‘ภาคประชาชน’ เสนอ 11 ประเด็น ปรับปรุง ‘ร่าง พ.ร.บ.กัญชา’ มุ่งปกป้องประชาชน ยันประเทศไทยต้องมี พ.ร.บ.กัญชา ตัดวงจรกลับไปเป็นยาเสพติด
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 13 ม.ค. 2567 ตามที่กรมแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เชิญภาครัฐ เอกชน ตลอดจนประชาชนทั่วไป ร่วมแสดงความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง พ.ศ. เมื่อวันที่ 12 ม.ค. 2567
นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล เลขาธิการเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย กล่าวว่า ภาคประชาชนได้นำเสนอและอภิปรายกันใน 11 ประเด็นได้แก่
-
1.นิยามของการใช้กัญชาในรูปแบบสันทนาการยังเป็นปัญหา เนื่องจากเขียนนิยามไว้แต่ไม่มีมาตรการปกป้องประชาชนที่ชัดเจน จึงเสนอให้มีมาตรการที่เป็นรูปธรรม อีกทั้งการนิยามเช่นนี้จะทำให้มีการตีความของเจ้าหน้าที่เพื่อจับประชาชน
-
2.เสนอให้เพิ่มมาตราที่ให้สิทธิของครัวเรือนในการใช้กัญชาในระบบภูมิปัญญา
-
3.เสนอให้กรรมการกัญชา กัญชง มีตัวแทนของภาคประชาชนนอกจากตัวแทนของรัฐ
-
4.เสนอให้มีการเขียนนิยามใหม่เพื่อปกป้องผู้ที่ไม่ใช้กัญชาแทนนิยาม สันทนาการที่กำหนดไว้ในกฎหมายของรัฐบาล เพื่อให้เกิดมาตรการที่ชัดเจนขึ้น
-
5.การขออนุญาต การต่อใบอนุญาต หรือการอุทธรณ์ ไม่ควรใช้ระยะเวลานานเกินไปโดยเสนอให้อยู่ในกรอบไม่เกิน 60 วัน
-
ในกระบวนการทำกัญชาในทุกขั้นตอนจะต้องกระทำผ่านใบอนุญาต ทั้งการปลูก การผลิต การขาย นำเข้า ส่งออก
-
มีมาตรการในการกำหนดวิธีการขาย สถานที่ขาย และ กำหนดบุคคลที่กฎหมายคุ้มครองจากกัญชา
-
มีมาตรการห้ามใช้กัญชาเพื่อสันทนาการ แต่นิยามสันทนาการมีปัญหารวมทั้งยังไม่มีมาตรการที่ชัดเจนว่าสิ่งใดเป็นสันทนาการสิ่งใดเป็นสุขภาพ จึงเสนอให้ใช้นิยามใหม่เพื่อให้มีมาตรการที่ชัดเจน
-
เสนอหลักการว่า ควรปกป้องผู้ไม่ใช้กัญชาแต่ต้องไม่ละเมิดสิทธิผู้ใช้กัญชา
-
มีข้อเสนอให้เขียนอำนาจของเจ้าหน้าที่ให้สอดคล้องกับสถานะของกัญชา เนื่องจากในร่างกฎหมายเป็นการให้อำนาจเจ้าหน้าที่เสมือนว่ากำลังปราบปรามยาเสพติดชนิดร้ายแรง
-
บทกำหนดโทษมีความรุนแรงเกินไป เหนือกว่าบุหรี่และเหล้าหลายเท่าตัวและบางบทลงโทษยังรุนแรงกว่ายาเสพติด จึงเสนอให้การลงโทษสอดคล้องกับข้อเท็จจริง
“หัวใจสำคัญที่เราเสนอคือ ให้กฎหมายกัญชาเป็นแม่แบบที่ชี้ทิศทางของกัญชาไทย โดยให้มาตรการที่เป็นการรักษาภูมิปัญญาการใช้กัญชาในทางยาของครัวเรือน และให้ออกมาตรการควบคุมที่ตรงกับข้อเท็จจริงโดยเฉพาะมาตรการคุ้มครองผู้บริโภค นอกจากนี้ยังเสนอว่าห้ามมีมาตรการกีดกันประชาชนในการปลูก และให้กำหนดการคุ้มครองผู้บริโภคที่มีมาตรการชัดเจนไม่เกิดความตีความให้เจ้าหน้าที่แสวงหาผลประโยชน์” นายประสิทธิ์ชัย กล่าว
นายประสิทธิ์ชัย ชี้แจงกรณีแบนเนอร์ 'คัดค้าน พ.ร.บ.กัญชา' ที่ปรากฏในโลกโซเชียล นั้น มิได้เป็นปฏิบัติการของเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย เครือข่ายฯ ต้องการ พ.ร.บ. เพราะถ้าไม่มี พ.ร.บ.กัญชาอาจถูกผลักไปสู่ยาเสพติดหรือการเข้าถึงที่ยากขึ้น ทั้งนี้อย่าลืมว่ากัญชายังอยู่ในเงื่อนไขของกฎหมายสหประชาชาติ การมีกฎหมายระดับ พ.ร.บ.จึงจะเป็นหลักประกันว่า ประชาชนจะมีสิทธิในการ ปลูกและใช้กัญชา และสามารถสร้างกลไกเชิงระบบเพื่อนำข้อดีมาใช้และจำกัดข้อเสีย กัญชามิได้มีแต่เรื่องสันทนาการ แต่มีอีกนับ 10 เรื่องที่มีความสำคัญ ต่อการปลูก การแปรรูป การขาย การรักษา เป็นต้น
“มีเนื้อหาหลายประการที่ต้องแก้ในร่างรัฐบาล โดยเฉพาะนิยามเรื่องสันทนาการที่ไม่อยู่บนข้อเท็จจริง แต่ทั้งหมดนี้เพื่อนำไปสู่การมี พ.ร.บ. เราจึงสนับสนุนให้มี พ.ร.บ.แต่มีหลายประเด็นที่เราต้องแก้ไขให้อยู่บนข้อเท็จจริงจึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน” นายประสิทธิ์ชัย กล่าว