ป.ป.ช.นครศรีธรรมราช เผยมติชี้มูลคดีอาญา 'อดีตนายก อบต.นาทราย-พวกรวม 6 ราย' เจตนาช่วยน้องสาวเข้าทำงานเป็นพนง.จ้างตำแหน่งผู้ช่วยนักวิชาการเกษตรประจำปี 2552 โดยมิชอบ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช เผยแพร่มติคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ ชี้มูลความผิด อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) นาทราย อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช กับพวก ดำเนินการสรรหาและเลือกสรรบุคคลเป็นพนักงานจ้างตำแหน่งผู้ช่วยนักวิชาการเกษตรประจำปีงบประมาณ 2552 โดยมิชอบ
สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช ระบุว่า คดีนี้ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายก อบต.นาทรายกับพวก รวม 6 คน ร่วมกันทุจริตดำเนินการสรรหาและเลือกสรรบุคคลเป็นพนักงานจ้างตำแหน่งผู้ช่วยนักวิชาการเกษตร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดมีพฤติการณ์กระทำความผิด โดยแบ่งหน้าที่กันทำ
กล่าวคือ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายก อบต. นาทราย มีเจตนาให้บุคคลซึ่งเป็นเครือญาติ(น้องสาว) เข้ามาทำงานในตำแหน่งดังกล่าว โดยผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ได้เรียกผู้ถูกกล่าวหาที่ 2–5 เข้าไปรับทราบความประสงค์ของตน ต่อมาผู้ถูกกล่าวหาที่ 2-5 ได้ร่วมกันดำเนินการตามความประสงค์ของผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 จนทำให้ผู้ถูกกล่าวหาที่ 6 ได้เข้าทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยนักวิชาการเกษตร
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการประชุมครั้งที่ 131/2566 วันที่ 18 ธันวาคม 2566 ได้พิจารณาแล้วมีคำวินิจฉัยว่า ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 มีมูลความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 152 และมาตรา 157 และมีมูลความผิดตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 92
การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาที่ 2, 3, 4, 5 มีมูลความผิดทางอาญา มาตรา 157 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง
สำหรับการกระทำของผู้ถูกกล่าหาที่ 6 มีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 152 , มาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 แต่ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 152 , มาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 ได้ขาดอายุความ สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไป ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (6) จึงให้ยุติการดำเนินคดีอาญาในฐานความผิดดังกล่าว
อย่างไรก็ดี ในการเปิดเผยผลชี้มูลคดีนี้ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช ไม่ได้เปิดเผยรายชื่อผู้ถูกกล่าวหาที่ถูกชี้มูลความผิดแต่อย่างใด
ขณะที่ การชี้มูลความผิดอาญาของคณะกรรมการป.ป.ช.ยังไม่ถือว่าเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด