อัยการสั่งเลื่อนฟังคำสั่งคดีตบทรัพย์อธิบดีฯข้าวไป 27 ส.ค. เหตุยังพิจารณาสำนวนไม่เสร็จ พร้อมอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว เหตุไม่มีพฤติกรรมหลบหนี ขณะ 'เจ๋ง ดอกจิก-ศรีสุวรรณ' มั่นใจความบริสุทธิ์ตัวเอง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 3 นัดฟังคำสั่งในคดีที่พนักงานสอบสวน กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.)ได้นำสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก อดีตข้าราชการเมือง ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเเละ นายศรีสุวรรณ จรรยา นักร้องเรียนชื่อดัง กับพวก รวม 5 คน ในคดีทุจริตที่นายนัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าวกล่าวหาว่ากลุ่มผู้ต้องหารวม 5 คน เกี่ยวกับกรณีเป็นเจ้าพนักงานปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และมีการเรียกรับทรัพย์สิน รวมทั้งผลประโยชน์อื่นๆ
โดยนายประยุทธ เพชรชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ได้รับทราบกจากนายรชต พนมวัน อัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปราบการทุจริต ซึ่งเป็นหัวหน้าพนักงานอัยการรับผิดชอบคดีนี้ แจ้งว่าคดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาสำนวนยังไม่แล้วเสร็จจึงให้ไปฟังคำสั่ง ในวันที่ 28 ส.ค. 2567 เวลา09.00น.
ขณะเดียวกัน นายรชตได้พิจารณาเเล้วเห็นว่ากลุ่มผู้ต้องหาไม่มีพฤติการณ์หลบหนี จึงยื่นขออนุญาต ต่อนายสุรพันธ์ กิจพ่อค้า อธิบดีอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตขอไม่ฝากขังผู้ต้องหาทั้งหมด เเละปล่อยชั่วคราวไป โดยอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต มีคำสั่งอนุญาตไม่ฝากขังให้ปล่อยตัวชั่วคราวและให้มาพบพนักงานอัยการตามกำหนด ในวันที่ 28 ส.ค. 2567
สำหรับบรรยากาศในวันนี้ นายยศวริศ เเละ นายศรีสุวรรณ จรรยา พร้อมด้วยผู้ต้องหารายอื่นๆเดินทางมาฟังคำสั่งอัยการ
นายศรีสุวรรณ เปิดเผยว่า วันนี้ตัวเองเดินทางมารายงานตัวตามนัดเบื้องต้น ยังไม่ทราบว่าโดนข้อหาอะไรบ้าง เพราะเท่าที่ติดตามจากสื่อมวลชนทราบว่าถูกแจ้ง 6 ข้อหา แต่ที่รับทราบจากพนักงานสอบสวนนั้น ขณะนี้มีเพียงแค่ 4 ข้อหา แต่ได้รับรายงานว่ามีการเลื่อนฟังคำสั่งคดี เนื่องจากพนักงานสอบสวน เพิ่งส่งสำนวนมากที่อัยการเมื่อไม่นานมานี้ ทำให้พนักงานอัยการ พิจารณาสำนวนไม่แล้วเสร็จ แต่ว่าตัวเองและภรรยาในฐานะ ผู้ต้องหาก็ต้องเดินทางมารายงานตัวตามนัด
โดยหลังจากนี้ตัวเองและภรรยาได้เตรียมที่จะยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกับอัยการ เพราะมั่นใจว่ามีพยานหลักฐานที่ยืนยันได้ว่าตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์ พร้อมยืนยันว่าที่ผ่านมาตัวเองไม่ได้มีการหารือกับกลุ่มผู้ต้องหาคนอื่น โดยเฉพาะนายศวริศที่เจอกันเพียงครั้งเดียว กระทั่งมาเจอกันในวันนี้ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน