แห่งที่ 3 ในรอบ 2 เดือน คดี จนท.สหกรณ์ทุจริต! คราวนี้สหกรณ์การเกษตรพุนพิน จ.สุราษฎร์ฯ ปปง.สั่งอายัดได้ 1.7 ล. ผจก. พร้อม หน.ฝ่ายบัญชี ลูกน้อง ร่วมทำเอกสารเท็จ ปลอมลายมือชื่อสมาชิกกู้เงิน 67 ร เสียหาย 104 ล. ก่อนหน้า โกรกพระ นครสวรรค์ - สังคม จ.หนองคาย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า คณะกรรมการธุรกรรม สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) มีคำสั่งที่ ย.47/2567 ลงวันที่ 13 ก.พ.2567 อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว รายนางฐิติพร ขาวเกิด จำนวน 3 รายการ ได้แก่ ที่ดิน 1 แปลง เงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร 2 บัญชี รวม มูลค่า 1,719,422.15 บาท กรณีมีพฤติการณ์กระทำความผิดเกี่ยวกับการปลอมเอกสารสิทธิ์ และความผิดเกี่ยวกับยักยอก อันเนื่องจากคดีทุจริตในสหกรณ์การเกษตรพุนพิน จำกัด จ.สุราษฎร์ธานี
โดยเป็นเจ้าหน้าที่สหกรณ์ เป็นผู้จัดทำคำขอกู้ และปลอมลายมือชื่อของสมาชิกในสัญญาเงินกู้ เพื่อนำเงินไปเป็นของตนเองหลายครั้ง เป็นจำนวน 67 สัญญา (67 ราย)และในส่วนเงินรับฝาก เมื่อสมาชิกได้นำเงินมาฝากกับสหกรณ์แล้ว เจ้าหน้าที่จะรับเงินของสมาชิกสหกรณ์มาแต่ไม่นำเงินที่ได้รับเข้าในบัญชีของสหกรณ์หรือนำเข้าบางส่วน และได้นำเงินไปเป็นของตนเองหรือผู้อื่นรวมถึงมีการออกไปรับเงินฝากนอกสหกรณ์ แต่ไม่นำเงินที่ได้รับจากสมาชิกเข้าบัญชีของสหกรณ์
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า ทรัพย์สินที่ถูกยึดและอายัด จำนวน 3 รายการ ประกอบด้วย
1.ยึดที่ดินตามโฉนดที่ดินเลขที่ 89634 เลขที่ดิน 17 หน้าสำรวจ 9279 ตำบลวัดประดู่อำเภอเมืองสุราษฎรัธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี เนื้อที่ประมาณ 5-1-18 ไร่ ผู้ถือกรรมสิทธิ์ นางฐิติพร ขาวเกิดโดยนางฐิติพร ขาวเกิด ได้จำนองไว้กับนายสมบัติ ทวิชสังข์ ผู้รับจำนอง เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2553 ราคาประเมินที่ดินรวม 1,315580 บาท (ณ วันที่ 29 ธันวาคม 2565)
2. อายัดเงินในบัญชีเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขา พุนพิน (สุราษฎร์ธานี) ชื่อบัญชี นางสมจิตต์ เสมสันต์ ยอดเงินคงเหลือจำนวน 3,064.66 บาท (ณ วันที่ 10 มกราคม 2567)
3.อายัดเงินในบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขา คีรีรัฐนิคม ชื่อบัญชี นายสุริยา ไทยชนะ ยอดเงินคงเหลือจำนวน 777.49 บาท (ณ วันที่ 29 กันยายน 2566)
รวมราคาประเมินจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 1,719,422.15 บาท (พร้อมดอกผล มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน (เก้าสิบวัน) นับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการธุรกรรมมีมติ กล่าวคือ นับตั้งแต่วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 ถึงวันที่ 12 พฤษภาคม 2567 ทั้งนี้ ให้รวมถึงเงินหรือทรัพย์สินที่ได้มาจากการจำหน่าย จ่าย โอนด้วยประการใดๆซึ่งทรัพย์สินดังกล่าวหรือสิทธิเรียกร้องหรือผลประโยชน์หรือดอกผลของเงินหรือทรัพย์สินดังกล่าวด้วย
@ จว.ชงผลสอบ ปปง. –ปลอมลายมือซื่อสมาชิกยื่นกู้ 67 สัญญา
สำหรับคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรม ที่ ย. 47/2567 เรื่อง ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราวมีรายละเอียดดังนี้
ด้วยสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) ได้รับรายงานจากศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตามหนังสือที่ สฏ 0010/21521 ลงวันที่ 13 ธันวาคม 2565เรื่อง ขอให้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน รายนางฐิติพร์ ขาวเกิด กับพวก ซึ่งเป็นกรณีมีพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดเกี่ยวกับการปลอมเอกสารสิทธิ์ และความผิดเกี่ยวกับฮักยอก ตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ กล่าวคือ
