เผยมติ ป.ป.ช. เสียงเอกฉันท์ตีตกคดี 'ปกรณ์ ศักดิ์ศรีชัยสกุล' อดีตนายช่างโยธา 6 สำนักบริหารโครงการ กรมชลประทาน-พวก เรียกรับเงินเอกชนเข้าเป็นคู่สัญญาจ้างงาน โอนเข้าบัญชีพี่สาว หลังพิจารณาสำนวนไต่สวนเบื้องต้นไม่ปรากฏข้อเท็จจริงพยานหลักฐานฟังได้ว่ากระทำความผิด ไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 9 เม.ย 2567 เสียงเอกฉันท์ตีตกข้อกล่าวหา นายปกรณ์ ศักดิ์ศรีชัยสกุล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายช่างโยธา 6 สำนักบริหารโครงการ กรมชลประทาน และ นางสาวจันธิรา หรือธัญจิรา พึ่งภักดิ์ กรณีร่วมกันเรียกรับเงินจากบริษัท สยาม - เทค กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทวิศวกรที่ปรึกษาและเป็นคู่สัญญากับกรมชลประทาน โดยให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาเพชรเกษม 77/2 (หนองแขม) เลขที่บัญชี XXX ชื่อบัญชี สมพร พึ่งภักดิ์ ซึ่งเป็นบัญชีของพี่สาวของผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ในระหว่างปี 2547-2559
หลังพิจารณาสำนวนไต่สวนเบื้องต้น ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่จะฟังได้ว่า กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
ผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ระบุว่า จากการไต่สวนเบื้องต้นไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า ขณะเกิดเหตุผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 และผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องกับโครงการจ้างที่ปรึกษาโครงการใดที่มีบริษัท สยาม - เทค กรุ๊ป จำกัด เป็นคู่สัญญารับจ้างเป็นที่ปรึกษาให้กับกรมชลประทาน ประกอบกับไม่ปรากฏพฤติการณ์และพยานหลักฐานว่าผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 และผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 มีการเรียกรับเงินจากบริษัท สยาม -เทค กรุ๊ป จำกัด อย่างไร
ที่ประชุมพิจารณาแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนนเสียง 5 เสียง เห็นชอบตามความเห็นของคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้นว่า จากการไต่สวนเบื้องต้น ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่จะฟังได้ว่า นายปกรณ์ ศักดิ์ศรีชัยสกุล ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 และนางสาวจันธิรา หรือธัญจิรา พึ่งภักดิ์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา
ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป