เผยมติ ป.ป.ช. ตีตกข้อกล่าวหา 'สมัคร สุนทรเวช' อดีตผู้ว่าฯ กทม. พร้อม 'สหัส บัณฑิตกุล' รองผู้ว่าฯ กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่กม.ฮั้ว เอื้อประโยชน์ประกวดราคาจ้างเหมาก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำคลองแสนแสบ-คลองลาดพร้าวลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา หลังพิจารณาสำนวนไต่สวนข้อเท็จจริง ยังฟังไม่ได้ว่ากระทำความผิด ไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยแพร่มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2565 ตีตกข้อกล่าวหา นายสมัคร สุนทรเวช เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายสหัส บัณฑิตกุล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กรณีกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ และกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 กรณีการประกวดราคาจ้างเหมาโครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำคลองแสนแสบและคลองลาดพร้าวลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ตามประกาศกรุงเทพมหานคร ลงวันที่ 25 มีนาคม 2546
หลังพิจารณาสำนวนไต่สวนข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ว่าผู้ถูกกล่าวหา รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรายอื่น ๆ ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
สำนักงาน ป.ป.ช. ระบุพฤติการณ์ที่กล่าวหาว่ากระทำผิดโดยสรุปว่า ดำเนินการประกวดราคาโครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำคลองแสนแสบและคลองลาดพร้าวลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ไม่เป็นไปตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การพัสดุ พ.ศ. 2538 และกฏหมายที่เกี่ยวข้อง มีเจ้าหน้าที่ของรัฐรับสินบนจากผู้ประกอบการเพื่อให้ได้เป็นคู่สัญญากับกรุงเทพมหานคร
ผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ระบุว่า จากการไต่สวนข้อเท็จจริงโดยรวบรวมพยานหลักฐานสรุปได้ว่า การดำเนินโครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำดังกล่าวได้ดำเนินโครงการเป็นไปโดยชอบตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และไม่ปรากฎว่ามีการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการใด จึงยังรับฟังไม่ได้ว่า นายสมัคร สุนทรเวช เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 และนายสหัส บัณฑิตกุล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ได้กระทำความผิดตามที่มีการกล่าวหา รวมทั้งไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐรายอื่นได้กระทำความผิดในเรื่องที่กล่าวหาแต่อย่างใด ข้อกล่าวหาไม่มีมูล เห็นควรให้ข้อกล่าวหาตกไป ตามนัยมาตรา 91 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ประกอบมาตรา 192 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561
โดยที่ประชุมพิจารณาแล้วลงคะแนนเสียงแยกเป็น 2 ฝ่ายดังนี้ ฝ่ายเสียงข้างมาก จำนวน 4 เสียง เห็นว่าจากการไต่สวนข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ว่าผู้ถูกกล่าวหา รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรายอื่น ๆ ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
ฝ่ายเสียงข้างน้อย จำนวน 2 เสียง เห็นว่าควรรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมให้ครบถ้วนสมบูรณ์
ประธานฯ จึงสรุปว่าผลการลงคะแนนเสียงเพื่อมีมติของที่ประชุมในเรื่องนี้ต้องถือตามความเห็นของกรรมการ ป.ป.ช. เสียงข้างมากจำนวน 4 เสียง ซึ่งเกินกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ว่า จากการไต่สวนข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ว่าผู้ถูกกล่าวหา รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรายอื่น ๆ ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
กล่าวสำหรับ นายสมัคร สุนทรเวช เป็นอดีตนักการเมืองชื่อดัง เคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 25 รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีหลายกระทรวง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนที่ 13 ถึงแก่อนิจกรรม ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เมื่อวันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน 2552 สิริอายุได้ 74 ปี
ขณะที่ 16 มิ.ย. 2565 ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายืนสั่งให้คุณหญิงสุรัตน์ สุนทรเวช ภรรยานายสมัคร สุนทรเวช อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) และนางกาญจนากร ไชยลาโภ นางกาญจนาภา มุ่งถิ่น บุตรสาว ในฐานะทายาทของนายสมัคร รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน จำนวน 587,580,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีของต้นเงินดังกล่าว นับตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย 2553-วันที่ 10 เม.ย. 2564 และดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 3 ต่อปี หรืออัตราดอกเบี้ยใหม่ที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา ซึ่งออกตามความในมาตรา 7 วรรค 2 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บวกด้วยอัตราเพิ่มร้อยละ 2 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จ โดยให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนภายใน 60 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด อันเนื่องมาจากกรณีสั่งซื้อรถและเรือดับเพลิงของกรุงเทพมหานครจากบริษัท สไตเออร์ เดมเลอร์ พุค สเปเชียล ฟาห์รซอยก์ จํากัด ประเทศออสเตรีย กำหนดราคาซื้อขายให้สูงเกินจริง กระทรวงการคลัง กำหนดให้นายสมัคร ซึ่งเป็น 1 ใน 6 ของผู้ร่วมกระทำผิด ต้องรับผิดชดใช้เป็นเงิน 956,931,442 บาท
หมายเหตุ ภาพปก จาก https://workpointtoday.com/
เรื่องเกี่ยวข้อง:
- ฉบับเต็ม! คำพิพากษาให้ทายาท'สมัคร'ชดใช้ 587ล.พร้อมดอกเบี้ย คดีซื้อรถ-เรือดับเพลิงฉาว
- ชดใช้ 587ล.พร้อมดอกเบี้ย! ศาล ปค.สูงสุดพิพากษาทายาท'สมัคร'คดีซื้อรถ-เรือดับเพลิงโดยมิชอบ
- “คุณหญิงสุรัตน์”ภริยา“สมัคร”จะเอาเงินที่ไหนชดใช้หนี้ทุจริตรถดับเพลิง?
- ทรัพย์สิน ‘สมัคร-ภริยา’ ยื่น ป.ป.ช. 26.4 ล. ต้องชดใช้ 587 ล.คดีซื้อรถ-เรือดับเพลิง