เมื่อช่วงเดือนตุลาคม 2565 คณะผู้ตรวจการสหกรณ์เข้าตรวจสอบกิจการและฐานะการเงินของสหกรณ์การเกษตรพุนพิน จำกัด ผลปรากฏว่าการดำเนินงานและการบริหารจัดการไม่สามารถให้บริการแก่สมาชิกของสหกรณ์ได้ เนื่องจากเกิดการทุจริตในสหกรณ์ ซึ่งเกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่สหกรณ์โดยมีพฤติการณ์ในส่วนของการกู้เงินคือ เจ้าหน้าที่สหกรณ์เป็นผู้จัดทำคำขอกู้ และมีการปลอมลายมือชื่อของสมาชิกในสัญญาเงินกู้ เพื่อนำเงินไปเป็นของตนเองหลายครั้ง เป็นจำนวน 67 สัญญา (67 ราย)และในส่วนเงินรับฝาก เมื่อสมาชิกได้นำเงินมาฝากกับสหกรณ์แล้ว เจ้าหน้าที่จะรับเงินของสมาชิกสหกรณ์มาแต่ไม่นำเงินที่ได้รับเข้าในบัญชีของสหกรณ์หรือนำเข้าบางส่วน และได้นำเงินไปเป็นของตนเองหรือผู้อื่นรวมถึงมีการออกไปรับเงินฝากนอกสหกรณ์ แต่ไม่นำเงินที่ได้รับจากสมาชิกเข้าบัญชีของสหกรณ์ จากการตรวจสอบพบว่า จำนวนเงินฝากตามบัญชีของสหกรณ์ต่ำกว่าสมุดคู่ฝากของสมาชิก จำนวน 122 บัญชี (105 ราย)และมีการยักย้ายเงินในบัญชีของสมาชิกในใบถอนเงินโดยที่สมาชิกไม่ได้มาถอนเงินของตนเอง
@เสียหาย 104,263,277 บ.
ต่อมาที่ประชุมคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงและเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ มีมติเป็นเอกฉันท์ลงโทษนางฐิติพร ขาวเกิด ผู้จัดการสหกรณ์ นางสาวภานิชา เสมสันต์ เจ้าหน้าที่บัญชี ไส่ออกจากการเป็นเจ้าหน้าที่สหกรณ์ และสหกรณ์ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษ นางฐิติพร ขาวเกิด และนางสาวภานิชา เสมสันต์ ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรพุนพินในความผิดฐานร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม ร่วมกันยักยอกและร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน โดยพนักงานสอบสวนรับเป็นคดีอาญาที่ 198/2566 และมีมูลค่าความเสียหายทั้งสิ้นประมาณ 104,263,277 บาท อันเข้าลักษณะเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (14) (18)แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 กรณีมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่านางฐิติพรขาวเกิด กับพวก ได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดดังกล่าว
ภาพประกอบจากไทยรัฐ /https://www.thairath.co.th/
@พบหลักฐานได้ทรัพย์สิน 3 รายการ
ในการนี้ เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ในการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 7/2566 เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2566 ที่ประชุมมีมติมอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ประกอบกับคำสั่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินลับ ที่ ม.445/2566 ลงวันที่ 26 กรกฎาคม 2566 เรื่อง มอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบธุรกรรมหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด รายนางฐิติพร ขาวเกิด กับพวก พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการ ตรวจสอบรายงานการทำธุรกรรมหรือข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรมของบุคคลดังกล่าวแล้ว ปรากฎหลักฐานเป็นที่เชื่อได้ว่านางฐิติพร ขาวเกิด กับพวก มีพฤติการณ์แห่งการกระทำอันเข้าลักษณะเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (14) (18) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 หรือเป็นผู้ซึ่งเกี่ยวข้องหรือเคยเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับผู้กระทำความผิดมูลฐานหรือความผิดฐานฟอกเงิน และจากการตรวจสอบข้อมูลการทำธุรกรรมหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด รวมทั้งจากการรวบรวมพยานหลักฐานปรากฏว่าบุคคลดังกล่าวได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 3 รายการ พร้อมดอกผลและเนื่องจากทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดในคดีนี้ประกอบด้วยอสังหาริมทรัพย์ ประเภทที่ดินตามโฉนดที่ดิน อันเป็นทรัพย์สินที่ปรากฏหลักฐานในทางทะเบียน ในการเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์หรือผู้มีกรรมสิทธิ์ครอบครองโดยผู้มีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้มีสิทธิครอบครอง อาจดำเนินการทางนิติกรรมโอนเปลี่ยนแปลงชื่อ ผู้ถือกรรมสิทธิ์หรือผู้มีสิทธิครอบครองในทางทะเบียนได้ และสังหาริมทรัพย์ประเภทเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร อันเป็นทรัพย์สินที่สามารถโอน ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นได้โดยง่าย หากมิได้มีการออกคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินดังกล่าวไว้ชั่วคราว เมื่อเจ้าของหรือผู้มีส่วนได้เสียหรือผู้มีสิทธิในทรัพย์สินดำเนินการโอน จำหน่าย ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นทรัพย์สินดังกล่าวไปเสีย และหากต่อมาศาลได้มีคำสั่งให้ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดิน สำนักงาน ปปง. อาจไม่สามารถติดตามทรัพย์สินดังกล่าวกลับคืนมาได้ จึงเป็นกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่านางฐิติพร ขาวเกิด กับพวก ได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดและอาจมีการโอน จำหน่าย ยักย้าย ปกปิด หรือช่อนเร้นทรัพย์สินดังกล่าว
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 34 (3) และมาตรา 48 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มติคณะกรรมการธุรกรรมในการประชุมครั้งที่ 2/2567 เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 และระเบียบคณะกรรมการธุรกรรม ว่าด้วยการรับเรื่อง การตรวจสอบการพิจารณาดำเนินการ และการควบคุมตรวจสอบการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2556 ข้อ 25
@ก่อนหน้าคดี หน.การเงินสหกรณ์ฯสังคม 45 ล.
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นปี 2567 ปปง.มีคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์คดีทุจรริตในสหกรณ์อย่างน้อย แห่ง ได้แก่ วันที่ 9 ม.ค.2567 ปปง. มีคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรมที่ย. 6 /2567 อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราวรายนายสุริยา พรหมมี หัวหน้าการเงินซึ่งเป็นลูกจ้างของสหกรณ์การเกษตรสังคม จำกัด ได้นำเงินสดที่สมาชิกนำมาฝากและได้ทำรายการฝากเงินถูกต้องแล้ว ไปกระทำการยกเลิกรายการฝากในระบบคอมพิวเตอร์ของสหกรณ์การเกษตรสังคม จำกัด นอกจากนี้ได้ลักเอาเงินของสหกรณ์ฯ ไปโดยการปลอมลายมือชื่อสมาชิกในการเบิกถอนเงินสดจากบัญชีสมาชิกแล้วเอาเงินดังกล่าวไปเป็นของตนเอง โดยที่เจ้าของบัญชีไม่ได้ทำรายการเบิกถอน รวมความเสียหายเป็นจำนวนเงิน 45,096,015 บาท ทรัพย์สินที่อายัด เป็นเงินใบบัญชีเงินฝากธนาคาร ในชื่อนายสุริยา กับพวกรวม 12 คน 21 รายการ (บัญชี) รวมเป็นเงิน 1,975,026.79 บาท (ข่าวเกี่ยวข้อง:ปปง.อายัดทรัพย์ได้ 1.9 ล. คดีลูกจ้างยักยอกเงินสหกรณ์ฯสังคม จ.หนองคาย 45 ล.)
@ สหกรณ์โกระพระ จ.นครสวรรค์ ฉ้อโกง 156 ล.
วันที่ 9 ม.ค.2567 ที่ผ่านมา สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) มีคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรม ที่ ย. 3 /2567 เรื่อง ยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว (เพิ่มเติม) ราย นายกุลเกียรติ ทับทิมทอง กับพวก จำนวน 1 รายการ พร้อมดอกผล คือ ที่ดินตามโฉนดที่ดิน เลขที่ 28060 เลขที่ดิน 357 ตำบลตะเคียนเลื่อน อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ เนื้อที่ประมาณ 2 งาน 90 ตารางวา พร้อมสิ่งปลูกสร้าง ราคาประเมินรวม 768,500 บาท คดีร่วมกันฉ้อโกงสหกรณ์การเกษตรโกรกพระ จำกัด ร่วมกระทำผิด 116 ครั้ง ความเสียหายกว่า 156 ล้านบาท ก่อนหน้านี้ ปปง.โดยคณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่ง ที่ ย. 168/2566 ลงวันที่ 5 กันยายน 2566 ยึดทรัพย์สิน นายกุลเกียรติ กับพวก จำนวน 9 รายการ เป็นที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างมูลค่า 25,761,300 บาท รวม 2 ครั้ง เป็นโฉนดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างในจ.นครสวรรค์ 10 รายการ มูลค่า 26,529,800 บาท