เชื่อนายช่างโยธาลาดกระบัง ก่อเหตุมาหลายครั้ง หลังพบหลักฐานต้องสงสัย
ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป.รรท.ผบก.ทล.เปิดเผยว่า คดีนี้ผู้เสียหายเหมือนกับถูกรังแก เพราะผู้ต้องหาไม่ยอมผ่านแบบอนุญาตก่อสร้าง หรือใบ อ.1 ให้ ที่ผ่านมาผู้เสียหายนำแบบที่แก้ไขแล้วกลับมาให้พิจารณาเป็นสิบรอบแต่ก็ยังไม่ผ่าน เมื่อถูกเรียกรับเงินสินบน จึงคิดว่าไม่ยุติธรรมทำให้ต้องเข้าร้องเรียนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จากการสืบสวนก็พบว่าพฤติกรรมของผู้ต้องหาที่ส่อไปในทางทุจริตจริง ก่อนจับกุมดังกล่าว เบื้องต้นจากการสอบสวนผู้ต้องหานั้นขอให้การปฏิเสธ พร้อมกับขอประกันตัวออกไปแล้ว
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า จากการจับกุมจะเห็นได้ว่าผู้เสียหายนั้นยื่นแบบก่อสร้างอาคารบนเนื้อที่แค่ไม่กี่ร้อยตารางเมตร แต่ผู้ต้องหากลับมีการเรียกรับเงินถึง 5 หมื่นบาท หากเป็นงานก่อสร้างที่มีพื้นที่มากกว่านี้ ก็สงสัยว่าจะมีตัวเลขอยู่ที่เท่าไหร่ซึ่งจากการตรวจค้นหลักฐานในห้องทำงานของผู้ต้องหา ยังพบซองตัวเลขต้องสงสัยตั้งแต่หลักหมื่นถึงแสนบาท รวมทั้งบันทึกข้อมูลมีข้อความที่ส่อไปทางทุจริตอีกหลายรายการด้วย ก็มอบหมายให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงกันต่อไปแล้ว
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว