อังกฤษออกประกาศคว่ำบาตร 14 บุคคล-บริษัททั่วอาเซียน 'เสอ จื้อเจียง' โดนด้วย ฐานเอี่ยวอุตสาหกรรมสแกมเมอร์ในเมียนมา ลาว กัมพูชา เผยรายงานคว่ำบาตรพบมีคนไทยเอี่ยวด้วย แต่เจ้าตัวเคยแจงแล้วว่าไม่เกี่ยวข้อง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานสถานการณ์เกี่ยวกับการฉ้อโกงหรือที่เรียกว่าสแกมเมอร์ว่าสหราชอาณาจักรได้มีการออกประกาศเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา ว่าได้ดำเนินการคว่ำบาตร 14 บุคคลและบริษัทในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน ซึ่งทั้ง 14 กลุ่มดังกล่าวมีส่วนในอุตสาหกรรมการหลอกลวงออนไลน์ โดยการประกาศนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีการพุ่งเป้าโดยตรงไปยังกลุ่มค้ามนุษย์ที่หลอกลวงผู้ใช้แรงงานให้มาทำงานฉ้อโกง
การคว่ำบาตรถูกประกาศโดยกระทรวงการคลังสหราชอาณาจักร โดยจะมุ่งเน้นไปยังเป้าหมายเป็นกลุ่มบุคคลเก้าคนที่มีความเชื่อมโยงกับศูนย์ฉ้อโกงหลอกลวง ซึ่งเป็นสถานที่ที่แรงงานถูกบังคับให้ทำงานเป็นสแกมเมอร์ในเมียนมา ในกัมพูชา และในลาว และกระทรวงยังได้กำหนดให้บริษัทอีกห้าแห่งซึ่งมีส่วนเชื่อมโยงกับคาสิโนและโรงแรมในกัมพูชาที่รู้จักกันในการดําเนินงานหลอกลวง
อุตสาหกรรมการหลอกลวงออนไลน์ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้บูมขึ้นมานับตั้งแต่การระบาดใหญ่ของโควิด-19 เมื่อแก๊งอาชญากรข้ามชาติของจีนที่มีความสัมพันธ์กับอุตสาหกรรมการพนันพยายามชดเชยรายได้ที่สูญเสียไปจากการปิดพรมแดน ผู้คนจากทั่วภูมิภาคและทั่วโลกจึงถูกล่อลวงเข้าสู่อุตสาหกรรมฉ้อโกงด้วยการหลอกลวงข้อเสนองานรายได้สูง และหนังสือเดินทางของพวกเขามักจะถูกยึดเมื่อเดินทางมาถึง
“ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อจะได้รับสัญญาว่าจะได้งานที่มีรายได้ดี แต่ต้องถูกทรมานหรือการปฏิบัติที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือถูกย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์” กระทวงการคลังฯระบุ
อนึ่งบุคคลที่ถูกคว่ำบาตรจำนวนสี่คนพบว่ามีความเกี่ยวข้องกับเหตุอาชญากรรมที่สามเหลี่ยมทองคำ ได้แก
1.นาย Zhao Wei เจ้าของและประธานของบริษัท Kings Roman Group ซึ่งดูแลคาสิโนในโซนนี้
2.ภรรยาและหุ้นส่วนทางธุรกิจของนาย Zhao Wei ชื่อว่านาง Su Guiqin
3.นายนัท รุ่งตะวันคีรี กรรมการบริษัท Kings Roman Group
และ 4.นาย Abbas Eberahim ชาวออสเตรเลียซึ่งตามกระทรวงการคลังของสหราชอาณาจักรมีระบุว่าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่คาสิโน
โดยก่อนหน้านี้ทั้งสี่คนถูกกระทรวงการคลังของสหรัฐอเมริกาคว่ำบาตรในปี 2561 ในข้อหา "ค้ายาเสพติด ฟอกเงิน ติดสินบน และการค้ามนุษย์และสัตว์ป่า" ผ่านคาสิโน
อย่างไรก็ตามนายนัทได้เคยให้สัมภาษณ์สื่อในไทยไปแล้วเมื่อปี 2561 ว่าเขาเคยทำงานที่คาสิโนจริงแต่ทำหน้าที่เป็นแค่ล่ามเท่านั้นแต่ตอนปี 2554 ก็ได้ลาออกไปดูแลแม่ที่ป่วย กับลูกคนเล็กเพิ่งเกิด และไม่ได้กลับไปทำงานอีก ได้แต่ทำไร่เลี้ยงหมู ทำอาชีพเกษตรหาเช้ากินค่ำ อยู่กับบ้านที่ จ.เชียงรายเท่านั้น
อีกหนึ่งบุคคลลที่ถูกคว่ำบาตรได้แก่นายเสอ จื้อเจียง ชาวจีนและชาวกัมพูชา ที่ตอนนี้อยู่ในการควบคุมของทางการไทยและกำลังต่อสู้เรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดนเพื่อไม่ให้ถูกส่งกลับไปประเทศจีน
ตามประกาศกระทรวงการคลังระบุว่านายเสอมีส่วนรับผิดชอบให้การสนับสนุนหรือได้รับประโยชน์จากการค้ามนุษย์ไปยังนิคม KK Park หรือเมืองชเวก๊กโก ซึ่งเป็นสถานที่ที่แรงงานถูกบังคับให้ทำงานเป็นสแกมเมอร์หลอกลวงเป้าหมายที่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ และแรงงานพวกนี้ยังถูกบังคับ ทำร้ายร่างกาย และถูกปฏิบัติอย่างย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
อีกสองบุคคลที่ถูกคว่ำบาตรได้แก่พันเอกซอว์ ชิต ทู และซอว์ มิน อู ซึ่งทั้งคู่มีความเชื่อมโยงกับหน่วยติดอาวุธที่ได้รับการควบคุมดินแดนตามแนวชายแดนโดยรัฐบาลทหาร เนื่องจากถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับชเวก๊กโก
การคว่ำบาตรยังพุ่งเป้าไปที่บุคคลหลายคนที่มีความเชื่อมโยงกับปฏิบัติการหลอกลวงในงกัมพูชา รวมถึงนาย Hum Sovanny ประธานคณะกรรมการบริหารของ Pacific Real Estate Property Management Company ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลอกลวงทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ และนาย Dong Lecheng เจ้าของ Golden Sun Sky Entertainment Co., Ltd ซึ่งเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่าลักลอบค้ามนุษย์ในศูนย์กลางการหลอกลวงชายฝั่งของสีหนุวิลล์
เรียบเรียงจาก:https://therecord.media/uk-sanctions-nine-linked-to-trafficking-southeast-asia