'อิศรา' ตามคุ้ยเพิ่มแนวปฏิบัติกรณีเจ้าหน้าที่รัฐ ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลคดีทุจริต ศาลประทับรับฟ้องต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ พบหลัง สถ.ทำหนังสือแจ้งเวียนผู้ว่าทั่วประเทศ/นอภ. จังหวัดปทุมธานี รับทราบแล้ว สั่งกำชับผู้อำเภอ/ผู้บริหารท้องถิ่นในสังกัดรับทราบ ทำตามเคร่งครัด ใครฝ่าฝืนโดนตั้งคกก.สอบสวน เสนอเรื่อง มท.พิจารณาสั่งให้พ้นตำแหน่งได้
กรณี นายชาญ พวงเพ็ชร์ ว่าที่ นายก อบจ.ปทุมธานี คนใหม่ ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดเกี่ยวกับการจัดซื้อถุงยังชีพเมื่อปี พ.ศ.2555 ปัจจุบัน ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 มีคำสั่งประทับฟ้องคดีนี้แล้วและคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอาญาฯ และอาจส่งผลทำให้ นายชาญ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ หลังเข้ารับตำแหน่งใหม่ ตามความเห็นทางกฎหมาย คณะกรรมการกฤษฏีกา ที่ตอบข้อหารือ กระทรวงมหาดไทย เรื่องการหยุดปฏิบัติหน้าที่ของผู้บริหารบริหารท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 ที่มีการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชนไปแล้ว
- 'ชาญ' ชนะเลือกตั้งนายกอบจ.ปทุม แต่อาจต้องหยุดปฎิบัติหน้าที่? เหตุศาลรับฟ้องคดีทุจริต
- เปิดมติ ป.ป.ช.ชี้มูล'ชาญ' คดีซื้อถุงยังชีพ ส่อถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่นายก อบจ.ปทุมฯ
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบข้อมูลเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 25 เม.ย.2567 จังหวัดปทุมธานี โดยนายพงศธร กาญจนะจิตรา รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปฏิบัติราชการแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ได้ทำหนังสือแจ้งเวียน แนวทางปฏิบัติของ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ.) กรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น หรือ สมาชิกสภาท้องถิ่น แล้วส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดดำเนินคดีอาญา หากศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบได้มีคำสั่งประทับรับฟ้อง ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ให้นายอำเภอ ทุกอำเภอ นายก อบจ.ปทุมธานี นายกเทศมนตรีนครรังสิต และนายกเทศมนตรีเมือง ทุกแห่ง รับทราบเป็นทางการ
โดยมีประเด็นสำคัญอยู่ที่การให้ให้บุคคลดังกล่าวมีหน้าที่ต้องรายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดหรือนายอำเภอในฐานะผู้กำกับดูแลตามกฎหมายทราบโดยด่วน ตามนัยหนังสือกรมเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ น.826/2582 ลงวันที่ 2 พฤษภาคม 2482 และให้นายอำเภอในฐานะผู้กำกับดูแลตามกฎหมาย พิจารณากำชับให้บุคคลดังกล่าวหยุดปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด บุคคลใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามหรือจงใจปกปิดข้อเท็จจริงไม่รายงานการถูกฟ้องคดีอาญา หรือไม่หยุดปฏิบัติหน้าที่ อาจเข้าข่ายเป็นการประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อย ซึ่งนายอำเภอหรือ ผู้ว่าราชการจังหวัดอาจดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน แล้วรายงานผู้ว่าราชการจังหวัดหรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยพิจารณาสั่งให้บุคคลดังกล่าวพ้นจากตำแหน่งได้ (ดูหนังสือประกอบ)
ทั้งนี้ การออกหนังสือแจ้งเวียน ของจังหวัดปทุมธานี ให้นายอำเภอ ทุกอำเภอ นายก อบจ.ปทุมธานี นายกเทศมนตรีนครรังสิต และนายกเทศมนตรีเมือง ทุกแห่ง รับทราบแนวทางปฏิบัติดังกล่าว เป็นไปตามหนังสือ สถ. เมื่อวันที่ 10 เม.ย.2567 ที่ทำแจ้งเวียน ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติกรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น หรือ สมาชิกสภาท้องถิ่น แล้วส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดดำเนินคดีอาญา หากศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบได้มีคำสั่งประทับรับฟ้อง หรือได้มีคำพิพากษาในคดีอาญาตามมติชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช. แล้วแต่คดียังไม่ถึงที่สุด ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ตามที่สำนักข่าวอิศรา นำเสนอไปแล้ว