'บรรณรักษ์ เสริมทอง' รองอธิบดีกรมป่าไม้เผยเตรียมฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 150 ล้าน บริษัท ซี.พี.เค. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กับพวก กรณีรุกที่ป่า 6.2 พันไร่ สร้างความเสียหาย ล่าสุด หลังอิศรา ตีข่าวมีร่องรอยการเข้าไปทำประโยชน์เพิ่ม ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบซ้ำ พบมีการตัดต้นไม้ ทำเส้นทางจริง อธิบดีฯ สั่งแจ้งความดำเนินคดีกรณีบุกรุกเพิ่มเติมแล้ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้า กรณี บริษัท ซี.พี.เค. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กับพวก บุกรุกยึดครองหรือทำประโยชน์ในอุทยานแห่งชาติและป่าสงวนฯกว่า 6,200 ไร่ ใน อ.ภูเรือ จ.เลย ซึ่งเป็น 1 ใน 6 คดี ที่ นายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ อัยการสูงสุด (อสส.) ได้ลงนามในคำสั่งสำนักงาน อสส.ที่ 2840 /2566 แต่งตั้งคณะทำงานยกร่างระเบียบคณะกรรมการอัยการว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินการทางวินัยและสั่งลงโทษทางวินัยสำหรับอัยการสูงสุด อันเป็นผลมาจากข้อร้องเรียนเกี่ยวกับคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชนและอาจมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานอัยการสูงสูงสุด
ขณะที่ คณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงในคดีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดีบริษัท ซี.พี.เค. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กับพวก ที่มี นายศักดา ช่วงรังษี อดีตรองอัยการสูงสุด เป็นหัวหน้าคณะทำงานได้เสนอความเห็นต่อ นายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ อัยการสูงสุดว่า การสั่งไม่ฟ้องในคดีดังกล่าวเป็นไปโดยไม่ชอบ ไม่ได้พิจารณาหลักฐานอย่างรอบคอบ ไม่เป็นไปตามระเบียบของสำนักงานอัยการสูงสุด ได้สร้างความเสียหายร้ายแรงกับราชการและทรัพยากรธรรมชาติ พร้อมเสนอให้ดำเนินการลงโทษทางวินัย อย่างร้ายแรงกับอัยการระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับการสั่งไม่ฟ้องดังกล่าว
ต่อมา สำนักข่าวอิศรา ขยายผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า ปัจจุบัน บริษัท ซี.พี.เค. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กับพวก ยังคงครอบครองพื้นที่ดินดังกล่าว โดยที่หน่วยงานรัฐยังไม่ได้มีการฟ้องขับไล่แต่อย่างใด หลังจากนั้น สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 อุดรธานี ส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป้า โดยหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลย.4 (ภูเรือ) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ส่วนป้องกันรักษาป้าและควบคุมไฟป่า เข้าไปปิดประกาศให้ประชาชนได้ทราบว่าพื้นที่ป่าแห่งนี้เป็นป่าตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ พุทธศักราช 2484 ห้ามมิให้ผู้ใดบุกรุก ยึดถือ ครอบครอง หรือทำประโยชน์ หากผู้ใดฝ่าฝืนมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 54 และมาตรา 72 ตรี ผลการปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องการฟ้องร้องดำเนินคดี ในชั้นศาลนั้น
- ผลสอบคำสั่งไม่ฟ้อง 6 คดีฉาวเป็นเหตุ! ‘อำนาจ' สั่งยกร่างระเบียบลงโทษวินัย ‘อัยการสูงสุด’
- เสนอลงโทษวินัยร้ายแรงกราวรูด ‘บิ๊กอัยการ’ คดีสั่งไม่ฟ้อง บ.ซี.พี.เค. รุกป่า 6,000 ไร่
- ย้อนคดี บ.เครือเปรมชัย รุกป่า 6พันไร่ ก่อนชงโทษวินัยร้ายแรงกราวรูด ‘บิ๊กอัยการ’ สั่งไม่ฟ้อง
- ชัดๆ เปิดไทม์ไลน์คดีรุกป่า 6 พันไร่ - อดีต อสส.สั่งไม่ฟ้องสวนความเห็น 'สำนักชี้ขาด-รองฯ'
- หลักฐานชัด! บ.เครือเปรมชัย ยังถือครองที่ดินคดีรุกป่า 6 พันไร่-รัฐไม่ฟ้องขับไล่?
- หลังอิศราตีข่าว! สปจ.6 อุดรฯลุยติดป้ายที่ดิน บ.เครือเปรมชัย เป็นพื้นที่ป่าไม้ ห้ามบุกรุก
- พยานหลักฐานใหม่ รื้อฟื้นคดีบ.เครือเปรมชัยรุกป่า 6 พันไร่ กู้ศักดิ์ศรีอัยการ-ทวงคืนสมบัติชาติ
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังนายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ เพื่อสอบถามเรื่องความคืบหน้าการดำเนินงานของกรมป่าไม้ หลังดำเนินการติดป้ายประกาศพื้นที่ที่อยู่ในความคอรบครองของบริษัท ซี.พี.เค. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กับพวก เป็นพื้นที่ป่าไม้ ดังกล่าว
โดยนายสุรชัยมอบหมายให้นายบรรณรักษ์ เสริมทอง รองอธิบดีกรมป่าไม้ ตอบคำถามกับผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา แทน
นายบรรณรักษ์ กล่าวว่า กรมป่าไม้เตรียมที่จะฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายต่อเอกชน ตีมูลค่าตามความเสียหายประมาณ 150 ล้านบาท ที่ทำให้เกิดความเสียหายในพื้นที่ น่าจะส่งเรื่องไปให้อัยการดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลภายในเดือน ม.ค.นี้
ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่นั้น นายบรรณรักษ์ กล่าวว่า หลังจากที่ทางอธิบดีกรมป่าไม้มอบหมายให้สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 อุดรธานี เข้าไปดำเนินการติดป้ายประกาศบริเวณที่ดินที่อยู่ระหว่างดำเนินคดี ได้มีการจัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปติดตามตรวจตราดูแลพื้นที่อยู่ตลอดว่ามีการบุกรุก ยึดถือครอบครองหรือมีการดำเนินการใดเพิ่มเติมหรือไม่ เนื่องจากปัจจุบันการดำเนินคดีดังกล่าวยังไม่ถึงสิ้นสุด ซึ่งเป็นขั้นตอนการปฏิบัติที่สั่งการเป็นหนังสือไปยังสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ในพื้นที่ดำเนินการ
" จากที่สำนักข่าวอิศรารายงานไป ทางอธิบดีกรมป่าไม้ได้สั่งการให้ทางสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 ให้หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลย.4 เข้าไปตรวจสอบพื้นที่ หลังติดป้ายก็เข้าไปตรวจตราสม่ำเสมอ ล่าสุดวันนี้ (9 ม.ค. 2567) เข้าไปตรวจสอบพบว่ามีร่องรอยการเข้าไปทำประโยชน์เพิ่มเติมจริง มีการตัดต้นไม้ ทำเส้นทาง ภายในพื้นที่ ทางอธิบดีกรมป่าไม้จึงสั่งให้หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลย.4 ไปแจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวนว่า มีผู้มาบุกรุกเพิ่มเติมในพื้นที่ตรงนั้น" นายบรรณรักษ์ ระบุ
@ บรรณรักษ์ เสริมทอง
