อัยการนำตัว 'ชนินทร์ เย็นสุดใจ' คดีฉ้อโกง STARK ส่งฟ้องศาลแล้ว-คัดค้านประกันตัว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranrws.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2567 พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรณีฉ้อโกง STARK ได้มอบหมายให้นายบุญยวัฒน์ การะเวกพันธุ์ ผอ.ศูนย์สืบสวน ควบคุม การแลกเปลี่ยนเงินและการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล กองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน และเจ้าหน้าที่กองปฏิบัติการพิเศษ นำตัวนายชนินทร์ เย็นสุดใจ ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง STARK ไปยังสำนักงานอัยการคดีพิเศษ 1 เพื่อส่งตัวนายชนินทร์ ให้อัยการดำเนินการตามกฎหมาย โดยพนักงานอัยการได้นำตัวนายชนินทร์ ไปฟ้องต่อศาลอาญาในวันเดียวกันนี้แล้ว
ทั้งนี้พนักงานอัยการคดีพิเศษเจ้าของสำนวนได้นำคำให้การผู้ต้องหา และเอกสารที่เกี่ยวข้องซึ่งส่งเพิ่มเติมมายังพนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ปรึกษาคณะทำงาน เเละนายวิรุฬห์ ฉันท์ธนนันท์ อธิบดีอัยการคดีพิเศษพิจารณาเพื่อมีคำสั่งต่อไป
นอกจากนี้ในช่วงที่เจ้าหน้าที่คุมตัวผู้ต้องหามายังสำนักงานอัยการด้วยรถฟอจูนเนอร์สีดำ มีผู้เสียหายประมาณ 40-50 คนมาดักรอชูป้ายพร้อมตะโกน "เอาเงินเราคืนมา" โดยทั้งผู้สื่อข่าวเเละผู้เสียหายได้วิ่งตามรถคันดังกล่าวเพื่อดูหน้าผู้ต้องหา ทำให้รถไม่สามารถจอดนำตัวผู้ต้องหาลงได้ เนื่องจากเกรงเรื่องการรักษาความปลอดภัยจึงวนรถออกจากสำนักงานอัยการสูงสุด
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง นายวิรุฬห์ ฉันท์ธนนันท์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษเกี่ยวกับกรณีข้างต้น โดยนายวิรุฬห์ กล่าวสั้น ๆ ว่า วันนี้ได้ยื่นฟ้องผู้ต้องหาในความผิดเกี่ยวกับการเป็นกรรมการหรือผู้บริหารร่วมกันทำงบดุลหรือบัญชีอันเป็นเท็จในเรื่องผลกำไร ฉ้อโกงประชาชนชี้ชวนหลอกลวงด้วยการแสดงความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับผลกำไรต่อประชาชนและสถาบันการเงิน ทำให้ได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวง ยักยอกในฐานะเป็นผู้จัดการทรัพย์สินของผู้อื่น สมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งเป็นลักษณะความผิดเดียวกับผู้ต้องหาที่ยื่นฟ้องไปก่อนหน้านี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ท้ายคำร้อง ระบุว่า หากจำเลยขอปล่อยตัวชั่วคราว โจทก์ขอคัดค้านเนื่องจากการกระทำความผิดของจำเลยกับพวก มีพฤติการณ์กระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจโดยดำเนินการเป็นกระบวนการและก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนเป็นจำนวนมาก และทำให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง และเป็นการกระทำความผิดหลายกรรมซึ่งเป็นความผิดจำนวนมาก โดยจำเลยได้เคยหลบหนีระหว่างสอบสวนมาแล้ว และคดีมีอัตราโทษสูงเกรงว่าจำเลยจะหลบหนี ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับจำเลยภายในกำหนดอายุความตามกฎหมายแล้ว หากจำเลยให้การรับสารภาพ โจทก์ประสงค์จะสืบพยานประกอบคำรับสารภาพด้วย