บลูมเบิร์กตีข่าวอ้างคำให้การ 3 บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ใช้ ปตท.-รัฐวิสาหกิจต่างประเทศเป็นนายหน้าทำสัญญากับรัฐบาลเอกวาดอร์ ก่อนโอนสัญญาให้กับเอกชน เลี่ยงขั้นตอนประกวดราคา เผย จนท.รัฐวิสาหกิจเอกวาดอร์ เอกชนที่ปรึกษาคนกลางมีเอี่ยวรับเงินสินบนแลกเอื้อประโยชน์การทำสัญญา
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวว่าสำนักข่าวบลูมเบิร์กของสหรัฐอเมริกาอ้างในรายงานข่าวว่าบริษัทค้าน้ำมันยักษ์ใหญ่ของโลกจำนวนสามแห่ง ได้ใช้นายหน้า (Front) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจจากประเทศจีน,ไทย,โอมาน และอุรุกวัย ดำเนินการเป็นบริษัทนายหน้าในการทำข้อตกลงที่มีการทุจริตกับทางประเทศเอกวาดอร์ ตามคำให้การต่อคณะลูกขุนที่บรู๊คลิน รัฐนิวยอร์ก
บริษัทค้าน้ำมันสามแห่งดังกล่าวได้แก่บริษัท Gunvor Group, Vitol Group และ บริษัท Trafigura Group โดยทั้งสามบริษัทใช้รัฐวิสาหกิจค้าน้ำมันในประเทศอื่นๆดำเนินการดัดแปลงข้อตกลงโดยทุจริตเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับตนเอง ตามคำให้การในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งคำให้การนั้นเป็นส่วนหนึ่งของการพิจารณาคดีครั้งใหญ่ที่มีต่อบริษัทผู้ค้าโภคภัณฑ์ในรอบกว่าทศวรรษ
คดีดังกล่าวเริ่มจากอดีตผู้ค้าของบริษัท Vitol ถูกกล่าวหาว่าให้สินบนกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลเพื่อให้ชนะข้อตกลงทางธุรกิจ ทำให้มีการเปิดโปงการทุจริตอื่นๆเป็นจำนวนมากออกมา เนื่องจากว่าเอกวาดอร์ทำข้อตกลงน้ำมันมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงปี 2553 ภายใต้การบริหารงานของอดีตประธานาธิบดีราฟาเอล คอร์เรอา
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นายนิลเซ่น อาเรียส ซึ่งเคยเป็นผู้จัดการการค้าระหว่างประเทศที่รัฐวิสาหกิจ Petroecuador หรือปิโตรเอกวาดอร์ได้ให้การต่อศาลว่าเขาเคยรับสินบนจากหลายบริษัทรวมถึงบริษัทอย่าง Vitol, Trafigura, Gunvor,Noble,Petredec และ Sargeant Marine
นายอาเรียสให้การกับศาลว่าการที่เขาติดต่อกับรัฐวิสาหกิจต่างชาตินั้นถือว่าเป็นเรื่องที่มีความคล่องตัวกว่ามากเมื่อเทียบกับการติดต่อทำสัญญากับบริษัทเอกชน ซึ่งต้องมีกระบวนการประกวดราคาสาธารณะ
นายอาเรียสกล่าวต่อไปว่านายฮาเวียร์ อากีลาร์ พนักงานขายของบริษัท Vitol อีกรายที่ถูกพิจารณาคดีในข้อหารับสินบนต่างชาติและคดีฟอกเงิน พบวิธีการว่ารัฐวิสาหกิจที่มีความน่าเชื่อถือ สามารถจะนำไปเป็นนายหน้าในการทำสัญญาได้
“รัฐวิสาหกิจเหล่านี้จะดำเนินการในนามของ Vitol รับข้อตกลง และส่งมอบข้อตกลงให้กับบริษัท Vitol ในภายหลัง” รายงานข่าวระบุ
รัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่งชื่อว่าบริษัท Oman Trading International ซึ่งมีเจ้าของได้แก่รัฐบาลโอมานได้เซ็นสัญญาซื้อน้ำมันจากเอกวาดอร์ในเดือน ธ.ค.2559 และมีการจ่ายเงินล่วงหน้าไปแล้ว 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (10,655,400,000 บาท)
การเจรจาระหว่างโอมานและเอกวาดอร์พบว่ามีการจัดการอย่างระมัดระวังโดยพ่อค้าและคนกลาง ตามคำให้การในชั้นศาล โดยคนกลางได้แก่นายอันโตนิโอ เปเร ที่ปรึกษาเอกชนยอมรับว่าได้จัดการเรื่องการจ่ายสินบนให้กับบริษัทเอกชนเป็นจำนวนหลายแห่ง
นายเปเรยังได้อธิบายถึงวิธีการที่เขาร่างจดหมายซึ่งเป็นจดหมายที่ส่งจากรัฐวิสาหกิจ Oman Trading International ไปถึงผู้จัดการทั่วไปรัฐวิสาหกิจปิโตรเอกวาดอร์
ขณะที่รัฐวิสาหกิจ Oman Trading International หรือที่มีตัวย่อว่า OQ Trading ชี้แจงว่ารัฐวิสาหกิจแห่งนี้ดำเนินการตามกฎหมายทุกประการรวมถึงกฎหมายป้องกันการทุจริตในต่างประเทศของสหรัฐอเมริกาหรือ FCPA
