ป.ป.ช.ชี้มูลนายช่าง กรมอุทยาน จ.กระบี่ สมคบอดีตกำนันกระบี่น้อย วางเขตป่าสงวนคลาดเคลื่อน นำพื้นที่ป่าสงวนออกโฉนดขายเอกชน แลกเงินตอบแทน 5 ล้าน ขณะฝ่ายเอกชน 'เสี่ยวินัย วีระภุชงค์' โดนฟันข้อหาสนับสนุน จนท.รัฐกระทำผิดด้วย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อวันที่ 22 เม.ย. นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงข่าวกรณีที่ ป.ป.ช.ได้มีการชี้มูลนายสถาพร โกมาศ อดีตนายช่างสำรวจ 4 สำนักฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า กับพวกในคดีออกโฉนดที่ดิน จำนวน 25 แปลง ในตำบลกระบี่น้อย อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาพนมเบญจา และป่าที่ดินของรัฐ (แปลงที่ ร.9) โดยมิชอบ
ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนปรากฏว่า เมื่อปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 กรมที่ดินได้ดำเนินการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินตามโครงการเร่งรัดการออกโฉนดที่ดินทั่วประเทศ ตามนโยบายการแปลงสินทรัพย์เป็นทุนของรัฐบาล โดยเป็นการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินตามมาตรา 58 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน และแจ้งประสานงานให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มอบหมายผู้แทนไปร่วมรังวัดระวังชี้และรับรองแนวเขตที่ดินที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีอำนาจดูแลรักษาในการขีดเขตป่าในระวางแผนที่เพี่อออกโฉนดที่ดินในพื้นที่จังหวัดกระบี่และจังหวัดพังงา
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้มีคำสั่งให้นายสถาพร โกมาศ นายช่างสำรวจ 4 สำนักฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ เป็นหัวหน้าสายปฏิบัติงานที่ 5 ปฏิบัติงานรังวัดระวังชี้และลงนามรับรองแนวเขตป่าไม้ ในท้องที่จังหวัดพังงา และจังหวัดกระบี่ ตั้งแต่วันที่ 3 - 30 สิงหาคม 2548 มีอำนาจหน้าที่ขีดและรับรองแนวเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาพนมเบญจา ให้ถูกต้องตามแผนที่ท้ายกฎกระทรวง ฉบับที่ 1,038 (พ.ศ. 2527) ออกตามความในพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507
นายสถาพร โกมาศ ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของศูนย์อำนวยการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินจังหวัดกระบี่ – พังงา ดำเนินการถ่ายทอดแนวเขตป่าสงวนให้คลาดเคลื่อนไปจากแนวเขตตามแผนที่แนบท้าย กฎกระทรวงฯ เพื่อให้ที่ดินที่นายสมใจ นะบุตร อดีตกำนันตำบลกระบี่น้อย กับพวก ซึ่งเป็นกลุ่มนายหน้า รวบรวมกว้านซื้อที่ดินที่ไม่มีหลักฐานแสดงสิทธิครอบครองหรือกรรมสิทธิ์ในที่ดินในท้องที่หมู่ที่ 7 ตำบลกระบี่น้อย อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ รวมประมาณ 1,000 ไร่ ให้มีตำแหน่งอยู่นอกเขตป่าสงวนแห่งชาติและป่าไม้ถาวร
และในการดำเนินการเดินสำรวจรังวัดเพื่อออกโฉนดที่ดิน เจ้าหน้าที่ของศูนย์อำนวยการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินจังหวัดกระบี่-พังงา ตามคำสั่งกรมที่ดินประกอบด้วย นายนิคม หิรัญโรจน์ ผู้กำกับการรังวัด นางสาววรภร หรือศศิธร สมสะอาด ผู้กำกับการเดินสำรวจ นายเสรี ชนะแก้ว เจ้าหน้าที่สอบสวนสิทธิ และนายเกียรติชัย ทองแก้ว ช่างเดินสำรวจรังวัดทำแผนที่ ได้ร่วมกันทำการรังวัดปักหลักเขตและสอบสวนสิทธิในที่ดินไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงว่ามีการครอบครองและทำประโยชน์มาก่อนประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ และรับรองว่าไม่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าไม้ถาวร ที่สาธารณประโยชน์ ที่สงวนหวงห้าม หรือสาธารณสมบัติของแผ่นดิน
โดยมีกลุ่มนายหน้าเป็นผู้นำเดินสำรวจ และนายสมใจ นะบุตร อดีตกำนันตำบลกระบี่น้อย ในฐานะผู้ปกครองท้องที่เป็นผู้ลงนามรับรองแนวเขตที่ดินสาธารณประโยชน์ โดยเจตนาร่วมกันนำพื้นที่ดังกล่าวไปออกโฉนดที่ดินเพื่อขายให้แก่นายวินัย วีระภุชงค์ ผู้ก่อตั้งและเจ้าของบริษัท วีเอสที อินกรุ๊ป จำกัด ซึ่งได้ทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินกันไว้ล่วงหน้าแล้ว จนกระทั่งในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549
นางสาววรภร หรือศศิธร สมสะอาด ผู้กำกับการเดินสำรวจ และนายณรงค์ เพ็ชรวงศ์ ผู้กำกับการรังวัด ได้ร่วมกันเสนอเรื่องให้นายนิคม หิรัญโรจน์ ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินจังหวัดกระบี่ - พังงา ลงนามในโฉนดที่ดิน รวมจำนวน 25 แปลง ในพื้นที่ตำบลกระบี่น้อย อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่
อันเป็นการกระทำโดยมีเจตนาเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ที่ดินของรัฐ และมีเจตนาเพื่อให้ผู้อื่นได้ไปซึ่งที่ดินของรัฐโดยมิชอบด้วยกฎหมาย โดยนายสมใจ นะบุตร ได้รับเงินจากกลุ่มนายหน้าและผู้ซื้อที่ดิน จำนวน 5,000,000 บาท เป็นการตอบแทนในการดำเนินการดังกล่าวด้วย
ป.ป.ช.จึงมีมติชี้มูลบุคคลดังต่อไปนี้
เจ้าหน้าที่รัฐได้แก่ 1.นายสถาพร โกมาศ 2.นางสาววรภร หรือศศิธร สมสะอาด 3.นายเสรี ชนะแก้ว มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 91
และ 4.นายสมใจ นะบุตร มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 91 และมีมูลความผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 มาตรา 16 (1) (4) ประกอบมาตรา 24 พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 19 (1) (2) ประกอบมาตรา 41 และมาตรา 42 พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 14 ประกอบมาตรา 31 พระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 54 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 72 ตรี วรรคสอง ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 (1) ประกอบมาตรา 108 ทวิ วรรคสองและวรรคสาม และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง
ขณะที่นายวินัย วีระภุชงค์ บริษัท วีเอสที อินกรุ๊ป จำกัด กลุ่มนายหน้า และผู้นำการรังวัดออกโฉนดที่ดิน มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิด และมีมูลความผิดตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องแล้วแต่กรณี
อนึ่งเกี่ยวกับ นายสมใจ นะบุตร สำนักข่าวอิศรา ได้รับแจ้งข้อมูลจากคนในพื้นที่ว่า เป็นกำนันตำบลกระบี่น้อย ออกจากตำแหน่งไปหลายปีแล้ว