DSI รับเป็นคดีพิเศษ หลังมีผู้ร้องปมฮั้วประมูลโครงการวิจัยฯ ของสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งในมหาสารคาม วงเงินกว่า 600 ล.
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2567 พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รักษาราชการแทนอธิบดี
กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีคำสั่งให้กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ รับกรณีกล่าวหาว่าโครงการวิจัยเชิงปฏิบัติการส่งเสริมการพัฒนายกระดับทักษะอาชีพในภาคเกษตรกรรม เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากของชุมชนของสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งในจังหวัดมหาสารคาม วงเงิน 600,587,000 บาท ไว้ทำการสอบสวนเป็นคดีพิเศษ
กรณีดังกล่าว สืบเนื่องจากได้มีบุคคลร้องเรียนกล่าวหาว่าในการดำเนินโครงการวิจัยเชิงปฏิบัติการส่งเสริมการพัฒนายกระดับทักษะอาชีพในภาคเกษตรกรรมเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากของชุมชนของสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งในจังหวัดมหาสารคาม วงเงิน 600,587,000 บาท มีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 โดยเชื่อว่ามีการกระทำที่ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการแข่งขันราคา หรือ 'ฮั้วประมูล'
พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงสั่งการให้กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ ทำการสืบสวน และมอบหมายให้ร้อยตำรวจเอก วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กำกับดูแล
ต่อมาผลการสืบสวนปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานว่า ได้มีมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2565 อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานโครงการช่วยเหลือเกษตรกรประสบปัญหาจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จำนวน 2,054,053,900 บาท
สถาบันการศึกษาดังกล่าวเป็นหนึ่งในหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรงบประมาณ โดยได้ดำเนินโครงการวิจัยเชิงปฏิบัติการส่งเสริมการพัฒนายกระดับทักษะอาชีพในภาคเกษตรกรรม เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากของชุมชน
และทำการจัดซื้อปัจจัยการผลิตในภาคเกษตรกรรมเพื่อแจกจ่ายให้กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 โดยวิธีเฉพาะเจาะจง ทางการสืบสวนพบเหตุอันควรสงสัยว่านิติบุคคลที่ยื่นเสนอราคาและเข้าเป็นคู่สัญญาซื้อขายปัจจัยการผลิตฯ ภายใต้โครงการดังกล่าวบางรายเป็นผู้มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน อันอาจเข้าข่ายเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 อันมีลักษณะการกระทำความผิดที่เป็นคดีพิเศษตามที่กำหนดไว้ในประกาศ กคพ. (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2565 เรื่อง กำหนดรายละเอียดของลักษณะของการกระทำความผิดตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (1) แห่งพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547
ดังนั้น เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงว่ามีการกระทำความผิดตามที่มีการสืบสวนพบหรือไม่ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษจึงมีคำสั่งให้รับไว้ทำการสอบสวนเป็นคดีพิเศษ
หลังจากนี้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษมีหน้าที่แสวงหาและรวบรวมพยานหลักฐานทุกชนิดเท่าที่จะกระทำได้เพื่อพิสูจน์ความผิดและความบริสุทธิ์ และพร้อมทำความจริงให้ปรากฏตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป
อ่านประกอบ: