แบบรายงานเหตุที่น่าสนใจ ผบ.ตร. 2 ฉบับว่อน บก.ปปป.! ป.ป.ช.งานเข้า จนท. 3 ราย โดนกล่าวโทษช่วยเหลือ 'บิ๊กตร.' ตกแต่งพยานหลักฐานจัดทำเอกสารยื่นบัญชีทรัพย์สิน หลังพบบทสนทนาไลน์มัด ผ่านข้อมูลเซลเลไบร์ทโทรศัพท์มือถือ
แหล่งข่าวจากกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ว่า เมื่อวันที่ 8 มี.ค.2567 มีผู้นำแบบรายงานเหตุอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ เหตุที่น่าสนใจและเหตุที่ต้องรายงานด่วน ต่อ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กรณีเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จำนวน 3 ราย ถูกตั้งข้อกล่าวหาตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 และตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต มาเผยแพร่ใน ปปป.
โดย เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ทั้ง 3 ราย เป็นอนุกรรมการกลั่นกรองเรื่องกล่าวหาประจำสำนักไต่สวนการทุจริตภาครัฐวิสาหกิจ 1 ราย เป็นพนักงานสำนักไต่สวนการทุจริตภาครัฐ 1 ราย และเป็นเจ้าหน้าที่ ในสำนักตรวจสอบทรัพย์สินภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ 1 ราย ถูกกล่าวหาว่ามีพฤติการณ์ที่น่าเชื่อว่าให้ความช่วยเหลือในการตกแต่งพยานหลักฐานประกอบคำชี้แจงแก่นายตำรวจยศสูงรายหนึ่ง ในการจัดทำเอกสารยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวเป็นผลมาจากการสืบสวนตรวจสอบข้อมูลเซลเลไบร์ทโทรศัพท์มือถือของนายตำรวจ ยศ พ.ต.ท. รายหนึ่ง ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดนายตำรวจยศสูง รายนี้ พบข้อมูลการสนทนากับเจ้าหน้าที่ในสำนักงาน ป.ป.ช. มีการพูดคุยเกี่ยวกับการจัดทำเอกสารยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ของ นายตำรวจยศสูง รายนี้
นายตำรวจที่รับผิดชอบคดีนี้ จึงได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้มาร้องทุกข์กล่าวโทษ กับ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ทั้ง 3 ราย ก่อนที่จะมีการจัดทำแบบรายงานเหตุอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ เหตุที่น่าสนใจและเหตุที่ต้องรายงานด่วน ต่อ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ดังกล่าว
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า นอกจากแบบรายงานเหตุอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ เหตุที่น่าสนใจและเหตุที่ต้องรายงานด่วน กรณีการตั้งข้อกล่าวหาเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ทั้ง 3 รายแล้ว ยังมีแบบรายงานเหตุอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ เหตุที่น่าสนใจและเหตุที่ต้องรายงานด่วน อีก 1 ฉบับที่ถูกเผยแพร่ด้วย เป็นกรณีกล่าวโทษ นายตำรวจยศสูงรายเดียวกัน ฐานร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานของรัฐทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด เกิน 3,000 บาท ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 128 , 129 และ 169 จากกรณีการได้รับการโอนเงินผ่านบัญชีม้าของผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่เกี่ยวข้องกับเว็นพนันออนไลน์ จำนวน 2 แสนบาท เพื่อนำไปบริจาคให้กับวัดแห่งหนึ่งด้วย
ข่าวแจ้งด้วยว่า กรณีเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ทั้ง 3 ราย ถูกตั้งข้อกล่าวหาว่ามีพฤติการณ์ที่น่าเชื่อว่าให้ความช่วยเหลือในการตกแต่งพยานหลักฐานประกอบคำชี้แจง นายตำรวจยศสูงรายหนึ่งนั้น ผู้บริหารระดับสูง สำนักงาน ป.ป.ช.รับทราบเรื่องแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลว่า เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ทั้ง 3 ราย เป็นใคร อยู่สังกัดไหน และมีพฤติการณ์กระทำความผิดตามที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาจริงหรือไม่