ดีเอสไอ ส่งหนังสือถึง ป.ป.ช. ทวงถามความคืบหน้าสอบสวนคดีผู้พิพากษาพันก๊วนรุกที่ภูเก็ตเรียกเงินเอกชนกว่า 400 ล. เปลี่ยนแปลงคำพิพากษา ปัจจุบันดำเนินการอยู่ขั้นตอนใด ผลคดีเป็นอย่างไร หลังส่งเรื่องมาให้นานแล้วตั้งแต่ช่วงเดือน เม.ย.63 เผยข้อมูลับเส้นทางเงิน มีเจ้าหน้าที่สนง.ที่ดิน ได้รับโอนด้วย
แหล่งข่าวจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ว่า ในช่วงปลายปี 2566 ที่ผ่านมา กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ทำหนังสือถึงเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอทราบผลการดำเนินคดีกรณีคณะพนักงานสืบสวน ดีเอสไอ ตรวจสอบคดีพิพากเรื่องที่ดินจำนวน 46 แปลง ระหว่างบุคคลและเอกชนแห่งหนึ่ง ในจังหวัดภูเก็ต ที่มีการฟ้องร้องคดีกัน ซึ่งปรากฏข้อมูลว่า บางคดีมีการเลื่อนการอ่านคำพิพากษาหลายครั้ง บางคดีมีการเปลี่ยนแปลงผลคำพิพากษาให้ลงโทษกรรมการบริษัท เป็นเหตุให้กรรมการบริษัทฯ ยอมตกลงมอบเงินจำนวนกว่า 400 ล้านบาท ให้กับคู่กรณีไป
ขณะที่จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่า หลังการมอบเงินจำนวนกว่า 400 ล้านบาทดังกล่าว มีการตรวจสอบพบหลักฐานการโอนเข้าไปบัญชีของอดีตผู้พิพากษาศาลจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินภูเก็ต และมีการส่งเรื่องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. สอบสวนไปแล้ว ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน 2563
"ทางดีเอสไอ ส่งเรื่องนี้ไปให้ ป.ป.ช.ดำเนินการสอบสวนตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อ หลังพิจารณาแล้วเห็นว่า กรณีดังกล่าวไม่ใช่ความผิดอาญาที่เป็นคดีพิเศษ ตามกฎหมาย ดีเอสไอ ซึ่งปัจจุบันระยะเวลาผ่านมานานแล้ว ทางดีเอสไอ จึงต้องการรับทราบความคืบหน้าว่า ปัจจุบันคดีดังกล่าว ดำเนินการอยู่ในขั้นตอนใด ผลคดีเป็นอย่างใด" แหล่งข่าวระบุ
อนึ่งเกี่ยวกับคดีข้อพิพากษาที่ดินจำนวน 46 แปลง ระหว่างบริษัทเอกชนรายใหญ่แห่งหนึ่งกับคู่กรณี ซึ่งมีคดีฟ้องร้องกันจำนวนหลายคดีทั้งคดีอาญาและคดีแพ่ง จนกระทั่งบริษัทต้องยอมจ่ายเงินชดเชยจำนวน 400 ล้านบาท นั้น สำนักข่าวอิศรา เคยนำเสนอข่าวไปแล้วว่า ที่ประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) ไล่ออกผู้พิพากษารายหนึ่งไปแล้ว และมีการส่งสำนวนสอบสวนคดีไปให้ ป.ป.ช.ไต่สวนคดีทางอาญา ซึ่งมีการแต่งตั้งคณะกรรมการไต่สวนเป็นทางการแล้ว หลังจากมีการรวบรวมข้อมูลเบื้องต้น เช่น พฤติการณ์การ กระทำความผิด รวมไปถึงเส้นทางการเงินแล้ว
ขณะที่ในช่วงต้นเดือน ก.พ.2567 ที่ผ่านมา ที่ประชุม ก.ต.ได้มีมติเห็นชอบไล่ออกราชการอดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา เพิ่มอีก 1 ราย ที่เคยปรากฏข่าวเข้าไปมีส่วนพัวพันกับการแทรกแซงกระบวนการต่อสู้คดีข้อพิพากษาที่ดินจำนวน 46 แปลง ดังกล่าวด้วย โดยปรากฎภาพถ่ายหลักฐานยืนยัน หลังพิจารณารายงานผลการสอบสวนอดีตผู้พิพากษาศาลฎีการายนี้ กรณีมีพฤติการณ์เข้าไปก้าวก่ายหรือแทรกแซงการพิจารณาพิพากษาคดีของข้าราชการตุลาการอื่น ซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาขาดความเป็นอิสระหรือความยุติธรรมในคดี เพื่อให้คู่ความได้เปรียบในผลแห่งคดี อันมีลักษณะเป็นการกระทำเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับผู้อื่น ซึ่งถือเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการและเป็นการไม่ถือและปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนและประเพณีปฏิบัติของทางราชการ และจริยธรรมของข้าราชการตุลาการตามที่ ก.ต. กำหนด และการไม่ถือและปฏิบัตินั้นเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง
ขณะที่ แหล่งข่าวจากสำนักงานศาลยุติธรรม เปิดเผยสำนักข่าวอิศราว่า นอกจากผู้พิพากษาศาลฎีการายนี้จะถูกไล่ออกราชการแล้ว น่าจะมีการส่งสำนวนสอบสวนคดีนี้ไปให้ ป.ป.ช. เพื่อไต่สวนคดีทางอาญาด้วย เนื่องจากข้อกล่าวหาที่ผู้พิพากษาศาลฎีการายนี้ ระบุว่ามีลักษณะเป็นการกระทำเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับผู้อื่น ซึ่งถือเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการเป็นความผิดทางคดีอาญา ถ้าหากมีการส่งสำนวนการสอบสวนไปให้ คาดว่า ป.ป.ช.น่าจะมีการรวมเป็นสำนวนคดีเดียวกันกับผู้พิพากษารายแรก
- ก.ต.ไล่ออกอดีต พ.ศาลฎีกา ก้าวก่ายแทรกแซงการพิจารณาคดีลูกน้อง-หลังพันคดีรุกที่ภูเก็ต
- ไล่ออกไม่พอ! พ.ศาลฎีกา พันคดีภูเก็ต ทุจริตต่อหน้าที่ต้องส่งสำนวน ป.ป.ช.ด้วย
อ่านข่าวเกี่ยวข้อง :
- โดน 3 เด้ง! ก.ต.สอบวินัยร้ายแรง 'พ.ศาลฎีกา’-พักงาน-ห้ามขึ้นอาวุโส พันคดีรุกที่ภูเก็ต
- ก.ต.ข้างมาก 9:6 ไม่เห็นชอบตั้ง‘ผู้พิพากษา’พันคดีรุกที่เรียกชดเชย 400 ล.เป็น‘หน.ฎีกา’
- ก.ต.ไล่ออกผู้พิพากษาพันคดีก๊วนรุกที่ภูเก็ตเรียก 400 ล.- ชงตั้งสอบวินัยร้าย พ.ฎีกา
- จ่อโดนสอบคดีอาญาซ้ำ! อนุฯ ป.ป.ช. ชงตั้งไต่สวนผู้พิพากษาพันก๊วนรุกที่ภูเก็ตเรียก 400 ล.