โดย OQ Trading ไม่ทราบในสัญญากับทางปิโตรเอกวาดอร์ หรือว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่ผิดกฎหมายที่อ้างว่าดำเนินการโดยบุคคลที่สามแต่อย่างใด และ OQ Trading จะยังคงมุ่งมั่นรักษามาตรฐานทางจริยธรรมสูงสุดในทุกด้านของธุรกิจ
@บริษัท Trafigura, Gunvor
นายอาเรียสและนายเปเรให้การอีกว่ามีบริษัทเอกชนรายใหญ่อีกหลายรายได้ใช้รัฐวิสาหกิจค้าน้ำมันอื่นๆ เป็นนายหน้าด้วยเช่นกันในการทำสัญญากับปิโตรเอกวาดอร์ โดยบริษัทแห่งแรกได้แก่บริษัท Trafigura ซึ่งใช้รัฐวิสาหกิจพลังงานจากอุรุกวัยชื่อว่า Ancap เป็นนายหน้าเพื่อติดต่อทำสัญญาตั้งแต่ปี 2553 ซึ่งรายละเอียดสัญญาจะเป็นการเปลี่ยนน้ำมันดิบให้กลายเป็นน้ำมันดีเซลและน้ำมันเบนซิน โดยในกรณีนี้ทางบริษัท Trafigura ได้จ่ายสินบนให้กับนายอาเรียสผ่านนายเปเร
“สินบนถูกจ่ายโดยบริษัท Trafigura ผ่านบริษัทในอุรุกวัย หลังจากนั้นเงินก็ไปสู่หนึ่งในบริษัทของผม และต่อมาก็ไปสู่บริษัทของนายนิลเซ่น อาเรียส” นายเปเรกล่าวและกล่าวต่อไปว่าในกรณีนี้นายอาเรียสได้เงินสินบนไปประมาณ 2 แสนดอลลาร์สหรัฐฯ (7,104,000 บาท) ในการเป็นตัวเชื่อมโยงเพื่อทำสัญญากับบริษัท Trafigura
ส่วนกรณีบริษัท Gunvor พบว่ามีการใช้งานบริษัท Unipec ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Sinopec รัฐวิสาหกิจพลังงานยักษ์ใหญ่ของจีน และใช้งานบริษัท ปตท. ของประเทศไทย เป็นนายหน้าผู้ทำสัญญา ตามคำให้การของนายอาเรียสและนายเปเร
โดยก่อนหน้านี้ นายเรย์มอนด์ โคฮัท อดีตพนักงานขายของบริษัท Gunvor รับสารภาพแล้วว่าเขาได้จ่ายเงินสินบนไปกว่า 22 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (781,616,000 บาท) ให้กับเจ้าหน้าที่รัฐบาลเอกวาดอร์ ส่วนทางบริษัท Gunvor เปิดเผยว่าต้องเผชิญกับการสอบสวนของสหรัฐฯ ต่อกรณีสินบนในเอกวาดอร์ และต้องมีการเตรียมเงินสำรองไว้กว่า 650 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (23,094,500,000 บาท)
โฆษกของบริษัท Gunvor ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็น ส่วนโฆษกของบริษัท Trafigura กล่าวว่าบริษัท Trafigura ไม่ใช่คู่กรณีในคดีนี้และจะไม่แสดงความเห็นเกี่ยวกับกระบวนการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับบุคคลอื่นที่กำลังถูกดำเนินคดีอยู่
ส่วนโฆษกของรัฐวิสาหกิจ Ancap,Sinopec, ปตท. และโฆษกของบริษัทน้ำมัน Noble และ Petrodec ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นหรือไม่ได้ตอบกลับคำขอชี้แจงของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก
บริษัท PTT หรือว่า ปตท.ถูกกล่าวถึงในรายงานข่าวสำนักข่าวบลูมเบิร์ก
อนึ่งข้อตกลงน้ำมันของปิโตรเอกวาดอร์กับรัฐวิสาหกิจต่างประเทศกลายเป็นที่ถกเถียงกันมานานแล้วในเอกวาดอร์
นายเฟร์นานโด บิยาบิเซนซิโอ (เสียชีวิตแล้ว) ผู้สื่อข่าวเอกวาดอร์ที่ต่อมาได้กลายมาเป็นสมาชิกสมัชชาแห่งชาติเอกวาดอร์ได้ประเมินว่าหลังจากการสืบสวนในปี 2565 พบว่าปิโตรเอกวาดอร์น่าจะขาดทุน 4.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (170,606,400,000 บาท) จากการขายน้ำมันในราคาที่ต่ำกว่าตลาดภายใต้สัญญากับรัฐวิสาหกิจจากประเทศจีนและจากประเทศไทย
โดยที่ผ่านมาปิโตรเอกวาดอร์ได้รับเงินกู้ทั้งสิ้นมากกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (355,365,000,000 บาท) ซึ่งเงินจำนวนนี้อยู่ในข้อตกลงเงินกู้สำหรับน้ำมัน
อนึ่งนายบิยาบิเซนซิโอได้กล่าวเรื่องนี้ในเดือน มี.ค. 2565 และต่อมาในวันที่ 9 ส.ค. 2566 เขาก็ถูกลอบสังหาร
สำหรับคดีสินบนดังกล่าวนี้มีหมายเลขคดีได้แก่ US v. Aguilar, 20-cr-390 โดยคดีอยู่ที่ศาลแขวงสหรัฐ เขตตะวันออกของนิวยอร์ก (บรู๊คลิน)