เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา 'เกษม กลั่นยิ่ง' อดีต ปธ.ช.พ.ค. ทุจริตเงินกองทุนสนับสนุนพิเศษฯ ร่วมลงทุนโครงการพลังงานไฟฟ้าขยะชุมชน บ.หนองคายน่าอยู่ ปี 57 ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบกลาง พิพากษาลงโทษจำคุก 10 ปี พร้อมพวก 1 ราย ปรับเอกชน 130,000 บาท ที่เหลือรอด - ป.ป.ช.เห็นพ้องตาม อสส.ขออุทธรณ์สู้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายเกษม กลั่นยิ่ง ในฐานะประธานกรรมการบริหารกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค. กับพวก รวม 17 ราย ทุจริตเงินกองทุนสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค. ซึ่งได้ร่วมลงทุนในโครงการพลังงานไฟฟ้าขยะชุมชนของบริษัท หนองคายน่าอยู่ จำกัด เมื่อ ปี 2557 ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้ความผิดทางอาญา ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 4,6, 8 และ 11 ประกอบ ป.อ. มาตรา 83 , 86 และ 91 พ.ร.ป. ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 ประกอบ พ.ร.ป. ป.ป.ช.พ.ศ. 2561 มาตรา 192 และ ป.อ.มาตรา 83 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2563
โดยคดีนี้ ปรากฏชื่อผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ นายเกษม กลั่นยิ่ง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 , นายสมศักดิ์ ตาไชย ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2, นายสุรเดช พรหมโชติ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3, นายประวิทย์ บึงไสย์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4, นายนเรศ แสนมูล ผู้ถูกกล่าวหาที่ 5, นายสมศักดิ์ ทองแก้ว ผู้ถูกกล่าวหาที่ 6, นายอุดม รูปดี ผู้ถูกกล่าวหาที่ 7, ว่าที่ร้อยตรีเทพสุจินต์ พงษ์สวัสดิ์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 8, นางปิยธิดา พลน้ำเที่ยง หรือแสณจันทร์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 9, นายนิเทศ บัวตูม ผู้ถูกกล่าวหาที่ 10 , นายเพทาย ทองมหา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 11 , นางปิยาภรณ์ เยาวาจา หรือ รัตนพิทยาภรณ์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 12 , นายพรเทพ มุสิกวัตร ผู้ถูกกล่าวหาที่ 13 , นางมยุรี ตัณฑวัล ผู้ถูกกล่าวหาที่ 14 , นายสุเทพ ริยาพันธ์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 15 , นางสาวกัญญาณัฐ แจ่มมี ผู้ถูกกล่าวหาที่ 16 และบริษัท หนองคายน่าอยู่ จำกัด ผู้ถูกกล่าวหาที่ 17
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2566 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษาว่า ลงโทษนายเกษม กลั่นยิ่ง จำเลยที่ 1 และนายพรเทพ มุสิกวัตร จำเลยที่ 13 ตาม พ.ร.ป. ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 ประกอบ ป.อ. มาตรา 83 จำคุกคนละ 10 ปี
ลงโทษ บริษัท หนองคายน่าอยู่ จำกัด จำเลยที่ 17 ตามพ.ร.ป. ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 ประกอบ ปอ. มาตรา 86 ปรับ 130,000 บาท
ยกฟ้องจำเลยทั้งสิบเจ็ด ในความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502
ทั้งนี้ คดีนี้ยังไม่สิ้นสุด จำเลยทั้งหมด มีสิทธิ์ต่อสู้คดีในชั้นศาลที่สูงกว่านี้ได้อีก
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 24 ม.ค.2567 ได้พิจารณาแล้วมีมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษา สำหรับจำเลยที่ 1 , ที่ 13 และที่ 17 และเห็นพ้องด้วยตามความเห็น อสส.ที่จะยื่นอุทธรณ์ สำหรับจำเลยที่ 2 ถึงที่ 12 และที่ 14 ถึงที่ 16 ในส่วนความผิดตาม พ.ร.ป. ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และมีมติเห็นชอบให้อุทธรณ์คำพิพากษาเพื่อให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสิบเจ็ด ตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502
สำหรับ พ.ร.ป. ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 ระบุว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