ศาลอาญาพิพากษาจำคุก 'แอมมี่ เดอะ บอตทอม บลูส์' 4 ปี-'ธนพัฒน์ กาเพ็ง' 1 ปี ไม่รอลงอาญา คดีเผาพระบรมฉายาลักษณ์ หน้าเรือนจำคลองเปรม ปี 2564 ด้าน 'สส.ลูกเกด ก้าวไกล' ศาลธัญบุรีพิพากษาคดีชุมนุมเรียกร้องปล่อยตัวผู้ต้องขังทางการเมืองปี 2564 ทำผิด ม.112 จำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา-ภายหลังให้ประกันตัว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 27 พ.ค. 2567 เวลา 10.00 น. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาครั้งที่ 3 คดีหมิ่นเบื้องสูง หมายเลขดำอ.1199/2564 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ฟ้องนายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือแอมมี่ เดอะ บอตทอม บลูส์ ศิลปิน-แกนนำม็อบป่วนเมือง และนายธนพัฒน์ กาเพ็ง หรือปูน ทะลุฟ้า เป็นจำเลย 1-2 ในความผิดฐานดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 มาตรา 217 'ฐานวางเพลิงเผาทรัพย์' และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯพ.ศ.2550 มาตรา 14 (3)
ศาลพิพากษาจำคุก นายไชยอมร 4 ปี จำคุกนายธนพัฒน์ 1 ปี ไม่รอลงอาญา
โดยอัยการโจทก์ระบุฟ้องความผิดสรุปว่า เมื่อคืนวันที่ 28 ก.พ. 2564 จำเลยกับพวกได้ร่วมกันวางเพลิง โดยใช้น้ำมันก๊าดราดใส่ และจุดไฟเผาพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 10 ซึ่งประดิษฐานติดตั้งบริเวณหน้าเรือนจำกลางคลองเปรมได้รับความเสียหาย นับเป็นการแสดงอาฆาตมาดร้าย ดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ ต่อมาจําเลยได้นําภาพเข้าและเผยแพร่สู่ระบบคอมพิวเตอร์ ในบัญชีเฟซบุ๊ก ที่ใช้ชื่อว่า 'The BOTTOM BLUES' ของจําเลย ซึ่งเป็นการสื่อสารทางอินเทอร์เน็ตที่เปิดเป็นสาธารณะ ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ จึงเป็นการ นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดต่อความมั่นคงของรัฐ
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ และได้ประกันตัว
เมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา ศาลอาญาได้นัดฟังคำพิพากษาคดีนี้ครั้งที่ 2 แต่มารดา ซึ่งเป็นนายประกันแจ้งว่า นายไชยอมร ยังมีอาการป่วย ไม่สามารถมาฟังคำพิพากษาได้ ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งเลื่อนฟังคำพิพากษามาเป็นวันที่ 27 พ.ค.นี้
โดยวันนี้ (27 พ.ค. 2567) จำเลยทั้งสอง พร้อมทนายความเดินทางมาศาล
ศาลอาญาพิเคราะห์หลักฐานโจทก์จำเลยทั้งสองแล้วข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันวางเพลิงจุดไฟเผาพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 10 ที่ประดิษฐานอยู่หน้าเรือนจำคลองเปรมหลังกระทำแล้วจำเลยที่หนึ่งได้ใช้บัญชีเฟซบุ๊ก ชื่อ the bottom blues เผยแพร่ภาพไฟไหม้รูปพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 10 และเปิดเป็นสาธารณะทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าถึงได้แม้จำเลยทั้ง2จะอ้างว่าไม่ได้ทำเพื่อมุ่งร้ายต่อพระมหากษัตริย์ แต่เป็นการแสดงออกเพื่อ เรียกร้องให้ปล่อยตัวนายพริษฐ์ ชิวารักษ หรือเพนกวิน
ทั้งนี้การเรียกร้องดังกล่าวจำเลยยังสามารถแสดงออกได้อีกหลายวิธีการที่เลือกเผาพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 10 ย่อมเป็นการใช้สิทธิ์ที่มิใช่สิทธิ์ตามปกตินิยมแม้จะอ้างว่าไม่มีเจตนาต่อพระมหากษัตริย์แต่โจทก์มีรายงานการสืบสวนและคำเบิกความของพยานจำเลยทั้งสองว่าพยานจำเลยทั้งสองร่วมกับเพนกวินเป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมืองต้องการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์โดยการกระทำที่ไปจุดไฟเผาพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 10 ย่อมแสดงว่าจำเลยทั้งสอง มีเจตนาทำให้ผู้พบเห็นเข้าใจได้ว่าหากไม่ปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของจำเลยทั้งสองก็จะสามารถทำลาย สิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของสถาบันที่ประชาชนเคารพรักการกระทำดังกล่าวเป็นลักษณะการขู่เข็ญโดยการแสดงออกด้วยการกระทำว่าจะทำให้เสียหายในทางใดใดไม่ว่าจะเป็นร่างกายทรัพย์สินสิทธิเสรีภาพชื่อเสียงกิตติคุณและลดคุณค่าของพระมหากษัตริย์ การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงเป็นความผิด
พิพากษาว่าจำเลยทั้ง 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ 217 ประกอบมาตรา 83 และจำเลยที่หนึ่งมีมีความผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์มาตรา 14 (3) การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปฐานหมิ่นประมาทดูหมิ่นอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ กับฐานร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่นเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานดูหมิ่นอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์เป็นโทษที่หนักสุด จำคุกจำเลยที่ 1 กำหนด 3 ปี ขณะกระทำผิดจำเลยที่ 2 อายุ 18 ปีและไม่เกิน 20 ปี ลดมาตราส่วนโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 76 จำคุกหนึ่ง 1 ปี 6 เดือน และจำคุกจำเลยที่ 1 ฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ 3 ปี
คำรับสารภาพของจำเลยทั้งสองเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้กระทงละหนึ่งในสามคงจำคุกจำเลยที่1 ตามมาตรา 112 กำหนด 2 ปีและฐานพรบ.คอม 2 ปี รวมโทษแล้วจำเลยที่ 1 จำคุก 4 ปี จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 1 ปี ไม่รอลงอาญา
@ จำคุก 'ลูกเกด-ชลธิชา' สส.ก้าวไกล 2 ปี ไม่รอลงอาญา แต่ศาลให้ประกันตัว
นอกจากนี้ในวันเดียวกัน ที่ศาลจังหวัดธัญบุรี ศาลนัด น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือ 'ลูกเกด' สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ปทุมธานี เขต 3 พรรคก้าวไกล และนักกิจกรรมทางการเมือง ฟังคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ1971/2565 กรณีการชุมนุมที่หน้าศาลจังหวัดธัญบุรี เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2564 เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ต้องขังทางการเมือง
ศาลพิพากษาว่า น.ส.ชลธิชา มีความผิดคดีมาตรา 112 ให้จำคุก 3 ปี แต่ศาลลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือ 2 ปี โทษจำคุกไม่รอลงอาญา ต่อมานายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ใช้ตำแหน่งสส.และหลักทรัพย์ยื่นประกันตัวน.ส.ชลธิชา