เหยื่อมาเลย์ถูกขู่ฆ่า หลังไม่ยอมหลงกลมิจฉาชีพบินมาประเทศไทย เผยตอนแรกรับหลงกลพราะอีกฝ่ายเสนองานบริการลูกค้ารายได้ดีพร้อมที่พัก แต่ครอบครัวเตือน เลยไม่ขึ้นเครื่อง หนึ่งวันถัดมา ประวัติถูกแฉบนอินเทอร์เน็ต
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวกรณีการฉ้อโกงหรือสแกมเมอร์ที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยว่าสำนักข่าวในประเทศมาเลเซียได้รายงานข่าวในกรณีที่ชายคนหนึ่งซึ่งรอดจากการเป็นเหยื่อมิจฉาชีพล่อลวงจัดหางานในประเทศไทยได้ออกมาเปิดเผยว่าเขาได้รับคำขู่เอาชีวิตจากกลุ่มมิจฉาชีพ
เหยื่อคนดังกล่าวซึ่งเป็นชายชื่อว่าเบน อายุ 35 ปี จากรัฐปีนังกล่าวว่าคำขู่ดังกล่าวนั้นเขาได้รับหลังจากที่เขาไม่ได้ไปขึ้นเครื่องบินซึ่งถูกจองโดยกลุ่มมิจฉาชีพเพื่อไปยังประเทศตามที่กำหนดเอาไว้ (ประเทศไทย)
เบนกล่าวต่อไปว่าการที่เขาปฏิเสธขึ้นเครื่องบินก็มาจากคำแนะนำของครอบครัวของเขาที่ขอร้องไม่ให้เขาขึ้นเครื่อง
“กลุ่มมิจฉาชีพบอกให้ผมขึ้นเครื่องเมื่อวันที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา แต่ผมไม่ได้เพราะครอบครัวของผมบอกว่ามันอันตรายและหลายคนที่ไปทำงานต่างประเทศไม่สามารถกลับมาเลเซียได้” เบนกล่าว
และวันต่อมากลุ่มมิจฉาชีพก็ได้มีการโพสต์เอกสารบัตรประจำตัวของเบนลงบนเฟซบุ๊ก
“กลุ่มมิจฉาชีพยังข่มขู่ผมผ่านการโทรแอปพลิเคชั่น WhatsApp และพวกเขายังได้คุกคามทั้งชีวิตของผมและครอบครัวของผม” เบนกลุ่มในงานแถลงข่าวที่ Semambu State Assembly Community Center เมื่อวันที่ 7ธ.ค.ที่ผ่านมา
เบนกล่าวว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นเมื่อเขาเห็นโฆษณาข้อเสนองานบนลิงก์เฟซบุ๊กในกลุ่มที่ชื่อว่า Kumantan People Seeking Group เมื่อวันที่ 20 ต.ค.
โดยเนื้อหางานที่ทำให้เบนสนใจนั้นเป็นงานบริการลูกค้า ทำให้เขาคลิกที่ลิงค์เพิ่มเติมเพื่อหารายละเอียดเกี่ยวกับงานตำแหน่งนี้
“ผมถูกเสนองานด้วยเงินเดือน 6,000-7,000 ริงกิต (45,300- 52,850 บาท) พร้อมทั้งเสนอที่พักอาศัย” เบนกล่าวและกล่าวต่อไปว่าแม้แต่ตั๋วเครื่องบินของเขาก็ถูกจองโดยกลุ่มมิจฉาชีพ ซึ่งตอนแรกเขาก็สนใจในข้อเสนอนี้
อย่างไรก็ตามเบนกล่าวว่าตอนนี้เขารู้สึกขอบคุณที่ไม่หลงกลนี้
เบนกล่าวว่าตัวเขากังวลเรื่องความปลอดภัยเพราะว่าหลังจากที่เขาไม่ได้ไปขึ้นเครื่องบินก็มีการเผยแพร่ประวัติของเขาบนโลกออนไลน์ เขาจึงได้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจกวนตันในวันที่25 พ.ย. ซึ่งจุดประสงค์การแจ้งความก็เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ไม่หวังดีเอาข้อมูลประวัติไปใช้ในทางไม่ถูกต้องอันจะทำให้เกิดปัญหากับเขา
“ผมคิดว่าเมื่อนานมาแล้วพวกเขาเสนองานให้ผมทำเป็นระยะเวลาอย่างน้อยหนึ่งวัน ดังนั้นผมจึงตัดสินใจที่จะปฏิเสธข้อเสนอเพราะคิดว่านั่นเป็นกลุ่มมิจฉาชีพ” เบนกล่าวและกล่าวต่อว่าหลังจากนั้นเขาก็ลบบัญชีเฟซบุ๊กของตัวเองเพื่อไม่ให้มิจฉาชีพติดต่อได้
เรียบเรียงจาก:https://www.sinarharian.com.my/article/638465/berita/semasa/nyawa-diancam-selepas-tolak-tawaran-kerja-di-thailand