‘ครม.’ เลื่อนถกโครงการ ‘โคแสนล้าน’ นำร่อง วงเงินสินเชื่อ 5 พันล้าน หลัง ‘สมศักดิ์’ เสนอกลางวงประชุมฯ ขอเลื่อนการพิจารณาออกไปก่อน พร้อมสั่ง ‘สทบ.’ เร่งประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้สมาชิกฯรับทราบ
....................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการบรรจุวาระ เรื่อง การดำเนินงานโครงการ ‘โคแสนล้าน’ นำร่อง ซึ่งเสนอโดยคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (กทบ.) ที่มีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ให้ที่ประชุม ครม. พิจารณา อย่างไรก็ดี เมื่อเข้าสู่วาระการประชุม นายสมศักดิ์ ได้เสนอ ครม. ขอให้เลื่อนการพิจารณาเรื่องดังกล่าวออกไปก่อน
ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ ยังขอให้สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลของโครงการ ‘โคแสนล้าน’ นำร่อง ให้สมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง รวมทั้งเกษตรกรและประชาชนผู้สนใจโดยทั่วไปได้ทราบอย่างถูกต้อง และทั่วถึง โดยด่วน ซึ่ง ครม. ได้พิจารณาแล้ว และลงมติเห็นชอบตามที่นายสมศักดิ์ เสนอ
“ในคราวประชุม ครม. เมื่อวันที่ 30 ม.ค.2567 รองนายกรัฐมนตรี (นายสมศักดิ์ เทพสุทิน) ประธานกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ขอให้เลื่อนการพิจารณาเรื่องนี้ออกไปก่อน และขอให้สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลของโครงการ “โคแสนล้าน” นำร่อง ให้สมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง
รวมทั้งเกษตรกรและประชาชนผู้สนใจโดยทั่วไปได้ทราบอย่างถูกต้องและทั่วถึงโดยด่วน ซึ่ง ครม.ได้พิจารณาแล้วลงมติเห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสมศักดิ์ เทพสุทิน) ประธานกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติเสนอ จึงเรียนยืนยันมา ทั้งนี้ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้แจ้งให้สำนักงานกองทุนหมู่บ้าน และชุมชนเมืองแห่งชาติทราบด้วยแล้ว” หนังสือแจ้งมติ ครม. เรื่อง การดำเนินงานโครงการ ‘โคแสนล้าน’ นำร่อง ลงวันที่ 1 ก.พ.2567 ระบุ
สำหรับโครงการ ‘โคแสนล้าน’ นำร่อง เป็นดำเนินการภายใต้กรอบวงเงินสินเชื่อของสถาบันการเงิน กรอบวงเงิน 5,000 ล้านบาท โดยการให้สินเชื่อแก่กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง สำหรับให้สมาชิกกองทนหมู่บ้านฯกู้ยืม เพื่อประกอบอาชีพเลี้ยงโค จำนวน 100,000 ครัวเรือนๆ ละ 50,000 บาท และรัฐชดเชยดอกเบี้ยให้กับสถาบันการเงินในอัตรา 4% ต่อปี เป็นระยะเวลา 2 ปี จำนวน 400 ล้านบาท หรือปีละ 200 ล้านบาท
ทั้งนี้ สมาชิกฯ จะได้รับคำแนะนำการเลี้ยงโคจากกรมปศุสัตว์ พร้อมทั้งจัดหาตลาดเพื่อรองรับ เพื่อต่อยอดและขยายผลในการสร้างอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับสมาชิกกองทุนหมู่บ้านฯ ในด้านการผลิต การแปรรูป และการจัดจำหน่าย โดยคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ต่อครัวเรือนอย่างน้อย 240,000 บาทต่อครัวเรือน จากต้นทุน 50,000 หรือ 4.8 เท่า ในระยะเวลา 5 ปี (โค 2 ตัว เฉลี่ยราคาโคตัวละ 25,000 บาท สร้างรายได้ไม่น้อยกว่า 120,000 บาทต่อตัว)