สื่อนอกชี้เหตุศาลเวียดนามสั่งประหารนักธุรกิจคดีฉ้อโกง 1.6 ล้านล. หวังกดดันให้คืนเงินที่ถูกยักยอก ขณะผู้เชี่ยวชาญชี้เงินถูกยักยอกอาจมากกว่าที่ปรากฎในข่าว หวั่นคดีฉ้อโกงทำนักลงทุนไม่กล้ามาเวียดนาม
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวกรณีศาลในนครโฮจิมินห์ซิตี้สั่งตัดสินประหารชีวิตนาง Truong My Lan วัย 67 ปี นักธุรกิจและนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชาวเวียดนาม ฐานฉ้อโกงเงินจากธนาคารที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศเป็นเวลายาวนานถึง 11 ปี ในข้อหาฉ้อโกงเงินกู้มูลค่ารวม 44,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (1.6 ล้านล้านบาท) จากธนาคารพาณิชย์ไซ่ง่อน (Saigon Commercial Bank)
โดยสำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษได้รายงานกรณีการประหารชีวิตนี้ว่าเป็นลักษณะการลงโทษที่ค่อนข้างผิดปกติและรุนแรงในกรณีนี้ ซึ่งเชื่อกันว่าโทษประหารชีวิตมีขึ้นเพื่อต้องการที่จะกดดันนาง Truong My Lan เพื่อให้เธอคืนเงินที่มีการยักยอกไป
บีบีซีรายงานต่อไปว่าการพิจารณาคดีนี้ถือว่ามีความน่าสนใจเพราะว่าเป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์การต่อต้านทุจริตที่ชื่อว่า Furnace ซึ่งเริ่มมีการดำเนินการตั้งแต่ปี 2556 โดยนายเหงียน ฟู้ จ่อง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามคนปัจจุบัน
อนึ่งในคดีนี้นาง Truong My Lan ยังมีอีก 85 คนถูกพิจารณาคดี ซึ่งทั้งหมดปฏิเสธข้อกล่าวหาและสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ โดยในบรรดาจำเลยทั้งหมดนั้น 4 คนถูกตัดสินโทษจำคุกตลอดชีวิต ส่วนที่เหลือได้รับโทษจำคุกตั้งแต่ 20 ปี ถึง 30 ปีรอลงอาญา ขณะที่สามีและหลานสาวของเธอถูกตัดสินจำคุก 9 และ 17 ปี ตามลำดับ ขณะที่ตัวนาง Truong My Lan ยังคงปฏิเสธข้อกล่าวหาและอ้างว่าเป็นความผิดของพนักงานบริษัทของเธอ
สำหรับพฤติการณ์ในการกระทำความผิดของนาง Truong My Lan นั้นสำนักข่าวอิศราได้เคยรายงานไปแล้วในรายงานส่องคดีทุจริตโลก เมื่อเดือน พ.ย.2566 ระบุว่านาง Truong My Lan ประธานของกลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์ Van Thinh Phat Group หรือว่ากลุ่มบริษัท VTP ได้มีการยักยอกเงินไปกว่า 1.25 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (4.415 แสนล้านบาท) โดยใช้กลไกที่เรียกกันว่าบริษัทผับหลายสิบแห่ง และใช้ธนาคารไซง่อนร่วมหุ้นเพื่อการพาณิชย์ (Saigon Joint Stock Commercial Bank) หรือตัวย่อว่าธนาคาร SCB ประกอบกัน
โดยคดีดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในคดีทุจริตที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนามและมูลค่าของกองทุนที่ยักยอกนั้นมีมูลค่าประมาณ 6% ของ GDP ของเวียดนาม (อ่านประกอบ:ส่องคดีทุจริตโลก:จนท.สอบสวนธนาคารเวียดนามรับสินบน เอื้อ ปย.นักธุรกิจอสังหาฯยักยอกแสนล้าน)
อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าจำนวนเงินที่ถูกยักยอกไปจริงๆอาจจะมีมากกว่าที่รายงานในข่าวมาก
นักวิเคราะห์ได้มีการกล่าวถึงการดำเนินคดีนี้ด้วยว่าขนาดของการฉ้อโกงทําให้เกิดคําถามว่าธนาคารหรือธุรกิจอื่น ๆในเวียดนาม ได้ทําผิดพลาดในลักษณะเดียวกันหรือไม่ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะทําให้แนวโน้มทางเศรษฐกิจของเวียดนามอ่อนแอลงและทําให้นักลงทุนต่างชาติวิตกกังวลในเรื่องของการลงทุนในเวียดนาม