‘ธรรมนัส’ เดินหน้าเอาผิด ขรก.ไร้จิตสำนึก ปมสวมสิทธิ์ ส.ป.ก. สั่งที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย ประสาน‘ปปป.-ปปง.’ลุยสอบผู้ที่เกี่ยวข้อง 7 มี.ค.นี้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า 6 มี.ค. 2567 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวในงานครบรอบวันสถาปนา 49 ปี สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ว่า การจัดสรรที่ดินต้องยึดหลักกฎหมาย ส.ป.ก. ปี 2518 เป็นหลัก เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ไม่มีที่ทำกินเป็นหลัก เปรียบเหมือนสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่มีผู้บังคับการทุกจังหวัด พื้นที่ไหนทำผิดผู้บังคับการต้องรับผิดชอบชอบ ในส่วน ส.ป.ก.เช่นกัน มีหัวหน้าส่วนในแต่ละจังหวัด 72 แห่งรับผิดชอบชัดเจน เมื่อกระทำผิดก็ต้องรับผิดชอบเช่นเดียวกัน และการกระทำผิดพื้นที่เดียวก็ไม่ควรถูกเหมารวมว่า คน ส.ป.ก. เป็นคนชั่วทั้งหมด
“ในกรณีที่มีนักวิชาการมาประณาม ดูถูก ต้องกล้าชี้แจงความจริง ต้องกล้าโต้ตอบ ไม่เช่นนั้นไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มความภาคภูมิใจ ผมในฐานะ รมว. และมี รมช. อีก 2 คน ล้วนผ่านงานมาทั้งสิ้น และทุกคนไม่ธรรมดา และมีที่ปรึกษาฝ่ายภาคเมืองที่เข้มแข็ง ขอให้ข้าราชการอย่าหงอย” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า หากพบว่ามีข้าราชการคนใด เอาตำแหน่งหน้าที่ที่มีอยู่ไปหากินโดยมิชอบ โดยใช้ช่องว่างของกฎหมาย จะต้องรับผิดชอบ และตนพร้อมที่จะตัดนิ้วร้ายทิ้งได้ทันที อย่างไรก็ตามตนรู้สึกผิดหวัง เนื่องจากให้ความไว้ใจข้าราชการในกระทรวงฯต่อการทำงานในหน้าที่ที่รับผิดชอบ แต่มีบางคนที่ตั้งแต่ตนเป็น รมช.เกษตรฯ เคยกระทำผิด และตนให้โอกาสแก้ตัว แต่ยังทำผิดซ้ำแล้วซ้ำอีก แสดงให้เห็นว่าบุคคลนี้เป็นนิ้วเน่า ตนจึงจำเป็นต้องตัดทิ้ง แต่หากจะให้ตัดนิ้วทั้งหมดก็จะไม่สามารถทำงานได้ ต้องเหลือนิ้วหรือคนไว้ทำงาน และการให้ข่าวของเจ้าหน้าที่ต้องมีความชัดเจน และคำนึงถึงภาพรวม ส.ป.ก. ย้ำว่าเจ้าหน้าที่ต้องเดินหน้าในการทำหน้าที่จัดที่ดินให้เกษตรกร ด้วยความซื่อตรงและโปร่งใส
รมว.เกษตรฯ กล่าวอีกว่า ในส่วนพื้นที่ ส.ป.ก.ที่ผ่านมา มีหลายพื้นที่ที่ประชาชนไม่สามารถพัฒนาพื้นที่ทำการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากมีโครงสร้างที่เป็นอุปสรรคในการพัฒนาพื้นที่ ส.ป.ก. ตนจึงพยายามแก้ระเบียบ โดยเฉพาะเรื่องการเพิ่มมูลค่าที่ดิน จาก ส.ป.ก.4-01 ให้เป็นโฉนด ซึ่งประเด็นดังกล่าวทำให้นักวิชาการออกมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ซึ่งโฉนดเพื่อการเกษตร ไม่เหมือนโฉนดที่ดิน แต่เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร ต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.จัดรูปที่ดิน 2518 ซึ่งเป็นกฎหมาย ส.ป.ก. โดยตรง และเดินตามกฎกระทรวงที่ว่าด้วยเรื่องการกำหนดกรอบการออกโฉนดที่ดินเพื่อการเกษตร
