คืบหน้าคดี 3 จนท.ป.ป.ช.โดนกล่าวโทษช่วยบิ๊กตร.ตกแต่งบัญชีทรัพย์สิน ล่าสุด ปปป. พบผู้เกี่ยวข้องเพิ่มอีก 3 'นายตำรวจยศสูง-ลูกน้องคนสนิท-เซียนพระ' ร่วมด้วย ยอดรวมเป็น 6 เผยหลักฐานสำคัญคำให้การอดีตผู้ว่าฯ มัดปมขอเช่าพระเครื่อง 10 องค์
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าการสอบสวนกรณีเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ความช่วยเหลือ นายตำรวจยศสูงรายหนึ่ง ในการจัดทำเอกสารยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ต่อ ป.ป.ช. ซึ่งปัจจบันอยู่ระหว่างการสอบสวนของสำนักงาน ป.ป.ช.
ล่าสุด แหล่งข่าวจากกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เปิดเผยว่า ภายหลังตำรวจ บก.ปปป. ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ พบพยานหลักฐานที่เชื่อได้ว่ากลุ่มเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ทั้ง 3 รายดังกล่าว มีการกระทำผิดจริง และนอกจากเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. 3 รายแรกแล้ว ยังมีผู้เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดดังกล่าวเพิ่มเติมอีกจำนวน 3 ราย ประกอบด้วย นายตำรวจยศสูง นายตำรวจลูกน้องคนสนิท และเซียนพระ ในฐานความผิดเป็นผู้ใช้หรือตัวการร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. กรณีดำเนินการหรือสร้างพยานหลักฐานเท็จเกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประกอบการชี้แจงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน
" ในวันนี้ทางพนักงานสอบสวน บก.ปปป. จึงรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดส่งให้กับทาง ป.ป.ช. พิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดรวม 6 ราย ตามขั้นตอนกฎหมายต่อไปแล้ว" แหล่งข่าวระบุ
แหล่งข่าวกล่าวว่า พยานหลักฐานสำคัญที่ทำให้เชื่อว่า มีการสร้างหลักฐานสำแดงทรัพย์สินเท็จ จนนำมาสู่การตรวจสอบนั้น คือคำให้การของพยานคนสำคัญรายหนึ่ง เป็นอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดแห่งหนึ่งในภาคตะวันออก
"พยานคนดังกล่าวให้การว่า รู้จักกับเซียนพระรายนี้ เนื่องจากเคยเช่าพระกันในอดีต แต่ไม่ถึงกับสนิทสนมกัน กระทั่ง 2-3 เดือนที่ผ่านมา เซียนพระรายนี้ ได้ติดต่อมาหาพร้อมนัดพบที่ร้านอาหารข้างห้างสรรพสินค้าพาต้าปิ่นเกล้า อ้างว่า นายตำรวจยศสูง อยากรู้จักและอยากเลี้ยงอาหาร เพราะต้องการขอเช่าพระ แต่ได้ตอบปฏิเสธไป เพราะต้องการเก็บไว้บูชาเอง จึงไม่ได้มีการพบเจอ หรือเคยติดต่อเช่าพระกับ นายตำรวจยศสูง แต่อย่างใด อีกทั้งพระจำนวน 10 องค์ ที่มีการกล่าวอ้างว่าเช่ามาจากพยานคนดังกล่าวนั้น ทางพยานยืนยันว่าไม่เป็นความจริง พร้อมยืนยันว่าไม่เคยครอบครองพระเครื่อง 10 องค์ดังกล่าวแต่อย่างใด" แหล่งข่าวระบุ
แหล่งข่าวยังระบุด้วยว่า จากแนวทางสืบสวนเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีดังกล่าว ยังพบหลักฐานสำคัญอีกอย่างเป็นความเชื่อมโยงระหว่าง เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. รายหนึ่ง กับ นายตำรวจลูกน้องคนสนิท หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหา หลังพบว่าเคยให้ความช่วยเหลืออำนวยความสะดวกกันในการประสานเข้าใช้บริการโรงพยาบาลตำรวจ รวมถึงพบข้อมูลการประสานนัดหมายเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. คนดังกล่าว ไปให้ถ้อยคำต่อพนักงานไต่สวน สำนักงาน ป.ป.ช. กรณี ที่มีการตรวจสอบเรื่องเกี่ยวกับ นายตำรวจยศสูง อีกหลายกรณี
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา รายงานว่าไปแล้วว่า อนุกรรมการกลั่นกรองเรื่องกล่าวหาประจำสำนักไต่สวนการทุจริตภาครัฐวิสาหกิจ ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก และถูกระบุชื่อเป็น 1 ใน 3 เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช.ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อกล่าวหาให้ความช่วยเหลือ นายตำรวจยศสูงรายนี้ ในการจัดทำเอกสารยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ได้ทำหนังสือถึง นายเอกวิทย์ วัชชวัลคุ กรรมการ ป.ป.ช. แจ้งขอลาออกจากการเป็นอนุกรรมการหรือผู้ทรงคุณวุฒิทุกคณะของสำนักงาน ป.ป.ช. ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2567 เป็นต้นไป แต่ไม่ได้ระบุเหตุผลในการลาออกไว้ ซึ่งมีการนำเสนอเรื่องเข้าสู่การพิจารณาที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไปแล้ว เมื่อวันที่ 25 มี.ค.2567 ที่ผ่านมา
อ่านประกอบ :