นายบรรณรักษ์ กล่าวด้วยว่า "ที่ดินที่อยู่ระหว่างดำเนินคดี ผู้กระทำผิดไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ได้ ถ้าเข้าไปในพื้นที่ก็ถือว่าเป็นการยึดถือครอบครองใหม่ แต่เนื่องจากเขามีทรัพย์สินหรืออาคารของเขาอยู่ ซึ่งทางป่าไม้ก็บอกให้เจ้าของทรัพย์สินเข้าไปดำเนินการปิดล็อกหรือล็อกกุญแจให้หนาแน่น และอย่าเข้ามาในพื้นที่จนกว่าคดีจะสิ้นสุด ตามกฎหมายไม่สามารถให้เขาเข้าไปดำเนินการได้"
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงสถานะการฟ้องร้องดำเนินคดีล่าสุด นายบรรณรักษ์ ตอบว่า "ปัจจุบันสถานะคดียังไม่ถึงที่สิ้นสุด ล่าสุดที่ทางอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องเมื่อประมาณเดือนส.ค. 2565 ทางอัยการสุงสสุดได้ออกคำสั่งที่ 420/66 วันที่ 28 ก.พ. 66 ให้ตั้งคณะกรรมการทบทวนคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องดังกล่าว ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการของอัยการสูงสุด ฉะนั้นสถานะคดียังไม่ถึงที่สิ้นสุด
"แต่ถามว่าเขาอยู่ได้หรือไม่ เขาอยู่ไม่ได้อยู่แล้ว เพราะสถานะพื้นที่เป็นป่าไม้ ตามพ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 แต่การดำเนินการที่จะให้เขารื้อถอนหรือออกจากพื้นที่ป่าตามพ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 ในพระราชบัญญัติดังกล่าวไม่ได้ระบุกฎหมายไว้ชัดเจน เราจึงต้องใช้ฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย ปัจจุบันกรมป่าไม้ได้มอบหมายให้ส่วนนิติการดำเนินการทำเรื่องถึงอัยการเพื่อให้ยื่นฟ้องแพ่งให้กรมป่าไม้ โดยเรียกค่าเสียหายในอัตรา 150 ล้าน ที่เขาได้ทำให้เกิดคามเสียหายในพื้นที่ และเราก็ได้จัดงบประมาณที่เป็นค่าธรรมเนียมศาลเพื่อไปวางเป็นค้ำประกัน 300,000 บาท ซึ่งในปีนี้จะส่งไปให้อัยการดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลภายในเดือน ม.ค.นี้" นายบรรณรักษ์ ระบุ
นายบรรณรักษ์ ยังกล่าวย้ำว่า "ส่วนเรื่องคดีอาญาก็ดำเนินการต่อไปซึ่งอาจจะยังไม่ถึงที่สิ้นสุด แต่คดีทางแพ่งเราต้องฟ้องเพื่อเรียกค่าเสียหายที่เขาไปบุกรุกทำให้สภาพป่าของเราเสียหาย ซึ่งเราตีมูลค่าตามความเสียหายประมาณ 150 ล้านบาท ซึ่งเราใช้เงินมัดจำค่าธรรมเนียม 300,000 บาท ซึ่งเงินส่วนนี้ต้องมีการตั้งงบประมาณค่าธรรมเนียมศาล ซึ่งเราได้เงินในปีนี้พอดี"
อ่านข่าวเกี่ยวข้อง
- ทวงคืนที่ดิน บ.เครือเปรมชัย!ดีเอสไอ-กรมป่าไม้ ลุยยึด น.ส.3 ก.จ.เลย 147แปลง 6,229 ไร่
- ทำความรู้จัก บ.ซี.พี.เค.ฯ ไร่องุ่น โรงบ่มไวน์ 6 พันไร่กลุ่มเปรมชัย จ.เลย 700 ล.
- DSI ส่งสำนวนคดี บ.ซี.พี.เค.ฯเครือเปรมชัย-พวก รุกป่า 6,948 ไร่ จ.เลย ให้อัยการ
- ผลสอบคำสั่งไม่ฟ้อง 6 คดีฉาวเป็นเหตุ! ‘อำนาจ' สั่งยกร่างระเบียบลงโทษวินัย ‘อัยการสูงสุด’
- ขยะ (ยังคงซุกอยู่) ใต้พรมในสำนักงานอัยการสูงสุด?