“ไม่อยากให้สังคม และนักวิชาการไปแปลงสารผิดจนเกิดความเสียหายต่อ ส.ป.ก. ซึ่งเจ้าหน้าที่ของ ส.ป.ก. ต้องกล้าที่จะชี้แจงระหว่าง ส.ป.ก.4-01 เดิม กับโฉนดที่ดินเป็นอย่างไร รวมถึงต้องพูดให้ชัดเจนกับเกษตรกรในพื้นที่” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า สำหรับเป้าหมายปฏิรูปที่ดิน ส.ป.ก. ทั้งหมด มี 22 ล้านไร่ ต้องเร่งดำเนินการให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด ยืนยันว่านโยบายการดำเนินการออกโฉนดที่ดินเพื่อการเกษตร 22 ล้านไร่ ตามเป้าหมายที่มีอยู่ ต้องมีการปลูกไม้ยืนต้นไม่ต่ำกว่า 10 ต้นต่อไร่ จะทำให้ได้ต้นไม้ 220 ล้านต้น เกิดการสร้างป่ามหาศาล
“อย่ามาบอกว่า ส.ป.ก. ไม่รักป่า ซึ่งเป็นการเข้าใจผิด รัฐมนตรีเกษตรฯทั้ง 3 คน มาจากบ้านนอก รักป่าทุกคน โดยเฉพาะพื้นที่ผม คือ จ.พระเยา หากพบว่าผู้นำชุมชนทำลายป่าก็จะแจ้งดำเนินคดีทันที” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า สำหรับการจัดสรรพื้นที่ ส.ป.ก. จากนี้ไปเจ้าหน้าที่ต้องมีจิตสำนึก ไม่ควรจัดในพื้นที่ป่า หรือแนวเขตใกล้พื้นที่อุทยานแห่งชาติ (อช.) ซึ่งเป็นแหล่งอาหารของสัตว์ป่า เพราะอาจทำให้สัตว์ป่าลงมาทำลายพืชไร่พืชสวนได้ และไม่เฉพาะพื้นที่เขาใหญ่ แต่ยังมีพื้นที่ภูหลวง จ.เลย ก็มีลักษณะเช่นเดียวกัน สัตว์ป่าจะลงมาทำลายพื้นที่ทางการเกษตร ทั้งนี้หากเกษตรกรได้รับการการจัดสรรพื้นที่ใกล้ป่าก็จะขยายที่ดินทำกินเกิดการบุกรุก และทั้งหมดคือการสร้างปัญหาไม่ใช่แก้ปัญหา ส่วนปัญหาข้อพิพาทที่เกิดขึ้นจะไปโทษเจ้าหน้าที่อุทยานฯก็ไม่ได้ เพราะเป็นหน้าที่ของเขา แต่ขอตำหนิสื่อมวลชนบางสำนักนำเสนอข่าวที่บิดเบือนเข้าใจผิด และไม่เป็นข้อเท็จจริง
“หากมีเจ้าหน้าที่คนใดไปสมรู้ร่วมคิดกับกลุ่มทุน และนำนอมินีมาสวมสิทธิ์ที่ดิน ส.ป.ก. ไปเรียกรับเงินรับทองจากกลุ่มทุน และสร้างรีสอร์ตรุกพื้นที่ ส.ป.ก. หากจับได้ เตรียมพ้นจากข้าราชการและจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย โดนวินัยร้ายแรง ก่อนจะมอบนโยบายในแต่ละครั้ง ผมได้คิดทบทวนมาแล้ว ผ่านการคิดร่วมกับที่ปรึกษาที่เคยทำงานในกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งทุกคนมีความสามารถ” รมว.เกษตรฯ กล่าว
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ส่วนกรณีที่มักจะมีพี่น้องข้าราชการ ถามว่าทำไมกระทรวงเกษตรฯมีแต่เรื่องประเด็นการทุจริต ตนจะตอบคำถามอยู่เสมอว่าเป็นเรื่องเก่าในอดีต ที่ต้องมาตามแก้ปัญหา แม้กระทั่งข้อพิพาทที่ดิน ส.ป.ก.ในพื้นที่เขาใหญ่ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พบว่า มีการรังวัดที่ดิน ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค.66 และรีบออกเอกสารสิทธิ์ ทำให้เกิดพิรุธ โดยในวันพรุ่งนี้ (7 มี.ค.2567) กระทรวงเกษตรฯจะพาตำรวจ ปปป. และ ปปง. ไปตรวจสอบผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อทำให้เกิดข้อเท็จจริง และคลายความกระจ่าง รวมถึงดำเนินคดีกับผู้มี่เกี่ยวข้องทั้งหมด