และช่วงเวลาที่ผ่านมาตัวเองยังคงเดินหน้าช่วยเหลือประชาชน เพราะยังมีชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนมาขอความช่วยเหลือ แต่ส่วนของการร้องเรียน ยอมรับว่า จะต้องมีการทบทวนบทบาทหน้าที่ อีกทั้งต้องตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมด เพราะที่ผ่านมา มีหลายเรื่องที่ตัวเองร้องเรียนไปแล้วได้รับการตรวจสอบ จนประสบความสำเร็จ ดังนั้น หลังจากที่ตัวเองถูกดำเนินคดีจึงต้องระมัดระวังตัวมากขึ้นเพราะส่วนตัวมองว่าเป็นผลมาจากการที่ตัวเองเดินสายร้องเรียน เกี่ยวกับประเด็นทางการเมือง
ด้านนายยศวริศ เปิดเผยว่า ในส่วนของตัวเองได้รับข้อมูลว่าถูกดำเนินคดี 6 ข้อหา ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ให้ทนายความส่วนตัว ไปยื่นเรื่องร้องขอความเป็นธรรมกับพนักงานอัยการแล้ว แต่หากพนักงานอัยการมีคำสั่งเลื่อนก็มองว่าเป็นผลดีกับตัวเองและพวก เนื่องจากจะทำให้พนักงานอัยการมีเวลาพิจารณาสำนวนมากขึ้น
“ยืนยัน ผมเป็นผู้บริสุทธิ์แม้จะถูกกล่าวหา แต่ก็มั่นใจในพยานหลักฐาน ที่จะนำไปใช้ต่อสู้ในชั้นศาล ส่วนประเด็นกับนายศรีสุวรรณนั้น ผมไม่มีอะไรที่จะต้องเคลียร์ใจกันเป็นการส่วนตัว”นายยศวริศกล่าว
โดยหลังจากสัมภาษณ์แล้วเสร็จทั้งคู่ได้มีการจับมือ ให้กำลังใจกันและกันก่อนจะเดินขึ้นไปพบพนักงานอัยการ และนายยศวริศยังย้ำอีกว่าอีกไม่นานนี้จะเเถลงข้อเท็จจริงที่เป็นข่าวใหญ่ขอให้ประชาชนติดตาม
สำหรับความเป็นมาคดีนี้ นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว ได้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ นายยศวริศ นายศรีสุวรรณ กับพวก มีพฤติการณ์เรียกรับเงิน เพื่อแลกกับการไม่ร้องเรียนเรื่องทุจริต จนนำไปสู่การ จับกุม ผู้ต้องหาทั้งหมด โดยนายยศวริศ กับพวก ถูกแจ้งข้อกล่าวหา ทั้งหมด คนละ6 ข้อหา ซึ่งพนักงานสอบสวน กองปราบปราม นำสำนวนพร้อมตัวผู้ต้องหา มาส่งฟ้องต่อพนักงานอัยการ เมื่อวันที่ 16 ก.ค.2567 ที่ผ่านมา
ซึ่งคดีนี้ผู้ต้องหาทุกคนได้รับการปล่อยชั่วคราวในชั้นสอบสวน วันนี้พนักงานสอบสวนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมสำนวนความเห็นมาส่งยังพนักงานอัยการ ซึ่งพอรับสำนวนไว้อัยการก็อนุญาตให้ประกันตัวต่อ เเต่การปล่อยชั่วคราวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 113 ระยะเวลาที่พนักงานสอบสวนอนุญาตให้ประกันจะต้องไม่เกิน6 เดือนนับตั้งเเต่วันถูกจับ ซึ่งกฎหมายบอกว่าถ้าเกิน 6 เดือนซึ่งจะครบวันที่ 26 ก.ค.นี้ อัยการยังไม่มีคำสั่ง หรือสั่งไม่การจะปล่อยชั่วคราวต่อไปจะต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดีอัยการสำนักงานปราบปรามการทุจริตฯ หรือไม่เช่นนั้นจะต้องนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปยื่นคำร้องฝากขังต่อศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 87 ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลพินิจอัยการว่าจะใช้วิธีใด