เผยมติ ป.ป.ช. เสียงเอกฉันท์ ตีตกคดี 'รัตนา รักการ' อดีตอธิการบดี มรภ.กำแพงเพชร 2 เรื่องรวด 'จัดกิจกรรมดูงานต่างประเทศ- จ่ายค่าตอบแทนรายเดือนให้ตัวเอง' มิชอบ หลังพิจารณาสำนวนไต่สวนเบื้องต้นพยานหลักฐานยังไม่เพียงพอที่จะฟังได้ว่ากระทำความผิด ไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2567 มติเอกฉันท์ตีตกข้อกล่าวหา นางรัตนา รักการ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาล้ยราชภัฏกำแพงเพชร (มรภ.กำแพงเพชร) 2 คดี คือ 1. จัดกิจกรรมดูงานต่างประเทศโดยใช้เงินงบประมาณบำรุงการศึกษา โดยมิชอบ 2. จ่ายค่าตอบแทนเป็นค่าจ้างรายเดือนสำหรับผู้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีที่เป็นบุคคลภายนอก โดยมิชอบ
หลังพิจารณาสำนวนไต่สวนเบื้องต้น พยานหลักฐานยังไม่เพียงพอที่จะฟังได้ว่ากระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
คดีแรก จัดกิจกรรมดูงานต่างประเทศโดยใช้เงินงบประมาณบำรุงการศึกษา โดยมิชอบ
พฤติการณ์ที่กล่าวหาว่ากระทำผิดโดยสรุป คือ
1. ในปี พ.ศ. 2553 ใช้งบประมาณเงินบำรุงการศึกษาเพื่อใช้จ่ายให้กับคณะกรรมการตรวจสอบ ติดตาม และประเมินผลงานของมหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร ในการไปดูงานประเทศรัสเซีย โดยเป็นการให้ประโยชน์แก่บุคคลภายนอกของมหาวิทยาลัย เพื่อหวังผลประโยชน์ตอบแทนในการประเมินผลงานของมหาวิทยาลัยและอธิการบดี และไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการใช้เงินบำรุงการศึกษา
2. ในปี พ.ศ. 2554 จัดให้มีโครงการศึกษาดูงานประเทศสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เพื่อประโยชน์ในการเข้ารับปริญญากิตติมศักดิ์ของมหาวิทยาลัยการศึกษาไทเป และนำอาจารย์และเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยเดินทางไปเพื่อท่องเที่ยวและเพื่อเข้าร่วมในงานรับปริญญากิตติมศักดิ์ ซึ่งไม่ใช่การเดินทางเพื่อนำความรู้มาพัฒนาการศึกษาของมหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร
3. ในปี พ.ศ. 2555 จัดให้มีโครงการศึกษาดูงานตามนโยบายเตรียมความพร้อมของมหาวิทยาลัยสู่ประชาคมอาเซียน และโครงการพัฒนาบุคลากรสู่ประชาคมอาเซียนและประชาคมโลก ในสาธารณรัฐฝรั่งเศส ราชอาณาจักรเบลเยี่ยม และประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งใช้งบประมาณเงินบำรุงการศึกษาของมหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร โดยไม่ปรากฏว่ามีการไปศึกษาดูงานที่อื่นนอกจากสำนักงานผู้ดูแลนักเรียนไทยในประเทศฝรั่งเศส ซึ่งไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์และระยะเวลาที่ใช้ในการศึกษาดูงาน
ผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ระบุว่า ที่ประชุมพิจารณาแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนนเสียง 5 เสียง ว่า จากการไต่สวนเบื้องต้น พยานหลักฐานยังไม่เพียงพอที่จะฟังได้ว่า นางรัตนา รักการ ผู้ถูกกล่าวหา ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
คดีสอง จ่ายค่าตอบแทนเป็นค่าจ้างรายเดือนสำหรับผู้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีที่เป็นบุคคลภายนอก โดยมิชอบ
ผู้ถูกกล่าวหา ประกอบไปด้วย 1. นางรัตนา รักการ 2. นายเกษม จันทร์แก้ว 3. นายวีระศักดิ์ ปี่บัว และ 4. นายวิสิฐ ธัญญะวัน
พฤติการณ์ที่กล่าวหาว่ากระทำผิดโดยสรุป คือ ในการประชุมสภามหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร ครั้งที่ 7/2553 เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2553 สภามหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชรมีมติเห็นชอบการอนุมัติให้จ่ายเงินค่าตอบแทนเป็นค่าจ้างรายเดือนสำหรับผู้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีที่เป็นบุคคลภายนอกให้กับนางรัตนา รักการ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 เป็นจำนวนเดือนละ 55,000 บาท โดยไม่มีกฎ ระเบียบ หรือข้อบังคับใดกำหนดให้สามารถจ่ายเงินค่าตอบแทนดังกล่าวได้
ผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ระบุว่า ที่ประชุมพิจารณาแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนนเสียง 5 เสียง เห็นชอบตามความเห็นของคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้นว่า จากการไต่สวนเบื้องต้นไม่ปรากฏข้อเท็จจริงที่จะฟังได้ว่า นางรัตนา รักการ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 นายเกษม จันทร์แก้ว ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 นายวีระศักดิ์ ปี่บัว ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 และนายวิสิฐ ธัญญะวัน ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา 